คุณเคยตกหลุมรักใครแค่เพียงสบตารึเปล่า
ไม่เคยเหรอ?
งั้นผมจะเล่าเรื่องราวของผมกับความรักในร้านกาแฟให้ฟัง
วันนั้นเป็นวันที่ท้องฟ้ามืดสลัวแม้จะเป็นตอนกลางวัน ฝนเม็ดเล็กตกปรอยๆ ตั้งแต่ช่วงเช้าและไม่มีมีท่าว่าจะหยุด เขากำลังเดินไปกดเพิ่มอุณหภูมิของฮีตเตอร์เพื่อให้ในร้านนั้นอุ่นพอ ทั้งๆที่หมดหน้าหนาวแล้วแท้ๆ ทำไมอากาศถึงเย็นแบบนี้นะ
กริ๊ง
"ยินดีต้อนรับครับ"น้ำเสียงแสนรื่นหูของฮงบิน ซึ่งเป็นหนึ่งในไอเท็มชั้นยอดที่คอยเรียกลูกให้เข้าร้าน เจ้าตัวหันไปพูดคุยกับลูกค้าสาวอย่างชำนาญพร้อมกับแนะนำเมนูสุดฮิตที่หล่อนควรจะสั่ง แถมยังสายตาออดอ้อนทำเอาเขาอยากจะสำรอกออกมา
กับเพื่อนกับฝูงไม่เคยพูดกันดีๆเล๊ย
ได้แต่คิดด้วยความน้อยใจ
เขากลับไปประจำหลังเคาน์เตอร์ตามเดิม รับสั่งออร์เดอร์จากซังฮยอกที่ง่วนอยู่กับการวิ่งไปทั่วร้านเพียงเพราะพนักงานไม่เพียงต่อจำนวนคนที่เข้ามาเรื่อยๆ เด็กหนุ่มวัยสิบแปดวิ่งแจ้นจากหลังร้าน พร้อมกับลังแก้วกาแฟ บางครั้งก็ออกมาพร้อมกับถุงเมล็ดกาแฟ เห็นแล้วก็อดสงสารเสียไม่ได้
"ฝากด้วยนะ"เขาหันไปคุยกับฮงบิน จากนั้นจึงไปสมทบกับซังฮยอกที่วิ่งไม่ได้หยุดหย่อน
ฝนยังคงตกลงมาเรื่อยๆ เช่นเดียวกับเวลาที่กำลังเดิน ฝ้าสีขาวขึ้นเต็มกระจกใสหน้าร้านทำให้มองข้างนอกแทบไม่เห็น ฮักยอนที่เว้นว่างจากงานหลังร้านเลยเดินไปทำความสะอาด บรรจงเช็ดด้วยความตั้งใจ ถึงจะเหนื่อยมาทั้งวันแต่ไม่บ่นออกมาสักคำว่าเหนื่อย
สมแล้วที่เป็นเจ้าของร้าน
"พี่ไปพักเถอะ"
"นายนั่นแหละไปพัก เหนื่อยมาทั้งวันแล้วไม่ใช่รึไง" ชา ฮักยอนพูดขัดคนน้องทันที ในมือยังคงถือผ้าเช็ดกระจกอยู่ไม่วางไปไหน "ไปดูแจฮวานก็ได้ ป่านนี้มือหงิกไปแล้วมั้ง"
เขาพยักหน้ารับอย่างจำยอม ใครจะไปกล้าขัดพี่แกวะ มีหวังโดนหักเงินเดือนแน่ๆ
วอนชิกพาตัวเองกลับเข้าร้านไปแลเห็นสภาพเพื่อนร่วมงานแต่ละคนที่ดูไม่จืดเลยสักนิด ฮงบินนั่งทุบไหล่ไปมา ซังฮยอกก็ไปนอนตรงเก้าอี้ตัวยาวติดกระจกหน้าร้าน ส่วนแจฮวานก็บ่นกระปอดกระแปดว่าน้ำร้อนลวกมือจนแสบไปหมดแล้ว
ดูไม่ได้จริงๆ
กริ๊ง
"อะ ขอโทษครับ ร้านปิดแล้ว" ฮงบินหันไปพูดกับลูกค้าผู้มาใหม่ เจ้าตัวทำหน้างงนิดหน่อยก่อนจะเดิมกลับออกไปเงียบๆ แต่โดนฮักยอนขัดไว้เสียก่อนพร้อมกับรอยยิ้ม
"ไม่เป็นไรหรอกเข้ามาก่อนสิครับ ถือว่าปิดจ๊อบแก้วสุดท้ายของวันนี้"เจ้าของร้านหันไปพยักพเยิดกับแจฮวานที่แทบจะพองแก้มพองลมใส่แต่ก็ยอมกลับไปประจำที่ตัวเองโดยดี
"สั่งอะไรดีครับ"เขาหันไปถามเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรพร้อมกับยิ้มส่งให้ แม้จะได้รับแต่ความเงียบกลับมา
"ลาเต้"
ยอมรับว่าตัวเองแทบจะก้มไปใกล้หรือแนบหูกับปากอีกคนอยู่แล้ว น้ำเสียงผะแผ่วนั่นเหมือนกับโดนลมพัดหอบให้หายไปในอากาศ วอนชิกรับสั่งมาแบบงงๆ ถ้าหากบอกออเดอร์ผิดไปจะโดนว่ารึเปล่านะ แต่ได้เขาได้ยินว่าลาเต้ ก็ต้องเป็นลาเต้สิ
"ลาเต้แก้วหนึ่ง"หันไปสั่งกับแจฮวาน ซึ่งตอนนี้ดูเตรียมพร้อมสุดๆคงเพราะเป็นแก้วสุดท้ายวันนี้ก็ได้ เจ้าคนชงเลยกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษ
"ร้อนหรือเย็นล่ะ"
เออว่ะ
ลืมถาม
"เอาทั้งสองอย่างให้เขาเลย"
"แบบนี้ก็ได้เหรอ"
"เออ"
ระหว่างรอแจฮวานผมก็สำรวจลูกค้าคนนี้ถึงจะไม่ได้มองแบบตรงๆก็เถอะ ตอนเข้ามาในร้านแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเข้ามาตอนไหน ทั้งที่เจ้าตัวก็สูงประมาณ 180 น่าจะได้ เพราะเป็นคนเงียบๆงั้นเหรอ อาจจะใช่ ดูจากลักษณะการพูดแล้วคงเป็นคนที่ผูกมิตรกับใครยากแน่นอน ผิวสีขาวซีดตัดกับเสื้อโค้ทสีดำสนิทแลดูน่าลึกลับเข้าไปใหญ่ หน้าตาก็ใช้ได้อยู่
แล้วจะวิจารณ์ชาวบ้านเขาทำไม
"เฮ้! เหม่ออยู่นั่นแหละ น้ำแข็งละลายหมดแล้ว" แจฮวานตะโกนเรียกสติ เสียงแหลมๆนั่นบาดหูจนแทบล้มลงไปนอนกับพื้น เขามองค้อนใส่ก่อนจะยกกาแฟไปเสิร์ฟลูกค้าผมดำที่นั่งตัวลีบอยู่แถวท้ายๆของร้านดวงตาเรียวคมนั่นเหม่อออกไปถนนฝั่งตรงข้าม ปรอยฝนยังคงโปรยลงมาไม่หยุดนั่นเลยทำให้การมองเห็นเสื่อมลงไปกว่าครึ่งแต่วอนชิครู้ว่าฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นอะไร
คาเฟ่สัตว์เลี้ยง
"ชอบพวกหมาแมวงั้นเหรอ" เขาวางแก้วกาแฟลงพร้อมส่งยิ้มให้ ดวงตาเรียวคมก็หันมาสลับกับกาแฟ
"ผมไม่ได้สั่งแบบร้อน"
"เมื่อกี้ผมไม่ได้ถามคุณให้ชัดเจนว่าเอาแบบร้อนหรือเย็นผมเลยเอามาให้ทั้งสองอย่าง คิดว่าเป็นของกำนันก็แล้วกัน"
"ขอบคุณ" หัวทุยๆนั่นโค้งลงขอบคุณ
"คุณยังไม่ตอบผมเลยว่าชอบพวกหมาแมวรึเปล่า" วอนชิควางถาดเงินไว้โต๊ะข้างๆ แล้วถือวิสาสะนั่งโต๊ะเดียวกับคุณลูกค้าตรงหน้า ใบหน้าขาวเนียนนั่นมีแววตกใจเล็กน้อยแต่ก็กลับมาเรียบนิ่งตามปกติ "ก็นิดหน่อย"
"ผมมีคูปองส่วนลด--"
"จริงเหรอ"
แบบนี้ล่ะหูผึ่งเชียว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in