เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ครูบ้าเที่ยวBird Thanapong
บันจี้จัมพ์ครั้งแรกบนดินแดนนกกีวี นิวซีแลนด์ EP.3
  • เจ้าหน้าที่นับอีก 1-2 and 3 เป็นครั้งที่สองผมก็ยังไม่ได้กระโดด จนตอนนี้ทุกคนเริ่มส่งเสียงมาที่ผม "come on bird come on bird you can do it" หลังจากคำนี้ผมตัดสินใจกระโดดลงไปทันที เมื่อปลายเท้าผมหลุดออกจากที่ยืน ความรู้สึกแรกมันคือความหวิว เสียวท้องไส้ เหมือนเวลาขับรถลงเนิน ภาพ ณ ตอนนี้มันเร็วมาก จำอะไรแทบไม่ได้ แต่ยืนยันว่าไม่ได้หลับตา ด้วยเวลาเพียงเสี้ยววินาทีตัวของผมก็ลงมาถึงปลายสุดด้านล่าง เชือกก็หดตัวลงตัวผมกระเด้งขึ้นลงๆ ความรู้สึกมันเหมือนได้ปลดปล่อยความกลัวต่างๆ ตัวของผมห้อยไปมาอยู่สักพัก ผมก็กระตุกเชือกที่ปลายเท้าเพื่อพลิกตัวกลับมาตำแหน่งเดิม
                                                                     จังหวะกระโดดลง


    จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ดึงตัวผมขึ้นไปด้านบน เพื่อรอการกระโดดครั้งที่สอง เพราะโปรโมชั่นวันนี้ ซื้อ 1 ฟรี 1 ถามว่าต้องการของฟรีไหม? ตอบได้เลยว่าไม่ต้องการ แต่เมื่อมาถึงหน้างานแบบนี้ คนไทยหรือจะปฏิเสธ เมื่อแต่ละคนในกลุ่มได้กระโดดรอบแรกกันครบ ก็มาถึงรอบที่สอง ครั้งนี้เจ้าหน้าที่บอกว่า คุณสามารถเลือกเองว่าจะกระโดดท่าทางแบบไหน ซึ่งคนแรกกระโดดด้วยท่าทางลักษณะเหมือนกำลังวิ่งอยู่บนอากาศ แล้งก็ร่วงลงไปเลย มาถึงคิวของผม ซึ่งผมได้คิดไว้แล้วว่าครั้งที่สองจะกระโดดท่าหันหลัง การกระโดดครั้งที่สองหลายคนอาจจะคิดว่ามันจะง่ายขึ้น แต่ความจริงแล้วมันเหมือนเดิมครับ ตื่นเต้น กลัว สั่น เจ้าหน้าที่ถามว่า "You wanna touch water?" ผมตอบดังๆ ว่า Yes! สำหรับท่าหันหลังลง เจ้าหน้าที่จะเป็นคนปล่อยเชือกเราเอง หมายความว่าชีวิตผมขึ้นอยู่กับมือเจ้าหน้าที่ล้วนๆ เมื่อผมมายืนประจำตำแหน่งเรียบร้อย เจ้าหน้าที่บอกให้กางแขนออก แล้วถ่ายภาพก่อนกระโดด
    ดูจากท่าทางแล้ว ตลกตัวเองมากๆ ณ ตอนนั้นกลัวมากๆ แต่มันต้องทำแล้ว หลังจากถ่ายภาพเสร็จ เจ้าหน้าที่นับ 1-3 เขาบอกว่าให้ปล่อยมือ แต่ผมไม่ปล่อยแล้วตอบกลับว่า wait wait! ทุกคนที่มาตะโกนให้กำลังใจอีกครั้ง ผมค่อยๆปล่อยมือทั้งสองให้เป็นอิสระ ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ (คนในรูปนี่แหละ) รีบปล่อยเชือกทันทีโดยไม่ต้องนับเลย ไม่ทันได้เตรียมตัว ตัวของผมค่อยๆ เลื่อนต่ำลงๆ ภาพที่เห็นตอนนี้คือทุกคนตะโกนด้วยความซะใจ ความรู้สึกตอนนี้มันล่องลอยไปในอากาศ เหมือนเพลง ลาลาลอยนั่นแหละ มันหวิวๆ แต่เพียงแค่เสี้ยววินาที ตัวของผมก็ได้สัมผัสกับน้ำทะเลที่เย็นมาก จมลงไปครึ่งตัว แทบไม่ได้หายใจ มันเป็นการปลดปล่อยความรู้สึกกลัวอีกครั้ง 

    สุดท้ายก็ได้ใบประกาศมา ซึ่งตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ยังงงๆ ว่าเอามาทำไม แต่เสียตังค์ไปแล้วก็ขอมาสักหน่อย







  • หลังจากกลับมาที่พักเรียบร้อยผมทำการเช็คเอาท์ เพื่อจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่อยังในเมือง แล้วช่วงเย็นจะต้องนั่งรถไฟไปยังเมืองหลวงคือ wellington อยู่ทางใต้ของเกาะเหนือ แล้วต่อด้วยนั่งเรือขนส่งสินค้าข้ามจากเกาะเหนือลงมาเกาะใต้ เพื่อกลับมาที่เมือง christchurch 
    Rotorua เมืองแห่งน้ำแร่ น้ำพุร้อน และบ่อโคลนเดือด โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ริมทะเลสาบโรโตรัว ซึ่งได้รับสมญานามว่า"เมืองแห่งซัลเฟอร์" (Sulphur City) นอกจากนี้แล้วเมืองโรโตรัวยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ซ้ำกันมากที่สุดในโลกไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพอันงดงามจากภูเขาไฟ ทะเลสาบ และวัฒนธรรมอันดั้งเดิม
                                     นั่งรถไฟจากเมือง Auckland ลงมายังเมืองหลวง Wellington
                              ต่อเรือข้ามจากเกาะเหนือ ณ เมืองหลวง ลงมาเกาะใต้เมือง Nelson
                                                                    ท่าเรือเมือง Nelson
    ตลอดเวลาหลายเดือนที่ได้อาศัยอยู่ที่นี่กับ Host family ที่น่ารักมากๆ ผมได้เดินทางไปในหลายๆที่ 
    ประเทศนิวซีแลนด์ ระบบสาธารณูปโภคดีมาก โดยเฉพาะความสวยงามทางธรรมชาติ ภูเขา ทะเล บรรยากาศในเมืองน่ารักมาก หลังจากกลับมาเมืองไทย ผมอยากจะกลับไปอีกครั้งหนึ่ง และทริปที่น่าลองที่สุดคือการขับรถบ้าน ลงไปทางเกาะใต้ไป Dunedin และ Queentown น่าจะใช้เวลาช่วงปิดเทอมสัก 10 วัน ผมจะต้องทำความฝันนี้ให้ได้ไม่ช้าก็เร็ว 
                             บรรยากาศในเมือง Christchurch เมืองที่ผมอาศัยอยู่กับ Host family

    **หลังจากกลับมาเมืองไทยได้ประมาณอาทิตย์เดียว เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เมือง Christchurch สร้างความเสียหายมากมาย ผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน ผมติดต่อกับ Host family โชคดีที่ทุกคนปลอดภัย


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in