“แกจะไปอีกแล้วเหรอ?” อายเอยปากถามเพื่อนชายตัวสูง ผิวสีน้ำผึ้งกล่ำแดดอย่างคนที่หลงรักในการเดินทางกำลังนั่งผูกเชือกรองเท้าผ้าใบคู่โปรดเตรียมพร้อมเดินทางผญจภัยตามที่เจ้าตัวชอบ
“อื้อ ใช่สิยัยเฉื่อย” ตงชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มเงยหน้าขึ้นตอบเพื่อนสาวข้าวบ้านที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ อายทรุดนั่งลงข้าง ๆ เพื่อนชาย ในแววตามีคำถาม
“แกไม่เหนื่อยกับการตามหาอะไร ๆ ที่แกตามหาบ้างเหรอไง?” ตงเหลือบมองหน้าเพื่อนสาว
“แกมันจะไปรู้อะไร” ตอบพร้อมขยี้หัวเพื่อนสนิทก่อนจะยืดตัวเต็มความสูง กระชับเป้ที่ไหล่แน่นขึ้นเพื่อพร้อมออกเดินทาง
“ไปแล้วนะเฉื่อย”
“อื้อค่ะ สู้ๆนะ” บอกลาเพื่อนชายด้วยคำเดิม ๆ ที่ใช้บอกลากันเป็นประจำ
.
.
.
.
.
.
“ฉันว่าฉันเจอคนนั้นแล้วแหละเฉื่อย” ตงเอยขึ้นในบ่ายวันที่อากาศดีขณะที่ทั้งสองคนนั่งเล่นอยู่สวนเล็ก ๆ ร่มรื่นในบ้านของอาย อายดันแว่นที่ตกลงมาที่จมูกขึ้นแล้ววางหนังสือที่อ่านค้างในมือลง
“..อืมจะว่ายังดีละ ก็คุยกันมาสักพักละ เจอเขาตอนไปบนดอยล่าสุดที่ไป” ตงหน้าแดงเกาท้ายทอยพร้อมยิ้มน้อย ๆ อายมองกริยาแบบนั้นของเพื่อนพร้อมอมยิ้ม เธอรู้ว่าเขากำลังเขิน
“ชอบอะไรเหมือนกันตั้งหลายอย่าง ทั้งหนัง หนังสือ การไปเที่ยว เหมือนไม่ต้องปรับอะไรเลยแหละ” อายพยักหน้า มองท่าทางเขินของผู้ชายตัวโต ๆ ด้วยความเอ็นดู
“ดีใจด้วยนะ เจออะไรที่ตามหาสักที”
“ขอบใจนะเฉื่อย แล้วแกอ่ะไม่เหงาบ้างเหรอไง”
“เอาเป็นว่า... เราอยู่แบบนี้สบายดี”
.
.
.
.
.
.
“เหนื่อยว่ะอาย” ประโยคที่ได้ยินทันทีหลังจากที่เธอรับโทรศัพท์ นาน ๆ เขาจะเรียกเธอด้วยชื่อของเธอจริง ๆ สักทีนั้นแหละเธอเข้าใจทันทีว่าเพื่อนคนสำคัญของเธอกำลังมีปัญหาจริง ๆ เธอเงียบเพื่อรอให้เล่าต่อไปโดยที่ไม่ถามเร่งเร้า
“..ตอนแรกมันคลิกกันเร็วมาก เข้ากันได้ดี แต่เหมือนตอนนี้เราไม่เหมือนกันสักอย่าง ทะเลาะกันแม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหนื่อยที่ต้องคอยทะเลาะ เหนื่อยที่ต้องคอยอธิบายทุกอย่าง เหมือนเราอยู่กันคนละจักรวาลเลย”
“แล้วแกจะทำยังไง”
“เราคงจะหยุดแล้วถอยออกมาแล้ว”
“คิดดีแล้วจริง ๆ นะ” เธอถามเขาเพื่อย้ำให้เขาแน่ใจในคำตอบของตัวเอง
“อื้อคิดดีแล้ว”
.
.
.
.
.
.
“พักนี่แกไม่ไปออกเดินทางอีกเหรอไง” อายถามเพื่อนตัวสูงในสายวันหยุดสุดสัปดาห์ หลังจากที่ตงโทรมาเธอวันนั้นเขาก็อยู่ติดบ้านมากขึ้น จนเธอเองยังอดแปลกใจไม่ได้เพราะปกติแล้วตงไม่เคยอยู่บ้านนานขนาดนี้
ร่างที่ทิ้งน้ำหนักตัวของเขามาพิงหลังเธอ พร้อมกับฮัมเพลงสบายใจไม่ยอมตอบอะไร อายเอนตัวดันให้คนพิงเธออยู่รู้สึกตัว
“ไม่อ่ะเฉื่อย” ตงตอบกลับด้วยน้ำเสียงยานคาง
“ทำไมละ”
“ก็เพิ่งรู้ว่าอยู่ ‘แบบนี้’ สบายดีน่าจะรู้ตั้งนานแล้ว” ว่าแล้วร่างสูงก็ออกแรงดันหลังให้ร่างที่เขาพิงอยู่รู้สึกตัว
“อื้อค่ะ รู้แล้ว”
แต่สิ่งหนึ่งที่ตงไม่รู้คือยัยเฉื่อยของเขายิ้มให้กับหนังสือในมือทั้ง ๆ มันไม่อะไรน่ายิ้มให้สักนิดและสิ่งหนึ่งที่อายไม่รู้คือตอนที่ตงได้ฟังคำตอบของเธอเขายิ้มกว้างแค่ไหน :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in