เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
๋Just WriteFu-Hyong Fu Fu
[Movie Review] Sing Street ... We are perfectly incomplete
  • ฉันแตกหัก เธอปวดร้าว เขาอ่อนไหว เราสุขสม เราคือวัยรุ่นและนี้แหละที่เราเรียกว่าศิลปะ 


    จากฝีมือผู้กำกับและเขียนบท Once และ Begin Again John Carney กลับมาจับงานที่ถนันอีกครั้งกับหนังที่ผูกเรื่องราวเขากับเพลง เราต้องบอกเลยว่า Sing Street เป็นหนังที่เราอยากไปดูมากเพราะกระแสที่ดีมากในพันทิปและอีกหลาย ๆ ที่ 


    มันคือหนังวัยรุ่นกับเพลงยุค 80 ที่เราว่ามีเสน่ห์มาก อาจจะด้วยเพราะความเป็น 80s ที่มันไม่เหมือนใคร ในขณะที่ 70s คือภาคต่อและการพัฒนาจาก 60s และ 90s คือยุคแห่งความป๊อปที่จับทุกอย่างมารวมกันแล้วเกิดหมด มันมีแค่ 80s เท่านั้นที่ฉีกแนวออกมา เกิดเป็นเทรนของตัวเองที่มีเสน่ห์มากไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น แนวเพลง ศิลปะ และมันคือยุคแรกที่กำเนิดคำว่า Music Video 80s คืออัลเตอร์อย่างแท้จริง (ในสมัยนี้ก็เรียกว่าอินดี้อ่ะนะ) 


    ในขณะที่ Once มีเพลง Fallin’ Slowly เป็นภาพจำ และ Begin Again มี Lost Star มีดังมาก แต่ Sing Street กลับไม่มีเพลงไหนที่จะบอกเรื่อเล่าเรื่องราวของทั้งหนังได้เลย เพราะทุกเพลงมันดีจริง ๆ คุณฟังทั้งอัลบัมได้เลยโดยไม่เบื่อ ชื่นชมในจุดนี้มาก


    หนังเล่าเรื่องราวของเด็กวัยรุ่น Conor ( Ferdia Walsh-Peelo) อายุ 15 ปีครอบครัวกำลังประสบปัญหาและต้องย้ายเขามาเรียนที่โรงเรียนคาธอลิก และเจ้าเด็กนี้ก็ดันไปปิ๊งนางแบบโนเนมสาวสวย Raphina (Lucy Boynton) และต้องการเอาชนะใจเธอ Conor จึงตัดสินใจสร้างวงขึ้นมาโดยมีเจ้าเด็กตัวเล็กหัวแดงอย่าง Darren ช่วยรวบรวมสมาชิกในวงและคนแรกที่พวกเขาไปขอความช่วยเหลือคือ Eamon (Mark McKenna) << รักคนนี้บันนี่บอยของแม่ >>  


    เราชอบความสดของการใช้นักแสดงหน้าใหม่มากเพราะมันทำให้เราเชื่อตามสิ่งที่พวกเขาโชว์ในเราเห็น เด็กพวกนี้มีแววตาที่เราต้องตกหลุมรักอ่ะ คาแรกเตอร์แต่ละคนมันน่าสนใจ 


    โคเนอร์ เจ้าเด็กติ่ม น้องเล็กของบ้านที่มีปัญหาครอบครัว แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าเด็กติ่ม ๆ นี้มันหัวขบถของแท้ในความนุ่มนิ่มกลับซ่อนร่องรอยแตกหักให้เราคอย ๆ ได้เห็นและได้สัมผัสความเป็นตัวตนของเขา 


    ราฟีน่า สาวสวยของเรื่อง เธอคือนางฟ้าที่คอยนำทางให้โคเนอร์


    และคาแรกเตอร์ที่เราไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ เอมอน (ฉันก็รักของฉันไง) ความจริงแล้วบทเอมอนจะว่าไม่เด่นก็ไม่เด่น จะว่าเด่นก็เด่น เพราะเขาคือคนที่คอยประกอบร่างและอยู่ตรงนั้นเสมอในยามที่เพื่อนอย่างโคเนอร์ต้องการ 


    เราไม่ได้แค่เข้าไปดูหนังเพลง แต่เราเข้าไปดูหนังที่เล่าถึงความสุขของการทำเพลงและโลกใหม่ที่ 80s พยายามจะค้นหา ถึงแม้ว่ามันจะดูขายฝันไปหน่อย แต่เราให้อภัยที่หนังบอกให้เราเรียนรู้ที่จะเสี่ยง เรียนรู้ที่จะเป็นวัยรุ่น ถึงมันจะไม่สมบูรณ์แต่นั้นแหละคือส่วนที่ดีที่สุดของการเป็นวัยรุ่น ความไม่สมบูรณ์มันสร้างให้เราเป็นเรา มันถึงมีคำกล่าวนึ่งที่บอกว่า 


    “วัยรุ่ยคือศิลป”


    เพราะเราเจ็บและสุขสมในเวลาเดียวกัน เพราะเราไม่สมบูรณ์แบบอย่างสมบูณร์แบบนั้นเอง





    Go on be wrong cause tomorrow you will be right  








Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in