เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
สาระนะเออชีสตัวน้อยตัวนิด
วิธีการรับมือกับประจำเดือน ฉบับสาวจีนโบราณ
  •        สาวๆหลายคนเมื่อวันนั้นของเดือนมาเยือน ก็อาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัวกันเท่าไหร่ใช่มั้ยล่ะคะ? แถมยังรู้สึกเอ็นจอยน้อยลงระหว่างการทำกิจกรรมต่างๆระหว่างวันด้วย ไม่ว่าจะนั่ง จะเดิน หรือทำอะไรก็ล้วนชวนหงุดหงิดน่ารำคาญใจไปซะหมด แต่อย่างน้อยสาวยุคใหม่นี้ก็ยังถือว่าโชคดีสุดๆ ที่มีผลิตภัณฑ์รองรับประจำเดือนแสนสะดวกสบายอย่าง 'ผ้าอนามัย' ทั้งแบบแผ่น แบบสอดหรือแม้กระทั่งแบบถ้วยก็มีให้เลือกสรรมากมายหลากหลายยี่ห้อตามความชอบ แต่รู้มั้ยคะว่าจริงๆแล้ว ผ้าอนามัยที่เราใช้กันในปัจจุบันนั้นเพิ่งจะถูกคิดค้นเมื่อประมาณสี่สิบกว่าปีที่แล้วนี้เอง แล้วถ้าอย่างนั้นผู้หญิงในยุคโบราณเขาใช้อะไรมารองประจำเดือนล่ะ? แล้วถ้าหากมีอาการปวดท้องหรือระดูมาไม่ปกติจะมีวิธีใดที่ช่วยบรรเทารักษาได้บ้าง บทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 'วิธีรับมือกับประจำเดือนฉบับสาวจีนโบราณ'กันค่ะ

    ความเชื่อกับการมีระดูของชาวจีนโบราณ

           ด้วยความรู้ทางการแพทย์ที่ยังคงมีจำกัดในสมัยนั้น ทำให้ผู้คนไม่สามารถที่จะหาคำอธิบายปรากฎการณ์ทางสรีระวิทยาของคำว่า''เลือดออก แต่ไม่ตาย'' ได้ จึงเชื่อกันว่ามีพลังชั่วร้ายเข้าครอบงำผู้หญิงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นตัวหญิงสาวที่กำลังมีระดู หรือเลือดประจำเดือนก็ล้วนแล้วแต่เป็นของไม่ดีทั้งสิ้น สมัยราชวงศ์หมิงเองก็เคยมีบันทึกเกี่ยวกับความเชื่อนี้ไว้ว่า 'น้ำประจำเดือนนั้นจะมาสร้างความเสียหายให้กับธาตุหยางในเพศชาย จึงควรอยู่ให้ห่างเข้าไว้' ดังนั้นในช่วงวันนั้นของเดือน สาวๆก็จะต้องเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในห้องหับ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมงานพิธีใดๆเลย ไม่ว่าจะเป็น งานแต่งงาน งานบูชาบรรพบุรูษ งานศพ ฯลฯ ไม่ใช้แค่เฉพาะชาวฮั่นเท่านั้นที่มีความเชื่อแบบนี้ ชนกลุ่มน้อยหรือชนเผ่าต่างๆในจีนเองก็มักจะมีความเชื่อแบบนี้เช่นกัน 

    ในงานวันวิวาห์ เจ้าสาวเองก็ห้ามอยู่ในระหว่างการมีระดูด้วย เพราะเชื่อว่าจะนำความโชคร้ายมาให้ครอบครัว

           นอกจากนี้ในยุคโบราณ การพูดถึงการมีประจำเดือนอย่างเปิดเผยถือเป็นเรื่องที่น่าอาย และไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้อย่างเป็นเรื่องปกติเหมือนในสมัยนี้ คนในอดีตจึงมีคำเรียกเมนส์อย่างเนียมอายเป็นนัยๆว่า '大姨媽' หรือก็คือ 'ป้าใหญ่' นั่นเอง

    สาวๆอาจมีวิธีบอกให้คนอื่นๆหรือสามีของตนได้รับรู้ ยกตัวอย่างเช่น "การสวมแหวนไว้ที่นิ้ว'' หรือ ''การแต้มชาดแดงไว้บนใบหน้า''

    มารู้จักผ้ารอบเดือบ(月事布)

           ในอดีต 'ผ้ารอบเดือน' หรือผ้าอนามัยที่ผู้หญิงใช้กันถือเป็นความลับ สืบทอดจากผู้เป็นแม่สู่ลูกสาว ไม่ก็รู้กันแค่ในวงสังคมที่เป็นผู้หญิงด้วยกันเท่านั้น ทั้งยังระมัดระวังและเก็บไว้อย่างมิดชิดมาก ชนิดที่ว่าสามีที่แต่งงานกันเป็นสิบปีหรือแม้กระทั่งสมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้ชายก็อาจไม่เคยเห็นหรือรู้ว่ามันมีอยู่ด้วยซ้ำ!


    ผ้ารอบเดือน (月事布)

           เนื่องจากอิทธิพลของจารีตศาสนา คำสอนสั่งในยุคนั้น ทำให้ผ้าประจำเดือนไม่สามารถวางขายได้ทั่วไปตามท้องตลาด แต่สตรีผู้นั้นจะต้องเย็บมันขึ้นมาด้วยตัวเอง วัสดุในการตัดเย็บอาจจะมีความต่างกันไปบ้างตามท้องถิ่น ภูมิปัญญา ฐานะ แต่หลักๆพื้นฐานที่เหมือนกันเลยก็คือ จะใช้ผ้าสะอาดเป็นแถบกว้างประมาณ 10 เซนติเมตรมาทำ และเย็บเป็นกระเป๋าเล็กๆไว้ข้างล่างตรงเป้า (เอาไว้ใส่พวกขี้เถ้าจากพืชหรือหญ้าแห้งที่ช่วยในการดูดซึมเลือดประจำเดือน) จากนั้นก็ใช้เชือกเส้นเล็กๆห้อยผูกกับเอวสาวๆไว้เป็นอันเสร็จ

    草木灰 หรือ ขี้เถ้าจากพืช ถือว่าเป็นยาจีนชนิดหนึ่ง นอกจากจะช่วยดูดซับเลือดเมนส์แล้ว ยังมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ นอกจากนี้ยังช่วยขับความเย็นและลดบวมได้ดีอีกด้วย

           ต่อมาในสมัยราชวงศ์ฮั่น ก็มีการประดิษฐ์กระดาษขึ้นเป็นครั้งแรก สตรีที่มีฐานะร่ำรวยจึงเปลี่ยนไปใช้กระดาษในการดูดซึมความชื้นแทน ส่วนคนธรรมดาก็ใช้ขี้เถ้าและพวกหญ้าแห้งต่อไปเพราะหาได้ง่ายกว่า

    วิธีลดอาการปวดและบรรเทาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติของสตรีจีนโบราณ


           ก่อนโลกนี้จะมียาแก้ปวดจำพวกกลุ่มยาแอสไพริน หรือมีตัวยาที่ใช้ในการระงับอาการปวดท้องประจำเดือนของผู้หญิงโดยเฉพาะ ชาวจีนโบราณเชื่อกันว่าอาการปวดตามร่างกายและท้องน้อยของเหล่าแม่นางนั้น เกิดจากการที่มีลมปราณเย็นเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งความหนาวเย็นนี้เองอาจส่งผลต่อภาวะการเจริญพันธุ์บกพร่องเสียหายได้ (ความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ของผู้หญิงสมัยนั้นก็คือการมีลูกเพื่อสืบสานวงศ์ตระกูล) เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถมีบุตรได้ ประจำเดือนจึงได้รับการรักษาบำบัดด้วยอาหารและยา

    เพื่อบำรุงร่างกายในขณะที่กำลังมีระดู สาวๆมักจะเลือกรับประทานอาหารร้อนๆ ที่มีฤทธิ์เสริมสร้างธาตุอยางให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
    ในช่วงราชวงศ์สุยและถัง เมล็ดท้อก็ถูกนำมารักษาอาการระดูมาไม่ปกติเช่นกัน โดยช่วยส่งเสริมในเรื่องการไหลเวียนของเลือด

           ถึงแม้ว่าจะมีบันทึกการรักษาและบรรเทาอาการปวดของประจำเดือนปรากฏอยู่นานมากแล้วในสมัยโบราณ แต่ด้วยวัสดุที่ขาดแคลนทำให้ยามีราคาแพง ยากที่คนฐานะธรรมดาจะสามารถหาซื้อได้ แต่ต่อมาในช่วงราชวงศ์ซ่งก็มีการพัฒนาเศรษฐกิจ สินค้าโภคภัณฑ์ และการแพทย์แผนจีนก็ก้าวหน้ากว้างขวางขึ้น ทำให้มีเทียบยาดีๆเกิดขึ้นมากมายสำหรับแก้อาการปวดระดูโดยเฉพาะอาทิเช่น ยาต้มดอกมู่ตัน ยาเม็ดลูกกลอนต่างๆ ฯลฯ











         


          










เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in