ชื่อเรื่อง: Enola Holmes (2020 film)
ประเภท: Mystery
เรท: PG13+
ช่องทางในการรับชม: Netflix
เราจะเล่าเรื่องสลับไปกับการคอมเม้นของเรานะคะ ทดลองเขียนแบบนี้ดู
เต็มไปด้วยสปอยล์ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
“จงใช้ชีวิต แต่อย่าอยู่เพราะตามหาใครบางคน จงอยู่เพื่อตามหาตัวเอง” – อีดิธ
เอโนล่า โฮล์มส์ (แสดงโดย Millie Bobby Brown จาก Stranger things) โดยชื่อของเธอมาจากการเล่นคำของคำว่า “Alone” เป็นชื่อ “Enola” เอโนล่า เป็นลูกสาวคนสุดท้องในตระกูลโฮล์มส์ ถูกเลี้ยงโดยคุณแม่ยูดอเรีย โฮล์มส์ (แสดงโดย Helena Bonham Carter จาก Harry Potter และ The crown) ตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 16 ปีที่เฟิร์นเดล ฮอลล์ ส่วนพี่ชายทั้งสองอย่างไมครอฟท์ โฮล์มส์ (แสดงโดย Sam Claflin จาก Me before you) และเชอร์ล็อค โฮล์มส์ (แสดงโดย Henry Cavill จาก Man of steel) ออกจากเฟิร์นเดล ฮอลล์ไปทำงานที่ลอนดอน เธอได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี แต่ไม่ได้เข้าเรียนเช่นเดียวกับเด็กสาวคนอื่นที่ต้องเรียนการเรือนหรือมารยาทตามแบบฉบับกุลสตรี เพราะแม่ของเธอเป็นผู้สอนการอ่าน เขียน กีฬา ฝึกฝนด้านสติปัญญาอย่างหมากรุกและเวิร์ดเกมส์ รวมไปถึงการต่อสู้อย่างยิวยิตสูให้แก่เธอทั้งหมด
จนกระทั่งวันหนึ่ง สาวน้อยตื่นขึ้นมาพบว่าแม่ของเธอหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่กลับทิ้งของขวัญให้ที่เป็นประโยชน์ต่อเธอในอนาคตอย่างหนังสือภาษาดอกไม้หรือเทคนิคการถอดโค้ดลับที่เธอเคยเรียนรู้มาจากแม่ เมื่อพบว่าแม่ของเธอได้หายไป พี่ชายทั้งสองจึงจำเป็นต้องเดินทางมาหาเธอที่เฟิร์นเดล ฮอลล์ และเอโนล่าต้องกลายเป็นเด็กในปกครองของไมครอฟท์ พี่ชายคนโตที่เจ้ากี้เจ้าการ มองว่าเด็กสาวอย่างเธอควรเข้าเรียนการเรือนกับโรงเรียนของครูใหญ่แฮร์ริสัน (แสดงโดย Fiona Shaw จาก Harry Potter) ด้วยเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจที่จะหนีออกมาเพื่อตามหาแม่ แทนที่จะเข้าเรียนโรงเรียนสตรีตามที่พี่ชายเธอต้องการ
ระหว่างการหนีออกจากบ้าน เธอได้พบกับไวเคานต์ทิวส์เบอร์รี่ มาร์ควิสแห่งแบซิลเวเธอร์ (แสดงโดย Louis Partridge จาก Medici) ไวเคานต์หนุ่มที่หลบหนีจากตระกูลจนเป็นคดีใหญ่ในไปทั่วลอนดอน และการพบกันระหว่างเธอกับเขา ทำให้เธอต้องเลือกระหว่างการตามหาแม่ การช่วยเหลือไวเคานต์หนุ่ม หรือการตามหาตนเอง
ด้วยความที่เนื้อเรื่องดำเนินผ่านเลนส์ของเอโนล่า จะทำให้เห็นภาพการเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของตัวเธอเอง จากสาวน้อยที่ถูกเลี้ยงดูโดยแม่ที่หัวก้าวหน้า จัดจ้าน และเฟมินิสต์มาตั้งแต่เด็กในเฟิร์นเดล ฮอลล์ กลายเป็นหญิงสาวผู้ฉลาดเฉียบคมในลอนดอน ทำให้เราเห็นการเจริญเติบโตของเธอเรื่อย ๆ จากสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี
แต่สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องนี้ คือ การตีแผ่สังคมในยุควิคตอเรียนผ่านมุมมองที่หนังเรื่องนี้จะถ่ายทอดให้ผู้ชมเห็นและขบคิดตามนั่นเอง
สำหรับเราแล้วด้วยความที่ยุควิคตอเรียนเป็นยุคที่ให้ความสำคัญต่อบุรุษมากกว่าสตรี ต่อให้เป็นยุคที่มีสตรีอย่างควีนวิคตอเรียปกครองก็ตาม (ซึ่งแน่นอนอยู่แล้ว ต่อให้ควีนปกครองเป็นผู้หญิง แต่ควีนต้องวางตัวกลางต่อการเมือง ให้เหล่าบุรุษในสภาสูงทำงานฝ่ายปกครองกันไป ช่างสังคมชายเป็นใหญ่สุด ๆ ไปเลย แนะนำให้ลองดูเรื่อง Victoria ที่เป็นซีรีส์เล่าเรื่องราวของควีนตั้งแต่เริ่มครองราชย์ดูนะคะ ตีแผ่สังคมได้ดีเลยทีเดียว) ซึ่งนั่นแหละ ในช่วงยุคนั้นเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนเริ่มต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงสภาพสังคมจากที่ให้คนในสภาสูงเป็นผู้ออกเสียงอย่างเดียว เป็นการให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงสตรีสามารถมีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้น และเป็นภารกิจลับ ๆ ที่แม่ของเอโนล่าจำเป็นต้องออกจากบ้านไปน้่นเอง
ด้วยความที่การดำเนินเรื่องไม่ได้เป็นแนวสืบสวนสอบสวนไขคดีจัดจ้านขนาดนั้น เพราะมันเป็นความบังเอิญที่เอโนล่าได้เจอกับไวเคานต์ในครั้งนั้น ทำให้นักฆ่าคนนั้นพยายามที่จะเข้าถึงตัวเธอเพื่อตามหาไวเคานต์นั่นเอง และมันสนุกตรงที่เอโนล่าเป็นหัวไวมาก ๆ รวมถึงเมสเสจในเรื่องมันกระแทกใจหลาย ๆ อย่าง รวมถึงไวเคานต์ที่ทำให้คนดูอย่างเราปลื้มเขามากกกก นั่นแหละ
"Politics doesn't interest you. Why?”
“Because it’s fatally boring.”
“Because you have no interest in changing a world that suits you so well. "
และใช่ค่ะ เราอดที่จะพูดถึงไม่ได้กับบทสนทนาระหว่างอีดิธกับเชอร์ลอค นักสืบหนุ่มชื่อดังที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันดี (แต่เราไม่ได้คุ้นเคยกับเขาสักเท่าไหร่เพราะยังไม่ได้ดูหรืออ่านนั่นเอง) เป็นบทสนทนาที่จิกกัด male privilege ที่ได้รับจากสังคมปิตาธิปไตยเข้มข้น ทำให้เรารู้สึกว่าการที่บุรุษสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายโดยไม่ต้องสนใจการเมืองนั้น มันเป็นเพราะพวกเขาเป็นอภิสิทธิ์ชน ตราบใดที่บ้านเมืองวุ่นวายแค่ไหน มันก็ไม่สะเทือนถึงขนหน้าแข้งพวกเขาหรอก
โดยภาพรวมแล้วหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นของนักสืบสาวอย่างเอโนล่าได้ดีเลยทีเดียว การดำเนินเรื่องสนุก ไม่น่าเบื่อ รวมถึงภาพสวยมาก ๆ ซึ่งเรามองว่าประเด็นที่เรื่องนี้หยิบมาเล่นเป็นประเด็นใหญ่คือการที่สตรีลุกออกมาทำอะไรสักอย่างเพื่อตนเอง ในขณะเดียวกันมันสะท้อนถึงการทำเพื่อตัวเองภายใต้สังคมชายเป็นใหญ่ เพราะว่าในบริบทสังคมยุควิคตอเรียนที่ไม่ได้เอื้อให้สตรีมีสิทธิ์หรือมีเสียงในการเมืองมากนัก พวกเธอต้องหลบซ่อนอุดมการณ์และดำเนินภารกิจอย่างลับ ๆ อย่างที่แม่ของเอโนล่ากับเพื่อนร่วมอุดมการณ์อย่างอีดิธและสตรีอีกหลายคนที่ทำเพื่อการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย มันทำให้เราเห็นว่าการถ่ายทอดความรู้ที่แม่ของเอโนล่าได้ปลูกฝังมาให้กับเธอตั้งแต่เด็กจนโตนั้น เป็นต้นทุนที่ดีต่อชีวิตเธอ และสามารถนำไปต่อยอดเพื่อหาตัวตนที่แท้จริงของเอโนล่าในอนาคตนั่นเอง
ท้ายสุดแล้วนั้น สิ่งที่แม่ของเอโนล่าพร่ำสอนบวกกับประสบการณ์ที่เธอได้พบเจอจากเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ช่วยทำให้เธอได้พบเพื่อนใหม่ระหว่างทาง ได้ตกตะกอนความคิดเกี่ยวกับการค้นหาตนเองในเส้นทางใหม่ รวมถึงค่อย ๆ หล่อหลอมตัวตนของเธอให้จากเด็กสาวแห่งเฟิร์นเดล ฮอลล์กลายเป็นเอโนล่า โฮล์มส์ นักสืบสาวแห่งลอนดอนที่ค่อย ๆ เติบโตได้อย่างงดงาม
มุมเม้ามอยตัวละครและนักแสดง:
ตัวละครและนักแสดงแต่ละท่านทำให้เรารู้สึกว้าวมาก ๆ ที่ทีมโปรดักชั่นไปจีบนักแสดงแต่ละคนมาแสดงเรื่องนี้ ก่อนอื่นเลย เรารู้จักน้องมิลลี่จาก stranger things (แต่ก็ไม่ได้ดูซีรีส์ที่น้องเขาแสดง) ทำให้เรารู้สึกว่าน้องแสดงเป็นเอโนล่าได้ดีเลยทีเดียว เพราะน้องแสดงได้สดใสสมวัย ฉลาดเฉลียว แก่นแก้ว และดุดันได้ดีมาก ชอบเวลาน้องมิลลี่ยิ้ม ดูขี้เล่นมาก ๆ และการแสดงของน้องทำให้เราเห็นว่าน้องเป็นนักแสดงวัยรุ่นที่ฝีมือดีและอนาคตไกลแน่นอน
เราจะไม่ลืมที่จะพูดถึงพระเอก(?) หรือไวเคานต์ทิวส์เบอร์รี่ที่แสดงโดยนักแสดงหน้าใหม่อย่างน้องลูอี้ เราพบกันครั้งแรกในเรื่องนี้ ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความพอช ความไฮโซ ผู้ดีอังกฤษ เจนเทิลแมนได้ชัดมาก ๆ เราชอบการแสดงของน้องเขานะคะ ส่วนตัวเรามองว่าบทบาทของไวเคานต์หนุ่มดูน้อยเกินไปถ้าจะมีการต่อยอดไปในภาคต่อ ๆ ไป (เราไม่ได้อ่านนิยาย ถ้าใครอ่านนิยายก็มาสปอยได้นะค /กระซิบ) แต่เราก็คาดหวังว่าจะได้เห็นการแสดงน้องในเรื่องอื่น ๆ มากกว่านี้เช่นกัน เพราะอยากเห็นการแสดงน้องมากกว่านี้ เราชอบเครื่องหน้าน้องมาก งานดีจริง ๆ (ยิ้มกรุบ)
ส่วนคนที่ว้าวไม่แพ้กันคือเชอร์ล็อคเวอร์ชั่นเฮนรี่ (คุณซูเปอร์แมน) เราว่าเขาถ่ายทอดความเป็นผู้ชายที่เป็น ignorant ได้ดีเลยนะคะ ถึงจะดูเป็นพี่ชายที่เหมือนจะเข้าอกเข้าใจน้องสาวคนเล็กมากกว่าพี่ชายคนโตอย่างไมครอฟท์คนจู้จี้ก็ตาม ส่วนไมครอฟท์นั้นเป็นพี่ชายคนโตที่มีปมที่ว่า เขาไม่เก่งเท่าน้องชายคนรองและน้องสาวคนเล็กนั่นเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นอีลีทหัวสูงทำงานให้กับรัฐบาลก็เถอะ เรารู้สึกว่าไมครอฟท์เป็นคนที่หัวสูงที่เจ้ากี้เจ้าการ ในมุมมองของผู้ชายยุคนั้นที่มีต่อสตรีที่ไม่สมหญิงเช่นน้องสาวตัวเองก็คงรู้สึกยุบยิบจนอยากจะเข้าไปจัดระเบียบชีวิตน้องสาวด้วยการจับเข้าคอนแวนด์ซะ และนั่นก็นรกมาก ๆ เลยล่ะ จนท้ายสุดแล้วไมครอฟท์ก็ยอมลงให้น้องสาว ถึงแม้ว่าเจ้าตัวอาจจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตามว่าได้ทำร้ายความรู้สึกน้องสาวคนหนึ่งไปแล้ว
ตัวละครอีกคนที่จะไม่ลืมเมนชั่นถึงแน่นอน คือ ยูดอเรีย โฮล์มส์ คุณแม่คนเก่งของสามใบเถา คุณแม่ที่ทำหน้าที่ผู้ปกครองที่ดีและสมบูรณ์พร้อม เราชอบมาก ๆ ที่เห็นคาแรคเตอร์นี้ในเรื่อง ถือว่าเป็นตัวละครที่ทำให้เกิดจุดพลิกผันในชีวิตของเด็กสาวคนหนึ่งและเป็นตัวละครที่ทำให้เอโนล่าเติบโตมาอย่างดีมาก ๆ เลยแหละ เราชอบในการแสดงของเฮเลน่ามาตั้งแต่บทบาทเบลลาทริกซ์ ราชินีแดง จนถึงเจ้าหญิงมากาเร็ตในวัยกลางคน ทำให้เราเห็นว่าเฮเลน่าแสดงเป็นยูดอเรียได้ดีมาก เราชอบการที่วางบทให้เป็นทั้งเฟมินิสต์และเป็นแม่ที่ดี แบบอย่างที่ดีให้กับเด็กสาวคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าตัวละครนี้จะโผล่มาไม่มากนัก แต่การที่เราได้รับรู้เรื่องราว ความสามารถของยูดอเรียผ่านความคิดของเอโนล่า ทำให้เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนเก่งและจัดจ้านขัดกับสตรีสมัยวิคตอเรียนมาก ๆ (ก้มกราบ)
โดยสรุปแล้วเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีและดูเพลินมากสำหรับเรา เราชอบตรงที่เมสเสจและแก่นของเรื่องชัดเจนดี มันดูจะเป็นกึ่ง ๆ สืบสวนสอบสวนและ coming of age ด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงวัยเดียวกัน แต่เราได้เห็นการเจริญเติบโตทางด้านความคิดของเอโนล่าได้ชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งเรื่องนี้สามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาภายในสองชั่วโมงนิด ๆ ได้อย่างงดงาม และน่าจดจำ
หวังว่าทุกคนที่อ่านรีวิวของเราจนถึงบรรทัดสุดท้ายจะรู้สึกสนุกและอยากไปดูตามเรานะคะ หรือว่าใครที่ดูตามแล้วมาบังเอิญอ่านรีวิวของเราแล้วอยากเม้ามอยก็สามารถคอมเม้นทิ้งไว้ข้างล่างได้เลย
ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีค่ะ
และสุดท้ายนี้
“การเมืองไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ
แต่การเมืองเป็นเรื่องของทุกคนค่ะ”
มจล.
#ชีดูชีรีวิว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in