เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รวมบล็อคการเพื่อการย้ายประเทศจ้า~Mie_Dyasha
ชีวิต (การเข้า) มหาลัยไทย (หลักสูตร inter) และต่างประเทศ (AUS, NZ, USA, UK) by Mie Dyasha
  • สวัสดีค่า 👋

    introduction:

    สำหรับบล็อคนี้ก็คือมี่ยังแปะอยู่กับการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยระดับชั้นปริญญาตรีทั้งที่ไทย (เป็นหลักสูตรอินเตอร์เท่านั้นและสมัครเข้าแค่ที่เดียวจริง ๆ ไม่ได้มองที่อื่นไว้เลยค่ะ) เป็น freshman และต่างประเทศ ทั้งในออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์และอเมริกา โดยที่ของออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์จะเป็นการ apply แบบ first-year (freshman) ส่วนของอเมริกาจะเป็นแบบ transfer นะคะ โดยสาขาหรือ major ที่มี่สมัครจะเกี่ยวกับสาย creative, communication, film หรือแนวภาพยนตร์ทั้งหมดเลยค่ะ ?

    โดยมหาวิทยาลัยทั้งหมดท่ี่มี่ได้ offers ก็คือ MUIC (ไทย), Macquarie University (ออสเตรเลีย), Victoria University of Wellington (นิวซีแลนด์) แบบ first-year (freshman) และอีก 2 ยูในอเมริกาแบบ transfer student พร้อม financial aid บางส่วนจาก Maryville College (Maryville, Tenessee) และ The University of Idaho (Moscow, Idaho) ค่า ☺️

    *บางทีมี่ก็ขี้เกียจกด shift นะคะ อาจมีเขียน cap หรือไม่ capital letters/letter case หวังว่าจะไม่ว่ากันนะคะ แต่ตอนมี่เขียน essays or reports คือเป๊ะแน่นอนไม่ต้องห่วงค่า (กลัวเจอ grammar nazi หรือ grammarista) ได้โปรดละเว้นข้าน้อยไว้นะขอรับบบบ

    ✌️ about english requirements (IELTS, duolingo english test): pls read here (ไปอ่านน้าาา) 

    🎓 mahidol university international college (muic), salaya, thailand: 

    ส่วนตัวมี่เองเลือกเรียนหลักสูตรอินเตอร์ (international programme) เพราะตอบโจทย์กับความต้องการของเราโดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาภาษาอังกฤษและการใช้ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการจ๋า ๆ, ด้านวิชาการและสังคมที่มีความเป็นนานาชาติมากกว่าหลักสูตรปกติค่ะ (ก็คือถ้าหลาย ๆ คนที่ตามอ่านบล็อคของมี่มาตั้งแต่แรก จะรู้เลยว่ามี่ชอบสังคมแบบนั้นมากกว่าค่ะ ? ที่ MUIC เพื่อนต่างชาติเยอะมากค่ะ ทั้งอเมริกัน สวิส สิงคโปร์ อินเดีย เนปาล เมียนมาร์ อังกฤษ ลูกครึ่งและคนไทยที่โตในต่างประเทศหรือเรียนอินเตอร์มาตั้งแต่เด็กก็มาเข้าที่นี่กันเยอะค่ะ) แต่จริง ๆ คือก็อยากไปเรียนต่อต่างประเทศมากกว่าแต่ที่บ้านอยากให้เรียนเมืองไทยเพื่อเอาคอนเนคชั่น ซึ่งจริง ๆ เราไม่ได้คิดจะกลับมาเมืองไทยอยู่แล้วด้วย อีกอย่างคอนเนคชั่นคนไทยมันเยอะมากอยู่แล้ว เรียนโรงเรียนไทยมาจน 18 ทำไปเพื่ออะไรไม่รู้ ??? (what a joke lol, you want me to be here, but i don't wanna be here) ปัจจุบันมี่ยังเรียนอยู่ที่ MUIC หรือ Mahidol University International College นะคะ เลือกเรียนเป็น Media and Communication ค่ะ รายละเอียดต่าง ๆ จะอธิบายเพิ่มเติมข้างล่างแต่ละบล็อคนะคะ ✨

    📖 รีวิวการสอบเข้า Mahidol University International College (MUIC) สาขา Media and Communication แบบยื่นเป็น regular track พร้อม IELTS overall 6.5 และสอบ written exam โดยที่ติด IC (college) 2 รอบค่า
    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link
    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: 
    ท่านผู้อ่านอาจจะงง ๆ ว่า "ห้ะ อะไรคือติด 2 รอบ ?" ก็คือส่วนตัวมี่เองยื่น IELTS overall 6.5 ค่ะ (แต่ละพาร์ท 6.5 แต่ writing ได้ 5.5) ซึ่งถ้าจะสมัครเข้า MUIC แต่ writing ไม่ถึง 6.0 จะต้องสอบ writing essay ของทาง MUIC เองโดยตรง มี่ยื่นเป็น regular track นะคะ เพราะเกณฑ์ writing ไม่ถึง fast track ค่ะ ซึ่งเป็นการสอบเขียนเรียงความภาษาอังกฤษแนว IELTS writing task 2 ค่ะ โดยมี่เองสมัคร 2 รอบ เนื่องจากมี่มีทั้งวุฒิ GED (เทียบวุฒิม.ปลายระบบอเมริกัน) และวุฒิม.6 ไทยปกติค่ะ โดยรอบแรกใช้ GED เพราะใจคิดว่าจะออกจากม.6 แล้วเพราะอยากไปเรียนมหาลัย แต่สุดท้ายก็เรียนต่อจนจนม.6 และก็ใช้วุฒิม.6 มาสมัครเข้าและต้องสอบ writing อีกรอบค่ะ แต่ก็คือได้ IC (college) ทั้ง 2 รอบค่ะ (น้อง ๆ ที่สมัครคือไม่อยากเรียน PC หรือ pre-college กันเยอะมากกกกก 55555 เพราะฉะนั้นแนะนำให้สอบ IELTS, TOEFL iBT หรือ Pearson PTE ให้ผ่านเกณฑ์ fast track ไปเลยดีกว่าค่ะ) ☺️
    ❌ ตอนนั้นที่มี่เข้ามันยังไม่ต้องใช้คะแนน SAT math 500 คะแนนนะคะ ในบล็อคก็เลยไม่มีอธิบายเรื่อง SAT math ค่ะ
    🙏 โดยในบล็อคของมี่เองจะมีการรีวิวประสบการณ์การสอบเข้า MUIC ของมี่เองทั้ง 2 รอบรวมถึง writing essay และก็ตอนสัมภาษณ์ (interview) ด้วยค่ะ และก็มีประสบการณ์การสัมภาษณ์ของเพื่อน ๆ ในสาขา Media Com, BBA Marketing, BBA Finance และรีวิวเพื่อน ๆ ที่เคยเรียน pre-college (pc) จากเพื่อน ๆ อีก 2 คนด้วยค่ะ และก็มีเรื่อง FAQ หรือ frequently asked questions ที่มี่รวมไว้ให้ประมาณ 17 คำถามที่น้อง ๆ ชอบ direct message มาถามด้วยค่ะ เช่น เรื่องเทอมนับยังไง, สอบข้อเขียนเป็นยังไง, IC vs PC ต่างกันยังไง เป็นต้น ?
    🇺🇸 แถมให้สำหรับน้อง ๆ ที่อยากสอบ duolingo english test (DET) และยื่นเข้า MUIC regular track เนื่องจาก DET ไม่มี essay ที่ยาวแบบ test อื่น ๆ ค่ะ เลยทำให้ผู้สมัครที่ยื่น DET จะต้องสอบ writing essay กับทางม.อีกทีค่ะ ไม่สามารถยื่นแบบ fast track ได้นะคะ หรือใครที่สนใจเข้าหลักสูตรนานาชาติของม.อื่น ๆ ในไทยหรือต่างประเทศและอยากสอบ duolingo english test (DET) ก็เข้ามาอ่านกันได้นะคะ (มี่ได้ overall 130/160 และแต่ละพาร์ทไม่ต่ำกว่า 125 ค่ะ ผลสอบออกภายใน 4 ชั่วโมงด้วย!)
    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link
    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: 
    ในบล็อคมีอธิบายเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อสอบ DET, อธิบายพาร์ทข้อสอบและ tips ต่าง ๆ ด้วยนะคะ
    MUIC NOTE:
    • สำหรับ MUIC จะเป็น regular track ที่ต้องมีคะแนน DET overall 100/160 และสอบ writing กับทางม. เพิ่มนะคะ เพราะตัว DET writing มันไม่ใช่ long-essay แบบของ IELTS นั่นเอง ไม่สามารถใช้ DET ยื่น fast track แบบ IELTS, TOEFL iBT และ Pearson PTE ได้ค่ะ 
    ? น้อง ๆ ที่สนใจจะเข้า MUIC (Mahidol University International College) สามารถเข้ามา join กลุ่มใน FB ได้นะคะ โดยจะต้องตอบคำถามให้ครบ 3 ข้อพร้อม agree กับกฎกลุ่มเท่านั้นนะคะ ตอบไม่ครบไม่รับเข้าทุกกรณีค่ะ
    *MUIC เท่านั้นนะคะ ไม่เกี่ยวกับสาขาต่าง ๆ ของหลักสูตรไทยและนานาชาติของคณะอื่นค่ะ LAMU ของศิลปศาสตร์ที่เป็น dual degree กับ Shanghai Jiao Tong, MUICT (ควรเขียนเป็น MU-ICT มากกว่านะ 5555), ภาค SIM อันนี้ก็ไม่ใช่ของ MUIC นะคะ MUIC คือคณะที่เป็นอินเตอร์เต็มตัวและมีทั้งหมด 18 majors ค่ะ ใช้การเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น และรับเข้าเองผ่านระบบ SKY ของตัวคณะ ต้องยื่น standardised tests จำพวก SAT/ACT และ IELTS/TOEFL/Pearson PTE เท่านั้นค่ะ ไม่มีการยื่นเข้า TCAS เลยเพราะมหาลัยส่งชื่อเข้า TCAS เองค่า ☺️

    🎦 ชีวิตมี่เมื่อเรียนที่ MUIC media com part 1 อธิบายเรื่องระบบการลงทะเบียนเรียนผ่านระบบ SKY และวิชาเรียนต่าง ๆ เป็น media com core courses ในปี 1 และปี 2 (มีรีวิววิชา ERS และ EC 1, EC 2 ด้วย)
    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link
    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: https://www.miedyasha-wong.com/post/muic-registration-and-study-life-of-mie-dyasha-part-1
    ในบล็อคนี้ก็จะมีรีวิววิชากลุ่ม English Communication ทั้ง ERS และ EC 1 ที่น้อง ๆ ทุก majors จะต้องเรียนด้วยค่ะ จะมีน้อง ๆ บางคนที่ได้เรียน ERS เลย (English Resources Skills) ซึ่งเป็นการเรียนภาษาอังกฤษที่เน้นด้าน academic english skills ไปเลยเพื่อปรับพื้นฐานด้านการเขียนโดยเฉพาะและ EC 1 (Intermediate English Communication I) สำหรับผู้ที่ยื่น IELTS overall and writing 6.0++ เข้ามาค่ะ และก็มีรีวิว EC 2 ที่เน้นด้าน academic writing มาก ๆ ด้วยค่ะ
    👀 ตัวอย่างงานเขียนวิชา EC 2 ที่เน้นเรื่อง racism and racial discrimination เกี่ยวกับ teachers ชาวฟิลิปปินส์: link
    🌏 ในรีวิวนี้มีรีวิววิชา media com core subjects แบบคร่าว ๆ ด้วย เช่น man and arts, visual communication, creative writing, global media culture and industry, รีวิวการเรียน summer 1 วิชา (media SEA), introduction to media and communication, media ethics, media and cultural theory, popular entertainment, audio communication, research methods and basic stats, media psychology และ basic acting ด้วยค่ะ
    📺 ตัวอย่างงานวิชา media psychology ที่กลุ่มมี่ทำเรื่อง rape culture ในวงการละครไทยlink
    🖥️ ตัวอย่างงานวิชา media & cultural theory ทำเรื่อง cyberbullying ของไทยและเทศlink
    🎬 ตัวอย่างงานวิชา research methods and basic stats เกี่ยวกับการ compare หนังออสการ์อย่าง Green Book และ Parasite: link

    ? ชีวิตมี่เมื่อเรียน MUIC media com part 2 อธิบายและ compare เรื่องหลักสูตร 628 และ 638 onwards, มีอธิบายเรื่อง minor, การเรียน EC 3 (public speaking) รวมถึงรีวิวการเรียน creative content concentration และ film production major electives ด้วย
    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link
    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: https://www.miedyasha-wong.com/post/mie-reviews-muic-media-com-sophomore-part-2
    สำหรับพาร์ทนี้จะเป็นการเปรียบเทียบหลักสูตรของ 628 (รุ่นที่มี่เรียน) และ 638 ที่เป็นรุ่นเปลี่ยนหลักสูตรครั้งใหญ่ของ major media comเลย ก็คือ 638+ จะมี concentration เพิ่มมาอีก 1 อันคือ integrated media and communication ซึ่งเหมาะกับใครที่อยากเป็น digital content creator และรีวิววิชาของปี 2 และปี 3 โดยมี่จบวิชา media com core subjects ทั้งหมดในปี 2 เทอม 3 และเริ่มเรียน creative content concentration and major elective เป็น film production ในเทอมนี้ด้วย พร้อมกับรีวิวการทำ documentary ของอาจารย์ขวัญด้วยยยยย (แก๊งค์เราชอบเรียกเป็นแม่ขวัญ เพราะเค้าเหมือนแม่) ใครเข้ามาต้องเจอจารย์ขวัญทุกคน 555555 เราเจอตั้งแต่เทอมแรกเลย
    📝 สำหรับวิชา EC 3 หรือ public speaking เราได้ 4th highest ของคลาสที่เรียนกับอาจารย์แมรี่ (เป็นคนอเมริกัน) จะว่าใจดีก็ใจดี ไม่ได้ให้คะแนนยากมาก แต่คือไม่ช่วยคะแนนเลย สภาพพพพพพ 5555555
    จบเทอมไปด้วยคะแนน 89/100 🥹 (อีกคะแนนเดียวแท้ ๆ 5555555 ตัดเกรดไม่ปราณีข้าพเจ้าเลยค่ะ) 
    😀 ในบล็อคนี้มีรีวิววิชา Intermediate English Communication III (Public Speaking) หรือ EC 3, Entertainment Management, Marketing and Finance, Southeast Asian Creative Content Analysis: From Ethno-Historiography Perspectives (Southeast/Southeast Asian Creative), Visual Storytelling และ Film Screenwriting จ้า ❤️
    😙 เรื่องเทอมเห็นคนงงเยอะมากแบบไม่มีอะไรมากั้น 55555 คือ MUIC มี 3 เทอมใช่ปะ เข้าเทอมไหน เรียนเทอมนั้นแล้วทบเทอมเอาจ้า ไม่ใช่ว่าเข้าเทอม 2 หรือ 3 ต้องเก็บเครดิตให้ทันเทอม 1 น้า (คือของรุ่นเราอะ เราเทอม 3 แต่เก็บเครดิตนรกเพราะหลักสูตรมันจะเปลี่ยน คือถ้าเด็กที่เข้าใหม่ไม่ต้องเร่งเก็บเพราะหลักสูตรมันจะเปลี่ยน และ study plan ที่อาจารย์ให้มามันก็เป็นแบบนั้น) ก็คือเก็บ 4 ปีก็ได้หรือจะน้อยกว่า 4 ปีแต่ไม่น้อยกว่า 3 ปีก็ได้ แล้วแต่ตัวคนเรียน คือมหาลัยมัน free อะ ไม่เหมือนตอนมัธยมและต้องรับผิดชอบตัวเองให้มาก จะเก็บยังไงมันอยู่ที่ความรับผิดชอบของพวกเธอเลย รับผิดชอบไหวแค่ไหน เรียนไหวแค่ไหนก็ประเมินตัวเองดู อย่าไปตามเพื่อน เข้าเทอมไหนก็นับไปจนกว่าจะเรียนครบ 4 ปีหรือ 12 เทอม แต่ IC เราเรียนจบได้เร็วสุดคือ 3 ปีจ้า เข้ามาก็จะมีเพื่อนร่วมเทอมอยู่ละ รอปฐมนิเทศน์และรออาจารย์แจก study plan เลยแกร ไม่ใช่ต้องไปเก็บให้ทันแน่นอน it depends on your decision ล้วน ๆ ?

    🤓 ชีวิตมี่เมื่อเรียน MUIC media com part 3 รีวิวการเรียนทั้งหมด 10 วิชาจุก ๆ ตลอดการเรียน 2 เทอม เป็นวิชา creative content concentration 4 วิชา และ film production major electives อีก 3 วิชา + gen ed สาย humanities & social science อีก 3 วิชา
    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link
    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: https://www.miedyasha-wong.com/post/mie-life-as-a-junior-at-muic-media-com-part-3
    พาร์ทนี้เหมือน ่journey ในการเรียนสาย media and communication ที่สิ้นสุดลงแล้วนั่นเอง เนื่องจากตัวมี่เองเก็บเครดิตของ major core subjects (จบไปก่อนหน้านี้ครึ่งปีได้), creative content concentration และ film production major electives จบไปในเทอมที่ 2 ปีการศึกษา 2021-2022 แล้วค่ะ ปัจจุบันตัวมี่เองกำลังฝึกงานเพื่อเก็บเครดิตอยู่ เดี๋ยวบล็อครีวิวการหาที่ฝึกงานจะมาเร็ว ๆ นี้แน่นอน (ใบ้ให้: มี่ได้มา 3 ที่โดยที่แรกคือบ. automotive เยอรมันในไทย, บ.ที่ 2 คือบ.ผลิตภาพยนตร์ที่เราว่าทำออกมาดีที่สุดในไทยสำหรับเราและอีกที่คือ... ค่ายที่ดูแลคูมอิ้งค์ วรันธร/serious bacon และพี่บีน นภสร) และต่อจากนี้จะเรียนแค่ general education (gen ed) ทั้งหมดบวกกับการทำ media thesis ก็จะจบแล้ว (คาดว่าจบ ่july 2023 ค่ะ เรียน 3 ปีกับ 1 trimester จบ) 
    - สำหรับการรีวิววิชาของ concentration ก็จะมี 4 วิชาที่มี่เขียนไว้คือ art of storyboarding, textual analysis, literature as a source of media content และ movement and human body ค่ะ มีการรีวิวอาจารย์, เกณฑ์การเก็บคะแนนและเนื้อหาที่จะได้เรียนคร่าว ๆ ให้ด้วยนะคะ ใครสนใจสาย creative content จะได้เริ่มเตรียมใจไว้สำหรับบางวิชาที่อาจจะไม่ถูกโฉลกกันหรือไม่ใช่แนวเท่าไหร่ 5555 ? แต่ไว้ใจดิฉันได้นะคะ ดิฉันเป็นคนตั้งใจเรียนและลุยเต็มร้อยค่ะ
    - มากันที่วิชาของ film production major electives ก็จะมีวิชา cinematography, film pre-production และ film post-production จ้า (วิชาแรกที่มี่ได้เรียนคือ film screenwriting แต่มันอยู่ในพาร์ท 2) ใครที่สนใจจะลง electives เดียวกันกับเรา ขอแนะนำให้เรียน 3 วิชาคือ film screenwriting, film pre-production และ cinematography น้า แต่ถ้าใครไม่ชอบแนวเรียนแต่พวก colour grading บน davinci ล้วน เราแนะนำให้ไปหาอะไรที่สนใจจาก electives อื่นมาเรียนแทนดีกว่า เช่น directing i (ส่วนตัวเลือก post-production ไปแล้วรู้สึก regretted อะ เพราะเราไม่ชอบเลย เรียนแล้วทรมาน เรียนไปร้องไห้ไปมันคือแบบนี้ การเกรดสีคลิป 1 นาทีใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงนั้นมีอยู่จริงจ้า) วิชานี้คือใครชอบก็ชอบไปเลย ส่วนใครที่เกลียดก็คือเกลียดไปเลยอะ เอางี้ดีกว่า แต่ก็อย่าเชื่อเรามาก ลองเข้าไปอ่านแล้วชั่งใจเอาเองดีกว่า ?
    - ท้ายที่สุดคือวิชา gen ed มี 3 ตัว โดยของมี่จะเป็น humanities 2 ตัวคือ pre-intermediate french i และ elementary german i บวกกับ social science (sosci) คือ introduction to human geography นั่นเอง น้อง ๆ ที่สนใจจะลง gen ed ตัวเดียวกันกับมี่ก็ห้ามพลาดน้าาาาา ?

    🇩🇪 ประสบการณ์การหาที่ฝึกงานสายเด็กนิเทศอินเตอร์ (media com muic) และได้รับการตอบรับเพื่อฝึกงานจาก GDH 559, BOXX MUSIC และ Bosch Thailand
    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link
    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: 
    บล็อกนี้คือการหาที่ฝึกงานฉบับเด็กมีเดียคอม ซึ่งมี่ยื่นไปทั้งหมด 10 ที่ทั้งของไทยและต่างประเทศ มี่ได้รับการตอบรับสาย entertainment โดยตรงคือ GDH 559 ซึ่งได้เป็นตำแหน่ง production crew intern ตรงกับ film production major electives ที่มี่เรียน และสายค่ายเพลงที่ดูแลคูมอิ้งค์, serious bacon และพี่บีน ซึ่งเป็นศิลปินหลักที่เราติดตาม มี่สมัครไปเป็นตำแหน่ง creative online content intern ของ boxx music ซึ่งตรงกับ creative content concentration ที่เราเรียนมา ส่วน bosch thailand คือเราเอนมาเป็น integrated media communication ซึ่งไม่มีในรุ่นของเรา มันเป็นหลักสูตรของ 638 ที่มีแขนงนี้ให้เลือกเรียน สุดท้ายมี่เลือกฝึกที่ bosch thailand ตำแหน่ง corporate communications intern เกือบ 4 เดือนนะคะ และประเมินการฝึกงานผ่านเรียบร้อยแล้วค่า ✨?
    สำหรับรายละเอียดการเตรียมตัว, เอกสารที่ใช้, การสัมภาษณ์ต่าง ๆ คลิกเข้าไปอ่านฉบับเต็มได้เลยค้าบ บล็อคนี้จะสั้นกว่าอันอื่นที่เขียนมาครึ่งนึงเลย ประมาณ 8 นาที หวังว่าจะไม่นานเกินไปสำหรับการอ่านนะคะ ?
    ปล. มี่รับให้คำแนะนำ, คำปรึกษาและการซ้อมสัมภาษณ์หาที่ฝึกงานหรือช่วยเช็ค, ตรวจหรือแปล résumé นะคะ แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมน้า ทักมาคุยกันในเพจ facebook ก่อนได้ค่า

    🇩🇪 แถมประสบการณ์การฝึกงานที่ bosch thailand ในฐานะ corporate communications intern ค่า
    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link
    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: 
    เป็นประสบการณ์การทำงานว่ามี่ทำอะไรบ้างตอนฝึกงานแบบคร่าว ๆ บล็อกนี้จะสั้นหน่อยเพราะหลายอย่างก็ไม่สามารถเปิดเผยได้ค่ะ เพราะเป็นข้อมูลของบริษัทค่ะ ใครอยากรู้ว่าการฝึกงานที่บ๊อช มีอะไรบ้าง ห้ามพลาดน้าาา 

    ตอนนั้นมี่ก็ขึ้นปี 4 ที่ muic แล้วนะคะ กำลังทำ thesis เพื่อที่จะจบภายใน july 2023 ค่า ☺️ อาจจะยุ่งกว่าปกติเพราะว่างานเยอะมากกว่าเดิมมาก ๆ และต้องใช้เวลาบางส่วนในชีวิตเพื่อการเดินทางไปกลับมหาลัยอีก เพราะกลับมาเรียน onsite 100% ละจ้าาา

    😄 ชีวิตมี่เมื่อเรียน MUIC media com part 4 รีวิวการเรียนวิชาพื้นฐาน/gen ed ทั้งหมดตอนเป็นนักศึกษาปี 4 และการทำ short film thesis 💤
    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link
    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: 
    บล็อกนี้เป็นบล็อกสุดท้ายของมี่ในฐานะเด็ก media com ที่ muic แล้วค่ะ เป็นเด็กปี 4 และจบมาแล้วเรียบร้อย จบด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วยเกรด 3.53 ค่า :) ในบล็อกนั้นจะมีรีวิววิชา gen ed เช่น introduction to photography, intermediate photography, moral and ethical studies, computer essentials, basic mathematics, creative writing, elementary spanish 1, 4 PEs เป็นต้นค่า น้อง ๆ muic คนไหนอยากหารีวิวอ่าน สามารถอ่านจากบล็อกเราได้เลยค่ะ แล้วก็มีรีวิวการทำ thesis จบด้วยน้า เราทำกัน 1 ปีเต็ม ๆ เลย ตั้งแต่ icmc 401 (pre-production), icmc 402 (production), icmc 403 (post-production & exhibition) เลย 
  • สำหรับ uni ในต่างประเทศทั้งหมดเลยจ้า (AUS, NZ, USA, UK)

    applying to macquarie university (aus) and victoria university of wellington (nz):

    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link

    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: https://www.miedyasha-wong.com/post/how-mie-applied-to-macquarie-university-and-vuw-nz

    🇦🇺 บล็อคนี้จะเป็นการรีวิวการ apply ไปที่ยูต่างประเทศอย่าง macquarie university (mqu) ที่ north ryde campus, new south wales, australia นะคะ แต่ว่าคะแนน writing ของมี่เป็นพาร์ทเดียวที่ไม่ถึง 6.0 ก็คือไปเรียน academic writing 10 weeks กับทาง english centre ของ mqu แล้วก็จะสามารถเข้าเรียนระดับป.ตรีได้เลยอีก 3 ปีจบค่ะ โดยมี่สมัครเป็น bachelor of media and communications in screen practice and production ค่ะ ตอนนั้นได้ทุนส่วนลดค่าเรียน 10,000 aud for ASEAN students ตลอด 3 ปีเลย (รู้สึกว่าตอนนี้ mqu ก็ยังแจกทุนนี้อยู่นะคะ แต่เป็นอีกชื่อนึงที่มี่จำไม่ได้แล้ว ลองค้นกันเองดูอีกทีน้า) เรื่องเอกสารและการสมัครต่าง ๆ และเหตุผลที่สมัครก็จะอยู่ในนี้หมดเลยค่า ☺️
    🇳🇿 สำหรับ victoria university of wellington (vuw) ณ กรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ มี่สมัครเป็น bachelor of arts (ba) ด้าน film & theatre ไปค่ะ โดยจะต้องไปเรียน foundation ที่ UP education แบบ accelerated programme เป็นระยะเวลา 6 เดือนก่อนต่อป.ตรีอีก 3 ค่ะ เนื่องจากตอนนั้นใช้วุฒิไทยและทางยูแนะนำให้เรียน foundation มา (นิวซีแลนด์กับอังกฤษระบบคล้ายกันคือชอบกึ่งบังคับให้เด็กที่จบโรงเรียนไทยเรียน foundation เพราะว่าทางม.ปลายบ้านเค้ามี year 13 และเรียนตรีต่อ 3 ปี เค้ากังวลว่าเด็กที่เรียนระบบไทยมาจะมีความรู้ขั้นพื้นฐานไม่เท่ากับเด็กบ้านเค้าหรือเด็ก local อีกประเทศในยุโรปที่เด็กระบบไทยโดน foundation หรือ studienkolleg 100% ก็คือประเทศเยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์และออสเตรียค่ะ ถ้าอยากเข้าพวก public uni คือต้องเรียนเพื่อปรับพื้นฐานเชิงวิชาการและภาษาเยอรมันด้วย แต่ถ้าเป็นพวก international programme หรือ private uni/institution ก็จะเงื่อนไขแตกต่างกันไป ยังไงต้องไปเช็คมหาลัยปลายทางที่สนใจเอาเองจ้า)
    *เห็นหน้าเว็บ GED บอกว่า vuw รับ GED เข้าเรียน direct pathway นั้นไม่ใช่เรื่องจริง ตอนนั้นมี 2 วุฒิเคยถามทางนั้นไปแล้ว ถ้าจะใช้ GED ต้องมีคะแนน SAT ขั้นต่ำ 1200 จาก 1600 และคะแนน IELTS ตามกำหนด แต่ไม่มีอะไรการันตีว่าจะได้ direct entry จ้า เพราะว่ามันเป็น case by case basis นั่นเอง ส่วน mqu เพื่อนเรามีผลการเรียนถึง grade 11, ผลสอบ GED 660+, IELTS overall 7.0 ก็ติด foundation เช่นกัน แต่ติดแบบได้ทุนมา 50% (financial aid เค้าให้แบบ case by case basis น้า อยู่ที่ทาง mqu พิจารณาจ้า)
    **ข้อควรรู้: ส่วนมาก 99% (คือเรายังไม่เคยเห็นใครที่ยื่น GED ละไม่โดน foundation เลยจริง ๆ ? คือโปรไฟล์เทพ เกรด 3.7+ ภาษาอังกฤษเป๊ะ เรียนโรงเรียนอินเตอร์ดังระดับประเทศมาแต่ออกมาสอบ GED ก็ยังโดน foundation อะ เพราะงั้นระบบไทยที่แย่กว่าก็คือไม่ต้องพูดถึงแล้วอะ จะเหลือหรอ 5555) เด็กที่ยื่นด้วย GED และสมัครเข้ายูต่างประเทศ (ไม่ว่าจะ UK, USA, Canada, AUS, NZ) จะโดนบังคับเข้า foundation เพื่อปรับพื้นฐานอยู่แล้วเพราะตัว GED มันสอบแค่ 4 วิชาเอง เหมือนเรื่องพื้นฐานความรู้มันไม่พอในสายตาเค้าอะ กระทั่งจะสมัครยูในอเมริกาเองก็ยังมีขั้นต่ำของ GED เลย (เรามีเพื่อนที่เรียนอินเตอร์ระบบอเมริกันมาและออกมาสอบ GED มีผลการเรียนถึง grade 11 และคะแนน SAT, IELTS overall 7.5 สมัครไปที่ยูดังที่อังกฤษ เค้ารับเข้าเรียนแต่ก็โดนเรียน foundation 1 ปีนะ)

    🏫 apply to american universities as a transfer student to maryville college (maryville, tennessee) & u of idaho (moscow, idaho):
    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link
    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: https://www.miedyasha-wong.com/post/a-film-students-dream-applying-to-maryville-college-and-uidaho-usa 
    คือส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบไปเมืองหรือรัฐที่คนไทยอยู่น้อย ๆ อยู่แล้ว (ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ดูดวงมาก็คือเค้าบอกว่าเราเป็นคนที่ชอบเลือกไปอยู่เมืองหรือรัฐที่คนไม่ค่อยไปอยู่กันอยู่แล้วอะ เราเลยคิดว่ามันเป็น lifestyle และวิถีการใช้ชีวิตของเราอะ ?) ไม่มีเหตุผลอื่นใดรองรับและตอบไม่ได้เช่นกัน บางอย่างมันก็ไม่มีเหตุผลที่ good enough มารองรับได้อะ เค้าเรียกว่ายังไงนะ ใช้ใจในการใช้ชีวิตปะ ?
    ทั้ง 2 schools นี้ เราสมัครเองแบบไม่ผ่านเอเจนซี่และดำเนินการเองทุกขั้นตอนเลยค่ะ รายละเอียดเอกสารต่าง ๆ จะอยู่ในลิงก์ข้างบนเลย และก็มีอธิบายคำถามที่คนชอบถามกัน เช่น เด็ก GED ขอทุนเรียนเมกาเต็มจำนวนได้มั้ย, ไม่เก่งภาษาเรียนเมกาได้หรือเปล่า อะไรงี้ด้วย
    ⛰️ สำหรับ Maryville College ที่เมือง Maryville, Tennesse มี่เลือกสมัครไปในสาขา BA in writing communication นะคะ เพราะเป็นคนชอบด้าน arts+creative writing and communication (ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าอาจจะเขียนสู้เหล่า native speakers ไม่ได้แน่ ๆ) ที่เลือกสมัครเพราะว่าเห็นมันมีทุนให้เด็ก transfer ค่า โดยที่มี่ได้ทุน international maryville college scholarship 21,000 USD/year (มันต่อให้ได้ 4 ปี) มาด้วยยยย ? 
    ✨ มาต่อกันที่ University of Idaho ที่เมือง Moscow, Idaho ซึ่งเป็น public u ที่ใหญ่ที่สุดในรัฐ Idaho และตอนนั้นยูนี้ส่งมาชวนสมัครพอดีเพราะมี Invitation to Idaho Scholarship ที่ลด 15,084 USD ต่อปี (ให้สูงสุด 4 ปี) ด้วย ก็เลยลองสมัครดูไม่เสียหาย และก็จริง ๆ ชอบรัฐ Idaho จากเรื่อง Spinning Out ใน Netflix ด้วย ?
    ในบล็อคนี้จะมีการแชร์เรื่องราวของเราและเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการสมัครเรียนระดับป.ตรีที่อเมริกาและ uni/college system ของอเมริกาด้วย ใครอยากรู้ อยากลองอะไรก็ลองเข้ามาอ่านกันในบล็อคนี้ดูเลยค้าบ ❤️

    🇬🇧 สมัครป.โทสาขา MA international education ไปยัง university of bath, exeter, sussex ในประเทศอังกฤษ และ george washington university กับ university of san francisco ในประเทศสหรัฐอเมริกากันค่ะ 🇺🇸
    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link
    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: https://www.miedyasha-wong.com/post/mie-admissions-journey-to-uk-and-us-universities
    มี่ได้ offers ไปต่อปริญญาโทสาขา international education จากทุกยูที่สมัครในประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกาเลยค่ะ (แต่สุดท้ายหวยลงที่ exeter นะ 5555) มี่ได้ทุน global merit scholarship จาก exeter และ gw gsehd grant and merit scholarship ด้วยค่ะ ก็เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์เป็นภาษาอังกฤษ เผื่อใครอยากเตรียมฝึกภาษาอังกฤษ ตัวมี่เองก็ไม่ได้โปรขนาดนั้น แต่อยากแชร์ให้นักเรียนจากม.นานาชาติคนอื่นได้อ่านด้วยค่ะ มีรีวิวการสอบ ielts academic ukvi ได้ overall 7.0 (listening 7.5, reading 7.5, speaking 6.5, writing 7.0) ด้วยนะคะ ^^ 

    🇺🇸 บล็อคแยกการสมัคร MA international education ไป New York University (NYU Steinhardt) และได้รับการตอบรับเข้าเรียนสำหรับ Fall 2024 ค่ะ
    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link
    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: https://www.miedyasha-wong.com/post/mie-journey-nyu-steinhardt
    มี่ได้รับการตอบรับเข้าเรียน (accepted/admitted) จาก NYU Steinhardt หรือ New York University ที่นิวยอร์กค่ะ (มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก) แต่ว่าคงไม่ได้ไปเรียนที่นี่ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางประการค่ะ เป็นที่สุดท้ายที่สมัครแล้วคงจะ committed กับที่ไหนสักที่นึงค่ะ ที่นั่นก็คงเป็น exeter เหมือนเดิม เพราะเป็นที่แรกที่เลือกเราค่ะ บวกกับส่วนตัวชอบอังกฤษมากกว่าอเมริกาอยู่แล้วด้วยค่ะ ^^ ใครที่อยากอ่านประสบการณ์ admissions journey ของเราก็สามารถอ่านได้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ

    🇺🇸 รีวิวการขอ j-1 waiver ในฐานะที่เป็น diversity visa (dv-23) winner และการสัมภาษณ์ immigrant visa ตัวนี้ค่ะ 🗺️
    ? บล็อคของมี่ที่เขียนไว้แล้ว (คลิกได้เลย): link
    ⌨️ หรือ copy วางหากลิงก์ด้านบนไม่ทำงานนะคะ: https://www.miedyasha-wong.com/post/j1-waiver-and-dv23-winner-mie-dyasha
    ตอนนั้นมี่ได้รับเลือก diversity visa หรือ dv-23 (สมัครปี 2021) ค่ะ แต่ติดเอกสารเรื่อง j-1 waiver เพราะเคยมีวีซ่า j-1 ตอนแลกเปลี่ยนที่สหรัฐฯ ค่ะ ก็เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์การทำเอกสาร j-1 waiver และการสัมภาษณ์ dv visa ด้วยค่ะ ขอให้โชคจงสถิตกับทุกคนที่เข้ามาอ่านและเตรียมตัวด้วยนะคะ 

    - สำหรับของบล็อกนี้ก็จะจบที่แค่นี้นะคะ -

    🙏 สำหรับใครที่อยากติดตามหรือถามคำถามเพิ่มเติม (แต่แนะนำให้อ่านบล็อคก่อนแล้วค่อย direct มาถามนะคะ เพราะบางทีคำตอบที่อยากได้มันก็มีอยู่ในบล็อคแล้วน้า ตัวเองงง ☺️) ยังไงก็ฝากกดไลก์ กดติดตามไว้ด้วยน้าาาาา แวะมาทักทายพูดคุยกันได้ บ่นได้ ระบายได้ เอาที่สบายใจ แต่สู้แล้วและจะออกจากประเทศนี้แล้วอย่าถอยน้า ❤️❤️❤️
    FB Page: MemoMiez - มี่ตะลุยโลก (link)
    เน้นเขียนโพสต์มีสาระหรือว่าอัพเดทเกี่ยวกับ muic โดยตรง และก็พวกสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ
    IG: miedya_thetraveller
    เน้นลงรูปสถานที่ ๆ เราไปมาทั้งในไทยและต่างประเทศเลย ส่วนสตอรี่จะเป็นลิงก์ blogs ที่มี่ทำ

    ก็ ยังไงส่งมาแล้วก็รอสักนิสน้า อาจจะตอบช้าหรือบางทีอาจจะยังไม่ว่างตอบในตอนนั้น ถ้าไม่รีบมากก็รบกวนรอหน่อยนะคับ ถ้าเกิน 2-3 วันแล้วยังไม่ตอบค่อยส่งข้อความย้ำมาอีกทีแล้วกันค่า ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่า

    ปล. อยากจะเปิดบริการรับให้คำแนะนำและคำปรึกษาการหาที่ฝึกงานสายฟิล์มให้มากเลย อาจจะคิดแบบ 1,000 บาทแต่ดูแลและให้คำแนะนำปรับแก้ + feedback จนได้ที่ฝึกงานอะไรงี้ ช่วยเช็คเอกสารให้ด้วย โดยเฉพาะเด็ก muic media com มีต้องส่ง internship report, contract อะไรงี้ให้ faa ด้วย รวมไปถึงเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องยื่นเพื่อกว้านหาที่ฝึกงานอย่าง résumé หรือ cover letter ด้วย ใครสนใจลองทักมาได้นะ อิอิ ??? คือช่วยเพื่อนมาเยอะมากแล้วแหละ ถึงเวลาหาค่าขนมแล้ว ?


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in