เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
สาระนะเออชีสตัวน้อยตัวนิด
10 สิ่งมีชีวิตผู้เลอโฉมในเทพนิยายจีน
  •        สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านขา วันนี้บทความของเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ '10 สิ่งมีชีวิตผู้เลอโฉมในเทพนิยายจีน' กันค่ะ โดยเราจะขอหยิบยกบางส่วนมาจากในคัมภีร์โบราณอายุนับพันปีอย่าง 'ซานไห่จิง' (山海经) ที่บันทึกเกี่ยวกับเรื่องราว ตำนานปรัมปรา เทพเซียน ภูติ ปีศาจชนิดต่างๆ ตลอดจนตำแหน่งภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมโบราณ

    山海经 รู้จักกันในชื่อว่า 'คัมภีร์แห่งขุนเขาและท้องทะเล'  ถูกเขียนขึ้นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปีก่อนคริสต์ศักราช)

          เอาล่ะค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปรับชมกันเล้ยยยย ในจำนวนทั้งสิบนี้จะมีสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพเซียน สัตว์วิเศษ ภูติต่างๆรวมอยู่ด้วยนะคะ รับรองว่าที่คัดมาแล้วงดงามตรึงใจแน่นอนค่ะ ฟันธง!! ><


    1.ธิดามังกร 龙女

           ธิดามังกร หรือที่คนไทยเรียกทับศัพท์ภาษาจีนแต้จิ๋วว่า 'เง็กนึ้ง' ตำนานกล่าวว่าเธอเป็นลูกสาวคนสุดท้องของราชามังกรผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งยังเป็นอัครสาวกเบื้องขวาของพระอวโลกิเตศวร (เจ้าแม่กวนอิม) อีกด้วย เธอฉลาดปราดเปรื่องทั้งยังพรั่งพร้อมด้วยความสง่างามแบบเชื่้อพระวงศ์มังกรชั้นสูงและมีรูปทรัพยที่งดงามหาใดเปรียบ ชาวจีนโบราณให้ความนับถือธิดามังกรมาก มีความเชื่อว่าหากใครได้ลูบเกล็ดมังกรของเธอก็จะสมหวังในเรื่องความรัก



    2. เซียนหิมะ 姑射仙子

           เซียนหิมะ หรืออาจเรียกเธอว่า 'พรหมจารีแห่งแดนน้ำแข็ง' เธอมีภาพลักษณ์ที่ดูบริสุทธิ์งดงาม ผิวพรรณทั่วทั้งร่างขาวสว่างดุจหิมะแรก ทุกครั้งที่ปรากฎกายมักสวมใส่อาภรณ์สีขาวพริ้วไหวราวนักพรตหญิงผู้สูงส่ง เซียนหิมะจะพำนักและบำเพ็ญเพียรอย่างสงบสันโดษอยู่ในวังน้ำแข็งของตนไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร เธอไม่กินเนื้อสัตว์หรือธัญพืชใดๆในโลกมนุษย์เลย แต่จะสูดอากาศหนาวที่บริสุทธิ์และดื่มเพียงน้ำค้างเหมันต์เป็นอาหารเพียงเท่านั้น



    3.เงือก 鲛人

            เงือก เป็นสัตว์วิเศษครึ่งคนครึ่งปลา ท่อนบนเป็นมนุษย์ที่มีรูปโฉมงดงามชวนมอง ท่อนล่างเป็นหางปลายาวรวมกับลำตัวท่อนบนแล้วประมาณ 5-6ฟุต อาศัยอยู่ใต้ท้องมหาสมุทรอันเร้นลับ ยามใดที่เงือกร่ำไห้ออกมาน้ำตาของพวกเขาจะเปลี่ยนสภาพไปเป็นไข่มุกหรือลูกปัดแก้วล้ำค่า เกล็ดเงือกมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ น้ำมันที่ทำมาจากเงือกเพียงใช้แค่หยดเดียวก็เป็นเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยมสามารถทำให้ไฟลุกโชนได้หลายวัน ลือกันว่าคบเพลิงที่ส่องสว่างอยู่ตลอดเวลาในสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ก็ใช้น้ำมันเงือกมาเป็นเชื้อเพลิงเช่นกัน



    4.ไป่เฉียน 白矖

           ไป่เฉียน เป็นสัตว์เลี้ยงและผู้ติดตามใกล้ชิดของเจ้าแม่หนี่วา (พระแม่ธรณี) ครั้งเมื่อยักษ์ผานกู่สร้างโลกเสร็จ แต่ทั่วทั้งโลกก็ยังไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆเกิดขึ้นเลย ทำให้เจ้าแม่หนี่วารู้สึกเหงายิ่งนัก จึงปั้นมนุษย์ขึ้นเป็นครั้งแรกจากดินเหนียว ในระหว่างนั้นก็ทรงปั้นสัตว์เลี้ยงของพระนางขึ้นมาด้วย โดยสร้างให้มีรูปลักษณ์ท่อนบนเป็นสาวงามรูปร่างเย้ายวนใบหน้าหมดจดราวเทพธิดา และท่อนล่างปั้นเป็นหางงูเหมือนพระนาง (ตำนานโบราณกล่าวว่าหนี่วามีท่อนล่างเป็นหางงูหรือหางของมังกร) และให้ชื่อนางงูสาวแสนสวยตนนี้ว่า 'ไป่เฉียน'

                                                  เจ้าแม่หนี่วา เทพมารดาแห่งมวลมนุษย์ เป็นเทพแห่งบรรพกาลยุคแรกๆในตำนานจีน




    5.หลิงหยู  陵鱼

           หลิงหยู คือเงือกชนิดหนึ่ง ลายหางคล้ายปลาคาร์พ ใบหน้าสวยงาม แต่ต่างกับเงือกปกติคือ มีทั้งแขนขาแบบมนุษย์แต่ก็มีหางแบบปลาด้วย เสียงร้องเหมือนเด็กทารก

     陵鱼


    6. นกจิ่วเฟิ่ง 九凤

           นกจิ่วเฟิ่ง คือพญานกไฟขนสีแดงเพลิงมี9เศียร ในสมัยโบราณผู้คนนิยมกราบไหว้ดั่งเทพเจ้าองค์หนึ่งเลยทีเดียว เชื่อว่าเป็นสัตว์เทพมงคลที่จะนำเอาโชคดีมาให้เหมือนกับมังกร แต่ในบางชนเผ่าหรือบางราชวงศ์ก็มองว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเภทภัย ความชั่วร้าย  แต่ถึงกระนั้นนกจิ่วเฟิ่งก็มีรูปลักษณ์สวยงามสะกดตามากเช่นกัน มีบันทึกว่าผู้คนในอดีตมักจะพบเห็นนกจิ่วเฟิ่งได้ตามพื่นที่ ภูมิภาคต่างๆมาตั้งแต่สมัยโบราณเช่น ในหูหนาน หูเป่ย จนมีคำพูดที่ว่า 'นกเก้าหัวบนฟ้า คนหูเป่ยบนดิน' 

    九凤




    7.ภูติบุปผา 花妖

           ภูติบุปผา คือภูติที่กลายร่างจากดอกไม้เป็นมนุษย์ได้เต็มตัว มักเกิดขึ้นกับดอกไม้ที่มีอายุหลายสิบปีหรือดอกไม้ที่ขึ้นนอกฤดูกาล คนโบราณเชื่อกันว่า พืชและดอกไม้ก็สามารถบำเพ็ญเพียรจนมีจิตวิญญาณได้ เมื่อได้รับไอวิญญาณที่เต็มเปี่ยมเพียงพอก็จะสามารถแปลงร่างเป็นดรุณีงามวัยแรกแย้มได้ นอกจากนั้นก็ยังมีกลิ่นหอมติดกายเหมือนดอกไม้ที่ตนจำแลงมาเช่น เกิดมาจากดอกกุหลาบก็จะมีกลิ่นหวานๆแบบกุหลาบ เป็นต้น ภูติบุปผาของจีนยังดูมีลักษณะที่ใกล้เคียงพวกเอลฟ์และนางฟ้าแฟรี่ของตำนานตะวันตกอีกด้วย



    8.นกสีฟ้า 青鸟

           นกสีฟ้า เป็นผู้ส่งสารของเจ้าแม่ซีหวังหมู่แห่งวังสวรรค์ทิศตะวันตกบนภูเขาอมตะคุนหลุน เพื่อรอรับการมาเยื่อนของแขกคนสำคัญ ในสมัยโบราณนกสีฟ้ายังเป็นเป็นเครื่องหมายตัวแทนของความรักอีกด้วย

    ซีหวังหมู่ พระแม่แห่งสวรรค์ทิศตะวันตก พระองค์พำนักอยู่ในราชวังบนเขาคุนหลุนซึ่งสร้างจากทองคำและอัญมณี ที่นี่ไม่มีความทุกข์ทรมานใดๆหรือฤดูหนาวเลย มีชามข้าวและถ้วยชาที่ไม่เคยว่างเปล่าเต็มไปด้วยน้ำและอาหารทิพย์เลิศรส นอกจากนั้นพระองค์ยังเป็นเจ้าของสวนท้อสวรรค์อีกด้วย  



    9.จิ้งจอกสวรรค์ 天狐

            จิ้งจอก ที่บำเพ็ญเพียรจนมีอายุครบ 1000 ปีจะมี 9 หาง วิญญาณจิ้งจอกจะเปลี่ยนเป็นสีทอง มีดวงตาที่หยั่งรู้มองเห็นได้ไกลถึงพันลี้ และสามารถเหาะขึ้นไปบนสวรรค์ได้ เหล่าปีศาจจิ้งจอกส่วนใหญ่มักจะอยู่ในดินแดนที่ชื่อว่า 'ชิงชิว' ซึ่งเป็นดินแดนเซียนของเผ่าจิ้งจอกโดยเฉพาะ แต่อย่างไรก็ดีพวกเขาก็ยังคงชื่นชอบในเรื่องของความรัก รสชาติคาวราคะและโปรดปรานการสัมผัสไออุ่นจากมนุษย์มากจึงมักจะปลอมตัวลงมาปะปนอยู่กับสังคมมนุษย์เช่นกัน จิ้งจอกสวรรค์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ 'นางจิ้งจอกเก้าหางต๋าจี'



    10. ม้าหลู่ชู่ 鹿蜀 

           ม้าหลู่ชู่ เป็นสัตว์วิเศษที่มีรูปร่างเป็นม้ากำยำ หัวสีขาว กลางลำตัวมีลายพาดเหมือนเสือโคร่ง ขนแผงคอและพวงหางนุ่มมีสีแดงสดเหมือนย้อมด้วยชาด เสียงร้องของมันเหมือนเพลงบันลาด (บ้างก็ว่าเสียงเหมือนคนกำลังร้องเพลงพื้นบ้าน) ทั้งยังมีจิตวิญญาณที่สูงมาก สามารถเข้าใจความปราถนาดีหรือประสงค์ร้ายของคนได้ มันจะยอมติดตามแต่เฉพาะเจ้านายที่ตนเชื่อใจเท่านั้น ว่ากันว่าหากนำขนของม้าหลู่ชู่มาทำเป็นเสื้อคลุมจะทำให้ผู้สวมนั้นพบเจอแต่ความโชคดี ร่ำรวยเงินทอง มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง ดังนั้นม้าหลู่ชู่จึงมักจะถูกตามล่าอยู่บ่อยครั้งและจะรีบซ่อนตัวทันทีเมื่อได้ยินเสียงมนุษย์













          





          



          




          








          







         

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in