เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
สาระนะเออชีสตัวน้อยตัวนิด
5 บุคคลที่ดวงซวยสุดๆในตำนานกรีก
  •        หากเราได้มีโอกาสศึกษาตำนานเทพกรีก-โรมันหรือที่รู้จักกันดีในศาสตร์ 'Mythology' ว่าด้วยการรวบรวมเรื่องปรัมปราต่างๆเกี่ยวกับประวัติของเทพเจ้า วีรบุรุษ รวมถึงปรากฎการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ พอได้อ่านข้อมูลเชิงลึกแบบจริงๆจังๆก็มักจะพบว่าตำนานที่มีอายุเป็นพันๆปีนี้ค่อนข้างมีความสลับซับซ้อน บางตำนานก็กล่าวไว้ไม่เหมือนกัน บางเรื่องก็มีความไม่สมเหตุสมผลเสียดื้อๆ เทพเจ้าหรือสิ่งมีชีวิตในตำนานอื่นๆของชาวกรีกโบราณก็มีลักษณะนิสัยเหมือนมนุษย์เลยคือมีรัก โลภ โกรธ หลง คล้ายกัน ด้วยความที่มีอำนาจเหลือล้นเวลาที่กราดกรี้ยวหรือพิโรธขึ้นมาก็มักจะสาปแช่งหรือลงโทษมนุษย์ผู้นั้นให้ได้เห็นอยู่ร่ำไป บางคนอาจไม่ได้ซวยเพราะเทพแต่อยู่ดีๆปัญหาอย่างอื่นก็วิ่งเข้ามาหาเองซะงั้นทั้งๆที่ก็อยู่เฉยๆไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใครเลยก็มี ซึ่งเรามักพบบุคคลดวงกุดแบบนี้ได้เกลื่อนเลยในเรื่องราวปรัมปราเหล่านี้

           วันนี้ผู้เขียนเลยได้รวบรวม '5บุคคลที่ดวงซวยสุดๆในตำนานเทพกรีก' มาให้ได้ชมกัน (ซึ่งจริงๆก็มีเยอะกว่านี้แหละแต่ถ้าเอามาทั้งหมดนี่ลากยาวไม่จบง่ายๆแน่ แหะๆ) มาดูกันว่าเขาและเธอเหล่านี้จะถูกโชคชะตาหรือทวยเทพเล่นตลกใส่อย่างไรกันแน่ ไปอ่านกันเลยค่ะ

    1. เมดูซ่า (Medusa) นางปีศาจอสรพิษร้ายในตำนานผู้ตกเป็นเหยื่อ?


           แต่เดิมนั้น 'เมดูซ่า' คือเทพธิดาสวรรค์ที่งดงามมาก แต่แล้วในวันหนึ่งความสวยของเธอก็เกิดไปแตะตาเทพแห่งมหาสมุทร'โพไซดอน' เข้า เขาจึงฉุดลากเธอเข้าไปขืนใจอย่างโหดร้ายในวิหารของเทพีแห่งปัญญา 'เอเธนา' เมื่อเอเธนารับรู้เรื่องบัดสีที่เกิดขึ้นในวิหารของนางเข้าแต่ก็ทำอะไรโพไซดอนที่มีศักดิ์เป็นลุงตนเองไม่ได้อีก! จึงเอาความโกรธทั้งหมดมาลงกับเหยื่ออย่างเมดูซ่าซะอย่างนั้น โดยสาปให้เส้นผมสีทองเงางามดุจเมล็ดข้าวสาลีในฤดูร้อนของเมดูซ่าแปรเปลี่ยนไปเป็นอสรพิษร้ายนับพันแทนและเมื่อใครก็ตามที่ได้จ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอคนผู้นั้นก็จะกลายเป็นก้อนหินตายไปในทันที เมดูซ่าทั้งเสียใจและได้รับความอับอายเป็นอย่างมากจึงหนีไปซ่อนตัวในเกาะร้างกลางทะเลสุดขอบโลกทิศตะวันตก

          แม้ว่าเมดูซ่าผู้น่าสงสารจะสู้อุตส่าห์หลบหนีมาในที่ๆห่างไกลเช่นนี้เพราะไม่อยากเจอใครอีก แต่ก็ไม่พ้นถูกกลุ่มคนที่ใฝ่ฝันอยากเป็นวีรบุรุษปราบปีศาจร้าย ตามมาไล่ฆ่าไม่หยุดหย่อน จนเธอต้องปกป้องตัวเองด้วยการสาปให้คนเหล่านั้นกลายเป็นหินไป แต่แล้ววันตายของเมดูซ่าก็มาถึงเมื่อ 'เพอร์ซีอุส' ลูกชายของเทพซุสบุกเข้ามาที่เกาะร้างของเธอ ด้วยความช่วยเหลือต่างๆจากเหล่าทวยเทพทำให้เขาสามารถตัดหัวเมดูซ่าได้สำเร็จ

           พอมาคิดดูแล้ว 'เพอร์ซีอุส' สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษจริงๆหรือ? ที่เขาได้ลงมือฆ่าไปนั้นคืออสุรกายผู้ชั่วร้ายในความคิดของใครหลายๆคนหรือคือผู้หญิงตัวเล็กๆน่าสงสารคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อมาตลอดกันแน่?!

    2. แอคทาออน (Actaeon) จุดจบของสายถ้ำมอง


           วันหนึ่งในขณะที่นายพรานหนุ่มธรรมดาๆชื่อ 'แอคทาออน' กำลังออกล่าสัตว์เก็บของป่าเหมือนอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน แต่วันนี้โชคไม่ดีนัก เขาได้เผลอล่วงล้ำเข้าไปในถ้ำลับแห่งหนึ่งเข้า ซึ่งสายตาเจ้ากรรมก็ดันเผลอเหลือบไปเห็น 'เทพีอาร์ทีมิส' เทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ กำลังเปลือยกายอาบน้ำชำระร่างกายอย่างสบายใจเฉิบอยู่กับเหล่าสาวกที่เป็นนางไม้ของเธอ
           ด้วยความงามของเทพีอาร์ทีมิสทำให้แอคทาออนลืมตัวลอบมองอย่างเผลอไผลอยู่เป็นนานจากในพุ่มไม้แถวนั้น นานจนอาร์ทีมิสเริ่มรู้สึกตัวว่ากำลังแอบถูกชายหนุ่มผู้หนึ่งถ้ำมองอยู่ก็พิโรธหนัก เธอเลยกวักน้ำในสระสาดไปที่พรานหนุ่มอย่างแรงด้วยความโมโหสุดขีดพร้อมสาปให้แอคทาออนเป็นกวางป่าวิ่งหนีเตลิดออกไปกลางพงไพร ซ้ำร้ายยังถูกเหล่าสุนัขล่าเนื้อของตน (ที่ตอนนี้จำเจ้านายตัวเองไม่ได้แล้วเพราะถูกสาปเป็นกวาง) รุมกัดจนถึงแก่ความตาย

    3. เฮอร์คิวลิส (Hercules) วีรบุรุษจอมพลังสุดอาภัพ 


           ด้วยความที่ 'เฮอร์คิวลิส' เป็นลูกชู้นอกสมรสของ 'เทพซุส' จึงทำให้ 'เฮร่า' เทพีแห่งสรวงสวรรค์เมียหลวงจอมหึงโหดของซุสจงเกลียดจงชังเขามาก ถึงกับเคยคิดจะปลิดชีวิตเขาให้ตายด้วยการส่งงูยักษ์ไปจัดการกับเฮอร์คิวลิสในวัยเด็กซึ่งมีอายุเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น แต่ด้วยความที่เฮอร์คิวลิสเป็นเด็กที่มีแรงเยอะมาแต่เกิดเลยจัดการฉีกลำตัวงูจนขาดออกเป็นสองท่อนจึงสามารถเอาตัวรอดมาได้ แต่นั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อเขาโตเป็นหนุ่มและแต่งงานมีลูกกับหญิงสาวคนหนึ่งเฮร่าก็บันดาลให้เขาเกิดคุ้มคลั่งโดยไร้สาเหตุสังหารลูกเมียของตัวเองจนตาย เมื่อได้สติเฮอร์คิวลิสเสียใจมากจึงคิดจะไถ่บาปของตนโดยการไปทำภารกิจอันตราย 10 ประการ (ซึ่งเทพีเฮร่าก็ได้ไปตามไปขัดขวางเขาเกือบทุกภารกิจแต่เขาก็สามารถเอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง) ถึงแม้ว่าเฮอร์คิวลิสจะทำภารกิจทั้งหมดสำเร็จลุล่วงไปได้แล้วแต่เธอก็ยังคงตามราวีไม่เลิกรา 

          จนในท้ายที่สุดเมื่อเขาตายไปแล้วราชินีแห่งสรวงสวรรค์ผู้นี้ถึงได้ยอมรามือไปแต่โดยดี (การตายของเฮอร์คิวลิสสาเหตุหนึ่งก็มาจากการดลใจของเฮร่าเองนี่แหละ) อีกทั้งเทพซุสผู้เป็นบิดาก็นำเอาดวงจิตวิญญาณของเขาขึ้นมาเป็นเทพคอยเฝ้าพิทักษ์ทางขึ้นบนยอดเขาโอลิมปัสอีกด้วย

    4. ไครอน (Chiron) ยืนอยู่ดีๆก็โดนลูกหลง!


           'ไครอน' คืออาจารย์ของเหล่าวีรบุรุษกรีกหลายคนยกตัวอย่างเช่นเฮอร์คิวลิส เจสัน ธีซีอัส ฯลฯ มีลักษณะเป็นเซนทอร์รูปร่างกำยำสง่างาม มีนิสัยที่สุขุมเรียบร้อย ฉลาดปราดเปรื่องแตกฉานในศิลปวิทยาทั้งหลาย (ต่างจากเซ็นทอร์ทั่วไปที่มีนิสัยค่อนข้างป่าเถื่อนหยาบช้า โลกมากแถมลามกสัปดนชอบฉุดคร่าเมียชาวบ้านเป็นว่าเล่นจึงได้ชื่อว่าเป็นอันธพาลแห่งสวรรค์)

          ความซวยมาเยือนไครอน เมื่อวันหนึ่งเฮอร์คิวลิสเกิดไปมีเรื่องทะเลาะกับเซนทอร์ฝูงหนึ่งเข้า ขณะที่กำลังต่อสู้กันอยู่ก็บังเอิญยิงลูกศรอาบยาพิษไปโดนอาจารย์ของตัวเองเข้าเต็มรัก เฮอร์คิวลิสตกใจมากรีบวิ่งเข้ามาประคองร่างของไครอนพร่ำพูดคำขอโทษซ้ำไปมาราวคนเสียสติ (ด้วยความที่เป็นอาจารย์ผู้ใจดีไครอนจึงไม่คิดกล่าวโทษลูกศิษย์ของตนแต่อย่างใดและเข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ) แม้ไครอนได้รับความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัสแต่ก็ไม่สามารถที่จะตายลงได้เพราะเป็นเทพที่มีความเป็นอมตะ เทพซุสเห็นจึงสงสารเขามากเลยบันดาลให้ไครอนตายได้ แล้วไปเกิดเป็น 'กลุ่มดาวราศีคนยิงธนู' อยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืนสืบมา

    5. ซิลลา (Scylla) เหตุเกิดเพราะความสวยจนแม่มดอิจฉา


           เพราะความงามของนางพรายน้ำแสนสวยตนหนึ่งนามว่า'ซิลลา' ที่ดันไปถูกอกถูกใจเงือกหนุ่มนามว่า 'คลอคัส' เขาจึงตามตื๊อร้องขอความรักจากเธอทุกครั้งที่มาเล่นน้ำตามโขดหินอยู่ทุกวัน ทว่าเธอนั้นไม่ได้มีใจให้คลอคัลเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เงือกหนุ่มกลับไม่ยอมแพ้ง่ายๆจึงเดินทางไปหา 'แม่มดเซอร์ซี' เพื่อขอให้นางช่วยทำยาเสน่ห์ให้ซิลลาหันมาลุ่มหลงตนบ้าง แต่พอไปถึงแม่มดสาวกลับพึงพอใจในรูปกายที่หล่อเหลาของคลอคัสจึงรบเร้าขอให้เขาลืมซิลลาเสีย แล้วมาอยู่กินเป็นสามีของนางเสียดีกว่า แต่เงือกหนุ่มก็ปฏิเสธไป แล้วบอกว่าถึงเซอร์ซีจะงดงามมากเพียงไรแต่ในใจของเขาก็ยังคงรักมั่นแต่ซิลลาอยู่ดีไม่เปลี่ยนแปลง เซอร์ซีรู้สึกเสียหน้าและแค้นศัตรูหัวใจของนางอย่างซิลลามาก แต่ก็ทำทีเป็นเข้าอกเข้าใจแล้วก็ยื่นน้ำยาที่ปรุงเสร็จใหม่ๆให้คลอคัสโดยบอกว่าให้เขานำไปเทราดในบริเวณที่ซิลล่ามักจะชอบมาเล่นน้ำอยู่เป็นประจำ เพียงเท่านี้เธอก็จะหลงรักเขาจนหมดใจ 

           คลอคัสว่ายน้ำกลับฝั่งมาอย่างอย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็เอาน้ำยานั้นเทไปในบริเวณที่นางพรายน้ำชอบมาบ่อยๆ ตามคำพูดของแม่มดสาวตัวร้ายแล้วแอบซุ่มดูอยู่เงียบๆหลังโขดหิน ผ่านไปครู่หนึ่งซิลลาก็เดินมาเล่นน้ำอย่างสำราญใจ แต่เมื่อร่างกายของเธอสัมผัสน้ำอยู่ครู่นึงซิลล่าก็รู้สึกร้อนราวถูกไฟเผาและเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่งพอลืมตาขึ้นมาอีกทีร่างกายแสนสวยก็กลายเป็นอสูรกายน่าเกลียดน่ากลัวมี 6หัว 12แขนไปเสียแล้ว! กลอคัสที่แอบซุ่มดูอยู่ตลอดพอเห็นอย่างนั้นก็ตกใจเผ่นหนีไป และไม่เคยคิดย้อนกลับมาหานางอีกเลย (เอ้าพี่! ไหนบอกรักจริงหวังแต่งไง-0-)

           ซิลล่าโกรธแค้นมากจากที่เคยสวยสดงดงามราวกุหลาบแรกแย้มแต่ตอนนี้กลับต้องมาเป็นอสุรกายอัปลักษณ์แบบสุดจะกล่าวไปเช่นนี้ แถมยังไม่รู้ว่าใครเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ ทำให้ทุกครั้งที่มีนักเดินเรือผ่านมาเธอจะจับกินทั้งหมดเพื่อระบายโทสะ








         


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in