* แฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรเตอร์และแต่งขึ้นเพื่อความบัง เทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น และแฟนฟิคชั่นเรื่องนี้เป็นแฟนฟิคชั่น boy’s love…ถ้าใครไม่ชอบแนะนำให้ปิดค่ะ *
REMARK: ฟิคเรื่องนี้เหมือนจะอิงจาก Snow White and The Huntsman…แต่สบายใจได้ ไม่มีสปอยล์ใดๆแน่จ้ะ
***************************************
“พี่สาวของข้าเป็นราชินีที่แสนเมตตาและอ่อนหวานใช่ไหมล่ะ?”
เสียงจากมุมมืดทำให้ร่างสูงใหญ่ชะงัก ก่อนจะหันไปทางต้นเสียง…คนพูดขยับออกมายืนในแสงขมุกขมัว ร่างโปร่งเพรียวอยู่ในชุดแบบราชนิกูลสีดำประดับดิ้นเงินละเอียดงดงาม…คลุมทับด้วยขนเฟอร์สีราตรีนุ่มๆ ยาวจรดพื้น
“เจ้าเป็นใคร?”
นายพรานถามกลับไปอย่างกร้าวกระด้าง คนตรงหน้าทำให้เขารู้สึกไม่วางใจทั้งที่เพียงได้ยินแค่เสียง…ถึงมันจะนุ่มนวลเหมือนแพรไหม แต่อะไรบางอย่างที่เจืออยู่ก็ทำให้รู้สึกว่ามันอันตรายเยียบเย็นเหมือนคมน้ำแข็งที่บาดผิว
เสียงนั้นหัวเราะเบาๆ ในลำคอ “ข้าจะทำเป็นไม่เห็นกริยาไร้มารยาทนั่นนะ”
ร่างเพรียวก้าวออกมาในแสงอีกนิด…ทำให้เขาได้เห็นรอยยิ้มยั่วเย้าบนเรียวปากชัดเจน นายพรานนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย…คนตรงหน้างดงามจนมองเผินๆ อาจเดาไม่ได้ว่าเป็นสตรีหรือบุรุษ ผิวขาวสะอาดขับให้ริมฝีปากสีทับทิมดูระเรื่อ เส้นผมสีดำสนิทยาวสลวยลงมาราวกับจะจงใจลากให้สายตาคนมองจับที่ต้นคอขาวเนียน
“ข้าล่ะนับถือท่านพี่จริงๆ…” นัยน์ตาสีน้ำทะเลจับจ้องเขาอย่างไม่กระพริบ…แววยั่วเย้าระริกไหว “…ที่หาตัวนายพรานเก่งกาจอย่างเจ้าเจอได้”
ชายหนุ่มผมน้ำตาลทองไม่ตอบคำ ปล่อยให้อีกฝ่ายเดินวนรอบตัวเขาเพื่อมองสำรวจ…แต่ก็ไม่ละสีหน้ากร้าวกระด้างของตน
ร่างบางแย้มยิ้ม…นัยน์ตาวาววับอย่างถูกใจมากกว่าเดิม
“น่าเศร้าจริงๆ…ที่เจ้าต้องรับคำสั่งจากท่านพี่ให้ไปปลิดชีพหลานสาวของข้า” ชายหนุ่มผมดำถอนหายใจออกมาอย่างเสแสร้ง ก่อนจะรำพึงอย่างเสียดสี…นิ้วเรียวสัมผัสแก้มเขาเบาๆ “จะมีอะไรน่าเศร้าไปกว่าการต้องเห็นสิ่งมีชีวิตงดงามรุมทำลายกันและกันอีก…ว่าไหม?”
สัมผัสของปลายนิ้วนั้นเย็นเยียบ…หากกลับแผดเผาอย่างประหลาด
ชายหนุ่มผมน้ำตาลทองมองอีกฝ่ายอย่างพินิจเป็นครั้งแรก…ผิวขาว…ผมดำ…เรียวปากสีเหมือนหยดเลือด…ทุกอย่างตรงกับรูปโฉมของเจ้าหญิงสโนไวท์ที่เป็นเหยื่อของเขา เพียงแต่อะไรบางอย่างในบรรยากาศของเจ้าตัวทำให้เขารู้สึกว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ปุยหิมะขาวอ่อนเดียงสา…แต่เป็นพายุน้ำแข็งเยียบเย็นแหลมคม
งดงาม…หากไร้ความเมตตาใดๆ
รอยยิ้มชายหนุ่มผมดำดูจะแย้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่านัยน์ตาของเขามองสำรวจตน มือเรียวลดลงมาสัมผัสที่แผ่นอกของเขา…วางนิ่งเหนือหัวใจ
“พี่สาวของข้าต้องการหัวใจของหลานสาวของข้า…” เสียงนุ่มนวล…ตัดกับเรื่องราวที่แสนโหดเหี้ยม “ครอบครัวของข้าช่างมีรูปแบบความรักที่น่าสนใจเสียจริง…เจ้าว่าไหม?”
นายพรานตอบคำถามด้วยคำถาม “เจ้าก็หวังจะเห็นความตายของสโนไวท์เหมือนกันงั้นหรือ?”
เสียงหัวเราะจากเรียวปากสีเรื่อนั้นสดใสเหมือนเพลงของนกน้อย ก่อนที่ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเรือนผมสลวยสีราตรีจะส่ายเบาๆ
“ไม่…ข้าไม่เห็นความสำคัญของหลานสาวแสนสวยของข้าสักนิด นางจะอยู่หรือจะตายไปตอนนี้…มันก็ไม่ได้ทำให้ข้ารู้สึกอะไรเลย” รอยยิ้มอ่อนหวานนั้นบาดลึกกว่าที่ควรเพราะคำพูด “เพียงแต่มันน่าสนุกเท่านั้นเอง…ท่านพี่ของข้าก็ช่างคิดเสียจริง หัวใจของเจ้าหญิงในมือของนายพรานที่ฆ่าเธอ…จะมีอะไรน่ากล่าวขานมากไปกว่านี้กัน?”
วงหน้างดงามมองเขา…นัยน์ตาสีเขียวอมฟ้าพราวระริก
“เพียงแต่ข้าสงสัยเท่านั้น…ว่าทำไมท่านพี่ถึงได้ต้องการอะไรที่มันง่ายและด้อยค่าแค่นี้” ร่างบางหยัดตัวขึ้นเพื่อกระซิบข้างหูเขา…ทุกคำเนิบช้า “ไม่ว่าจะเพราะรักหรือชัง…หากข้าต้องการใครสักคนแล้ว ข้าจะต้องได้ครอบครองทุกอย่างของเขา…”
ลมหายใจเป่ารด…สั่นพร่าในความใกล้ชิดที่เป็นดั่งยาพิษที่แสนหวาน
“ไม่ว่าจะเป็นดวงตา…”
สายตาที่สบประสานนั้นไม่ปิดบังความต้องการเป็นเจ้าของสักนิด
“ร่างกาย…”
นิ้วเรียวเลื่อนขึ้นไป…ลากไล้รอบต้นคอของเขา
“และหัวใจ…”
มือบางจิกลงตรงตำแหน่งที่สัมผัสได้ถึงจังหวะที่เต้นตุบ เสียงนุ่มนวลอันตรายนั้นยังพร่ำกระซิบข้างหู…อ่อนหวานเหมือนบทเพลง หิวกระหายเหมือนอสรพิษ
“…ทุกอณูของตัวตนของคนคนนั้นต้องเป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น”
นายพรานหัวเราะหยันๆ…ไม่คิดจะเป็นหมากที่เดินตามความต้องการของคนตรงหน้า
“แล้วเจ้าก็จะให้ข้าไปตามหาตัวคนคนนั้นด้วยหรือไง?” เสียงทุ้มพูดเสียดสี “ขอประทานอภัยนะฝ่าบาท…งานของท่านคงต้องรอหลังจากที่ข้าหาตัวหลานสาวท่านเจอเสียก่อน”
“ไม่…ไม่เลย…” ชายหนุ่มผมดำพูดตอบ…ความหฤหรรษ์เจือชัดในน้ำเสียง “นั่นเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นสักนิด สิ่งที่ข้าจะให้เจ้าทำเป็นแค่การตอบคำถามแค่คำถามเดียวเท่านั้น…”
ร่างบางเขย่งตัวขึ้นอีกครั้ง…ถ้อยกระซิบกลั้วหัวเราะดังแผ่วข้างหูเหมือนเสียงนกไนติงเกล
“…เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีข้ารอดไหม?”
นายพรานเหยียดยิ้มกับคำท้าทายยั่วเย้านั้น ก่อนจะกระชากร่างบอบบางเข้ามาใกล้…บดเบียดริมฝีปากของตนลงบนเรียวปากสีเรื่อเหมือนหยดเลือด สัมผัสได้ถึงมือเรียวของอีกฝ่ายที่โอบรอบคอและร่างเพรียวบางที่แนบเข้าชิดกับตัวเขา รสจูบนั้นเย็นเยียบ…ไม่มีอารมณ์ใดเจือปนนอกจากความคิดอยากเอาชนะกันและกัน หากความปรารถนาที่แล่นพล่านในทุกสัมผัสบอกทั้งคู่ชัดเจน…เปลวไฟร้อนรุ่มกำลังแผดเผาผืนน้ำแข็งให้หลอมละลาย
แล้วองค์ชายผู้งดงามจะได้รู้แน่นอน…ว่าใครกันที่จะเป็นฝ่ายถูกครอบครอง
Fin
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in