เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
WastelandSuburban Ghost
ปีกนี้หาใช่ปีกซึ่งใช้บินได้อีก, เพียงใบพัดหวดตีอากาศ
  • 0.

    เรื่องราวหาได้ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมรูปทรงเสร็จสรรพในบัดเดี๋ยวนั้น แต่ละถ้อยคำที่ถูกลงน้ำหมึก ลบทิ้ง แล้วพิมพ์ทับเข้าไปใหม่ คือเส้นที่ค่อยๆ ถูกลากไปบนผืนผ้าขนาดใหญ่ไร้สี คุณไม่อาจเห็นสัตว์ประหลาดปริศนาที่นักเขียนกำลังอรรถาธิบายได้อย่างครบถ้วน จนกระทั่งจบสิ้นการบรรยายนั่นเอง ลำพังเพียงแค่การบรรยายก็ใช่ว่าจะเป็นจุดหมายปลายทางของเรื่องราว สิ่งที่ถูกเขียนจะมีคุณค่าอันใดหากมันไม่ถูกอ่าน จริงหรือไม่จริง? การบรรยายย่อมเรียกร้องที่จะถูกเติมเต็มด้วยจินตนาการของคุณ คุณจึงยังไม่รู้ว่าเส้นที่ถูกลาก ณ ตอนนี้จะยืดขยายออกไปไกลแค่ไหน จะวกกลับมาบรรจบกันตรงจุดใด เช่นเดียวกับผู้เขียนคนนี้ที่ไม่อาจล่วงรู้ว่ามือของเขาจะพารูปทรงใดมาสู่เรื่องราว ได้เพียงเฝ้ามองอย่างกระหายใคร่รู้ และคาดหวังไปต่างๆ นานา แต่ไม่ ไม่จนกว่าที่ตัวอักษรจะอารีพอที่จะนำทางเขา เขาก็ไม่รู้อะไรเลย ไม่มีทางรู้อะไรได้เลย


    1.

    เป็นยามเช้าที่ฉันจดจ้องจอมือถือในความมืด ฉันพร้อมแล้วที่จะหลับตาลงนอน อีกไม่กี่ชั่วโมงพวกคุณก็จะตื่นขึ้นมาประกอบกิจวัตรประจำวันที่คุณๆ อาจมองว่าน่าเบื่อหน่าย ส่วนฉันจะหลับใหลผ่านวันของคุณแล้วตื่นขึ้นมาเมื่อคุณโรยแรง ประกอบกิจวัตรประจำวันที่ฉันไม่อาจปฏิเสธในยามราตรีที่พวกคุณง่วงเหงาหาวนอน กาแฟถ้วยแล้วถ้วยเล่าเป็นเพื่อนคู่กาย ฉันไม่ได้พูดคุยกับใครนอกจากกับตัวฉันเอง กับนักร้องที่ฉันร้องเพลงประสานเสียงกับพวกเขาในบางครั้งบางคราว หรือกับนังแมวที่มาตะกายหน้าประตูห้องเพื่อที่ฉันจะได้ไปเทอาหารรสเลิศให้กับมัน จอมือถือจ้องตอบฉันมาในความมืดด้วยแสงสว่างจ้า ฉันควรไปนอน หลับตา แล้วปล่อยให้โรงภาพยนตร์แห่งฝันฉายนาฏกรรมประหลาดให้กับฉันในยามหลับใหล

    อย่างที่เลดี้แมคเบธพึมพำ, ไปสู่เตียง... ไปนอน...


    2.

    ในความฝัน คุณกระซิบกับเงาที่หลบซ่อนอยู่ตรงมุมห้อง

    จินตนาการได้หลีกเร้นไปจากฉันจนหมดสิ้นแล้ว, คุณว่า คุณไม่รู้ว่าจะต้องไปหาหมอผีจากที่ใดมาเป่าเสกไฟที่เคยลุกโชนในใจให้กลับมาโชติช่วงอีกครั้ง คุณรบเร้า แต่เงาหาได้มีคำตอบ

    คุณมองไม่เห็นสีหน้าของเงา หากรู้เพียงว่ามันบรรจุความเศร้าไว้ครบถ้วนในทุกอณูของมัน เงายื่นแขนมาโอบอุ้มคุณ ปลอบประโลมอารมณ์อันหม่นหมอง กอดรัดความสิ้นหวังของคุณอย่างสิ้นหวัง ดูดเอาแก่นสารของความเศร้าออกไปจากใจคุณ คุณไม่รู้เลยว่าในทุกๆ คืน ความเศร้าของคุณถูกเก็บกักเอาไว้ในความฝันเช่นนี้ อันที่จริงคุณไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าความเศร้ามีอยู่จริง เงาในฝันลักลอบเอาความเศร้าไปเก็บไว้ในมัน เพื่อที่ตอนที่คุณตื่นขึ้นมาในอีกโลก...โลกที่ไม่มีอารมณ์ใดได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าไปได้นอกจากความสุข...คุณจะได้รู้สึกภาคภูมิว่าตัวคุณเองก็เป็นหนึ่งในประชากรแห่งความสุข ผู้ไม่แบกรับภาระทางความทุกข์ใด ผู้ไม่แบกรับภาระของการมีชีวิตใด ผู้ไม่แบกรับภาระในการเป็นมนุษย์ใด

    ...ประชากรซึ่งถูกชักใยให้ต้องสุข ประชากรผู้ปิดตาตัวเองจากเส้นด้ายหนาหนักที่เป็นบ่วงรัดอยู่รอบคอของพวกเขา, เงาพึมพาสาธยาย

    ใช่แล้ว เจ้าเงาแห่งความเศร้าตัวอ้วนพี, คุณพึมพำตอบ, ใช่แล้ว...


    3.

    ป้าสมถวิลบอกว่าลูกชายของแกอดข้าวเป็นวันที่ 7 แล้ว... 7 วันนับตั้งแต่กติกาอันไม่เป็นธรรมได้รับการยอมรับอย่างไม่เป็นธรรมจากคนทั้งแผ่นดินนั่นแหละ

    เขาชื่อไพศาล แม้ไม่ค่อยได้เจอหน้าเขานักตอนที่ผมขับมอเตอร์ไซค์ไปซื้อกาแฟที่ร้านของแม่เขา แต่เมื่อมีข่าวออกมาว่านักศึกษาถูกผู้มีอำนาจลากตัวไปกุมขังเมื่อหลายสิบวันที่แล้ว ผมก็จำได้ทันทีว่าเป็นเขา ผมพอรู้อยู่บ้างว่าเขาเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมที่ถูกห้ามอยู่เรื่อยๆ และแม้รู้ดีว่าคนเหล่านี้เสี่ยงที่จะโดนเล่นงานโดยกฎหมายบ้านเมืองซึ่งห้ามไม่ให้ใครคิด พูด หรือตั้งคำถาม ใจของผมก็อดหนักอึ้งขึ้นมาไม่ได้เมื่อมันเกิดขึ้นจริงๆ

    ไพศาลเชื่อว่าการที่เสรีภาพถูกริบเอาไปเก็บออมไว้โดยคนผู้ทรงอำนาจของประเทศนั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และคำอ้างที่ว่าการขาดพร่องเสรีภาพไปอย่างเท่าเทียมกันของผู้คนย่อมนำความเดือดดาลดั้งเดิมไปสู่สันตินั้นเป็นเพียงข้ออ้างลอยๆ ข้ออ้างที่เพียงอ้างความชอบธรรมพร่ำเพ้อให้กับพวกเขาเองที่ลุกขึ้นมาฉีกกฎเกณฑ์ของประชาชนทิ้งอย่างหน้าไม่อาย เสรีภาพของประชาชนจำเป็นต้องเป็นของประชาชนเพียงเท่านั้นไม่อาจถูกพรากไปได้ อีกทั้งความเท่าเทียมกันของการถูกพรากเสรีภาพนั้นไม่มีจริง เพราะความเท่าเทียมอะไรกันที่เอื้อประโยชน์ให้คนบางกลุ่มขณะที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นคนของคนอีกกลุ่ม จริงไหม? คนอย่างไพศาลถูกมองว่าเป็นเสี้ยนหนามของสันติภาพ เป็นเสียงตะโกนในความเงียบงันที่บางคนเชื่อไปอย่างโง่งมว่าคือความสมานฉันท์ ราวกับการซุกซ่อนความขัดแย้งและความหมองเศร้าเอาไว้จะหมายถึงการไม่มีอยู่จริงของมัน พวกเขาไม่รู้เลยหรือว่าที่ความเศร้าไม่มีอยู่จริงนั้นเป็นเพียงเพราะมันไม่ได้รับอนุญาตให้มีอยู่จริง? หรือที่พวกเขาไม่รับรู้ถึงเงาแห่งความเศร้าที่จดจ้องออกมาจากในฝันนั่นเป็นเพียงเพราะพวกเขาไม่รู้อีกต่อไปแล้วว่าการฝันนั้นทำอย่างไร?

    ผมไม่เคยคุยกับไพศาลหากรู้จักเขาผ่านข้อเขียนบนอินเทอร์เน็ต ผมอาจสัมผัสได้ถึงความเศร้าของไพศาลแต่ไม่เคยเข้าถึงความกล้าหาญของเขา ในทุกๆ วันที่ร่างกายของไพศาลอ่อนกำลังและซูบผอมจากการขัดขืนต่อการยัดเยียดของพวกเขาที่จะป้อนอาหารแห่งความสุข ความหวังของผมและใครๆ ก็ดูเหมือนจะริบหรี่ลงทุกชั่วขณะ ความขลาดเขลาที่หล่อเลี้ยงให้ความเศร้าตัวอ้วนพีฉุดกระฉากปีกแห่งความฝันลงเสียสิ้น ผมจะทำอะไรได้ หรือหากทำได้ผมก็ไม่เคยกล้าพอที่จะทำ

    ป้าสมถวิลบอกกับผมเพียงว่าลูกชายของแกอดข้าวเป็นวันที่ 7 แล้ว และไม่พูดอะไรอีก ป้าไม่ได้บอกว่าป้าทุกข์อย่างไร ป้าเป็นห่วงลูกของป้าแค่ไหน และป้าโกรธขึงเหล่าผู้ทรงอำนาจหรือไม่ หากดวงตาอันบอบช้ำของแกได้พูดทุกสิ่งไว้หมดสิ้น


    4.

    ‘เพราะปีกนี้หาใช่ปีกซึ่งใช้บินได้อีกแล้ว
    หากเป็นเพียงใบพัดหวดตีอากาศ
    อากาศซึ่งในชั่วขณะนั้นเล็กจ้อยและแห้งผากไปเสียทุกอณู
    เล็กจ้อยและแห้งผากเสียยิ่งกว่าเจตจำนง’ (จาก Ash Wednesday ของ T.S. Eliot)

    เส้นที่คุณลากไปบนผืนผ้าค่อยๆ ตรงดิ่งขึ้นไปบนอากาศ...อากาศอันแห้งผากดูดกลืนฝัน

    คุณไม่รู้อีกต่อไปว่าเจตจำนงของคุณมีต้นกำเนิดมาจากแห่งหนใด คุณฉงนสงสัยว่าใครกันคือผู้เป่าเสก ระบายฝันด้วยแปรงหลากสี ล่อลวงคุณด้วยความหอมหวานของอิสรภาพ ความรื่นรมย์ ความสมหวัง

    ปีกที่งอกออกมาจากแผ่นหลังของคุณหวดตีอากาศ พัดละอองฝันกระจัดกระจาย กระทั่งดับดวงไฟซึ่งเคยเผาอยู่กลางใจ

    น้ำหล่อเลี้ยงฝันเหือดหาย กิ่งกายมอดไหม้แห้งกรอบ รากที่คุณหยั่งบนโลกใบนี้จะต่างอะไรจากการปักหลอดลงกลางโมฮาวี ดูดเอาเม็ดทรายกร้านกระดากคอลงไปเผาผลาญกระเพาะ ลำไส้ และวิญญาณให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

    คุณเปล่งความทุกข์ทนออกมาเป็นถ้อยคำ...ถ้อยคำซึ่งโบยบินไปไกลกว่าตัวคุณ...ตัวคุณที่หวดตีอากาศอันแห้งผากด้วยปีกอันขาดวิ่น

    เพราะในขณะที่มือของคุณจับแน่นอยู่บนปากกา และมือของพวกเขาเกาะกุมไว้อย่างแน่นหนาบนมือของคุณ, เส้นที่คุณลากไปบนผืนผ้ากลับค่อยๆ ตรงดิ่งขึ้นไปบนอากาศ พาเงาแห่งฝันโบยบินสู่มิติอื่นๆ ภพภูมิอื่นๆ ความเป็นไปได้อื่นๆ ที่ตัวคุณเองไม่อาจ-และอาจไม่มีวัน-ย่างกรายเข้าไปได้ถึง

    ภาพจาก Wings of Desire (1987, Wim Wenders)
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in