เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บ่นจิปาถะmylifesucker
พ่อแม่คนไทยเห็นลูกเท่าเทียมกับตัวเองแค่ไหน
  • ตอนที่เราเห็นข่าวนั้นเราก็ไม่อยากบ่นออกสาธารณะเท่าไหร่ เพราะทุกคนก็ด่านักแต่งเพลงคนนั้นไปเต็มๆแล้ว(ซึ่งสมควรแล้ว ก็ได้แต่สงสารเด็กที่จะต้องมาเห็นข่าวตอนโต) จนเรามานึกได้ว่าถ้าพฤติกรรมของพ่อแม่ที่รุกล้ำสิทธิในร่างกายลูกที่ไม่ได้ชัดเจนโจ่งแจ้งแบบนี้ล่ะ เช่น หอมแก้ม กอด ซึ่งหลายคนก็คงมองว่าเรื่องปกติของพ่อแม่ที่จะแสดงความรักกับลูกใช่มั๊ั๊ย แต่ถ้าลูกไม่โอเค ลูกหรือเด็กเล็กเคยโดนถามconsentก่อนที่จะโดนกอดโดนหอมแก้มมั๊ย พวกนี้ดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่นึกถึงตอนที่เราเด็กๆเราก็มีโมเม้นที่ไม่โอเค ที่อยู่ดีๆญาติผู้ใหญ่ดึงตัวไปกอด ก้มมาหอมแก้ม เรารู้สึกไม่โอเค แต่เราพูดไปผู้ใหญ่ก็มััักตอบกลับมาว่าเขาเอ็นดู อย่าคิดมาก

    เราเลยข้องใจกับสังคมไทยจริงๆว่า ทำไมจะต้องให้มันเห็นชัดเจนขนาดนี้ ว่าเป็นพฤติกรรมที่ส่อไปในทางล่วงละเมิดเด็กอะ ถึงจะเข้าใจกันว่านี่ไม่ควรนะ จริงๆนอกจากprivate partของเด็ก เราควรใส่ใจเด็กในเรื่องที่เรามองว่ามันเล็กน้อยด้วยมั๊ย เรามักเอาอำนาจบางอย่างเวลาเป็นผู้ปกครองพ่อแม่ไปกดลูกโดยที่ผู้ใหญ่เองก็ไม่รู้ตัวหรือเปล่า คือพอพูดถึงอำนาจที่ผู้ใหญ่ไม่เคยให้มันทำให้นึกถึงวัยเด็กที่เราโดนผู้ใหญ่มักเผด็จการกับเรา เช่นเรื่องศาสนา ความเชื่อต่างๆ ผู้ใหญ่มักยัดเยียดให้เด็กตั้งแต่เกิด หรือพอโตขึ้นมาหน่อยก็เรื่องการศึกษาจะเรียนอะไร 

    เราหวังได้แต่ว่าในอนาคตเด็กจะมีอำนาจตัดสินใจเองในเรื่องส่วนตัวบางอย่างที่มีผลกระทบกับเขา แม้เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ผู้ใหญ่มองว่าเลือกให้เด็กไปก็ไม่น่าเป็นอะไร เพราะมีคติของคนไทยที่มักเชื่อกันว่าความรักของพ่อแม่บริสุทธิ์ พ่อแม่รักลูกทุกคน ผูกความเป็นพ่อแม่ไว้กับบุญคุณ เป็นเจ้าของชีวิตลูก สังคมในบ้านเราไม่รู้จะมีวันที่เลิกมองพ่อแม่ในมุมนี้ได้หรือเปล่า สำหรับเรามุมมองแบบนี้มันtoxicต่อตัวเด็กได้ มุมมองแบบนี้ทำให้เกิดchild abuse ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาในรูปของdomestic violence ตีลูกอ้างสั่งสอนบ้าง ทำโทษบ้าง สังคมไทยชินชากับมัน เพราะต่างคนก็บอกว่าชั้นก็โดน ใช่รุ่นชั้นก็โดน ใครๆก็โดน ความบิดเบี้ยวกลายเป็นเรื่องปกติ เนี่ยมันเป็นปัญหาเรื้อรังในไทยอยู่นะ แล้วสิ่งพวกนี้ก็หล่อหลอมเด็กโตขึ้นมา มีครอบครัว บางคนก็เอาสิ่งพวกนี้ไปสอนลูกตัวเองต่อ เป็นวัฐจักรที่ไม่จบสิ้น

    เพิ่มเติมเรากำลังคิดถึงว่าในเคสนักดนตรีที่กำลังเป็นข่าว เราควรระวังdigital footprintเรื่องเด็กด้วย เขาโตขึ้นมาอาจจะเห็นข่าวพ่อตัวเอง ซึ่งก็อาจจะกระทบต่อจิตใจเด็กได้ในตอนโตแล้ว คิดว่าทางตัวผู้ปกครองก็คงไม่อัพคลิปพวกนี้อีกแล้ว แต่ก็มีเรื่องน่ากังวลเข้าไปอีกว่า การที่เขาเลิกอัพคลิปแต่เขาไม่ได้เลิกพฤติกรรมmolestingลูกตัวเองอะ มันแย่ไปหมดทุกทางเลย นี่ถ้าเป็นเมืองนอก เขาคงเอาเด็กไปคุ้มครองแล้วมั๊ย แล้วยิ่งคิดมากไปกว่าเดิมว่ามีเด็กอีกกี่บ้านที่โดนแบบนี้และเด็กเขาก็ไม่รู้เพราะโดนพ่อแม่manipulatedว่าเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ สังคมคือแย่มากๆ 

    เพิ่มเติม2เราเพิ่งเห็นสัมภาษณ์ของแม่เด็ก แย่มากนะ พูดว่าอายุเด็กเท่านี้เป็นช่วงกอบโกย เห้ยอะไรคือกอบโกยกับร่างกายลูกอะ ยิ่งออกมาพูดยิ่งรู้สึกเขาไม่ได้มีสำนึกจริงๆว่าสิ่งที่เขาทำมันล่วงละเมิดสิทธิในร่างกายลูกตัวเอง ลูกเกิดมาร่างกายจิตใจก็เป็นของเด็กนะคะ ไม่ใช่ของพ่อแม่ เราจิน
    ตนาการไม่ออกเลยว่าเด็กคนนี้จะเจออะไรอีกกับพ่อแม่ของเขา 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in