เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กระดาษทดเรียกเนี้ยวก็ได้
2019’s #fictober - rain
  • #fictober — rain

    Pairing: Da-Ichi (David Bowie x Ryuichi Sakamoto)
    AU #ลุงมอคค่าแก้ว




    Feel it on my fingertips,
    Hear it on my window pane
     


    “ฝนรึเปล่าน่ะ” เสียงฟองน้ำเสียดสีกับแก้วกระเบื้องหยุดลงก่อนประโยคจะถูกเอ่ยถาม คนที่กำลังง่วนอยู่กับการอบขนมหลังร้านถึงกับเดินออกมาหาต้นเสียง — รุจเองก็ยุ่งไม่ต่างกับเขา เบื้องหน้าชายแก่คือซิงค์ล้างจาน ในนั้นมีแก้วกระเบื้องอีกสองสามใบ กับจานใบเล็กจำนวนเท่าๆ กัน

    “ผมตากผ้าไว้ที่ระเบียง เก็บไม่ทันแน่เลยว่ะ”

    เตวิชรู้ว่าพอ ‘ลุงรุจ’ พูดแบบนี้แล้ว หน้าที่ของเขาคืออะไร

    ขนมที่เพิ่งยัดเข้าเตาไม่น่าห่วงเท่าเสื้อผ้าเจ้าของบ้านที่อาจกำลังถูกฝนสาดอยู่ตอนนี้ เด็กหนุ่มกุลีกุจอวิ่งขึ้นชั้นสองของตึกแถวที่เป็นทั้งบ้านพักอาศัยและร้านกาแฟขนาดย่อม รวบผ้าทั้งหมดที่ยังแห้งหอบเข้าห้องแต่งตัว วางกองไว้บนโต๊ะ ก่อนจะวิ่งลงมาเฝ้าคุกกี้ในเตาอบต่อ

    “ผมเก็บแล้วนะครับ”

    “ขอบใจครับเดฟ”

    ตอนวิ่งขึ้นไปเก็บผ้า เตวิชสังเกตว่าฝนไม่ได้ตกหนักอะไรมากมาย เสื้อผ้าทั้งหมดที่รุจตากไว้ยังไม่มีตัวไหนเปียก แต่หากทิ้งไว้อีกนิดล่ะก็ไม่แน่…

    แต่ฝนก็อาจช่วยให้ร้านโล่งได้นานขึ้น คงไม่มีใครอยากจะฝ่าฝนมาจิบกาแฟในเวลานี้ เอื้อให้เด็กหนุ่มเข้าครัว อบคุกกี้สูตรใหม่ที่ปรับจากสูตรในรายการทีวีจนถูกปากเจ้าของร้าน อนุญาตให้เขาดำเนินการ อบล็อตแรกด้วยตัวเองในที่สุด แถมเจ้าของร้านยังลงมาช่วยล้างแก้ว ทั้งที่วันก่อนเพิ่งขอยาแก้แพ้จากหมอประจำตัวด้วยเรื่องมีผื่นคันขึ้นที่มือจากแพ้น้ำยาล้างจาน

    ทำไมคนเรายิ่งแก่ยิ่งดื้อ เตวิชคิดในใจ จะไม่โตขึ้นไปเป็นลุงที่ดื้อรั้นแบบรุจเด็ดขาด

    เสียงน้ำไหลจากก๊อกเงียบลง ตามด้วยเสียงกระเบื้องกระทบกับชั้นวางสเตนเลส ไม่นานขณะที่เด็กหนุ่มกำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิด ชายชราเจ้าของร้านก็เดินเข้ามาในครัว หย่อนตัวลงนั่งข้างๆ ตรงเคาน์เตอร์

    .
    .




    Your love’s coming down like rain


    “รอบหน้าถ้าผื่นขึ้นมืออีก จะไม่ขับรถพาไปหาหมอแล้วนะ”

    “ไม่ขึ้นหรอกน่า” 

    “ก็บอกแล้วว่าให้มานั่งเฝ้าคุกกี้ เดี๋ยวผมล้างจานเอง” เด็กหนุ่มเริ่มขึ้นเสียงเล็กน้อย “เพิ่งโดนหมอดุมาด้วย ทำไมไม่เถียงหมอให้เก่งเหมือนเถียงผม”

    รุจเท้าคาง มองหน้าเตวิชด้วยแววตาไม่พอใจ เขาจะพยายามไม่ใช้คำว่า ‘เด็กสมัยนี้’ เพื่อตำหนิคนตรงหน้าแล้วกัน เอาเป็นว่า…อะไรทำให้เตวิชกล้าดุเขามากขึ้นทุกวัน นับตั้งแต่เจ้าเด็กเรียนจบ ปวช. ตัดสินใจหยุดเรียนหนึ่งปีเพื่อค้นหาสิ่งที่ชอบไปพลาง ทำงานร้านกาแฟไปพลาง เตวิชเป็นเด็กดีมาตลอด ยกเว้นเวลาที่ดุ ยิ่งทำงานนานยิ่งดุนายจ้างเก่ง ไม่รู้ทำไม

    รุจไม่อาจยกสิทธิ์พิเศษของความอาวุโสและความเป็นนายจ้างมาข่มให้เด็กหงอ ลองเป็นฝ่ายโดนเองบ้างยังไม่ชอบเลย ใครที่ไหนจะชอบ

    “คุณเป็นหมอหรือเปล่าล่ะ”

    “ลุงก็ฟังผมหน่อยเถอะน่า คิดซะว่าลูกหลานเตือนด้วยความเป็นห่วงนะครับ”

    สมอ้างเป็นลูกหลาน ถามจริงเถอะ

    “อ้าว ไปไหนซะแล้ว-“ เด็กหนุ่มพึมพำตามหลังเจ้าของร้านที่ผละลุกจากเก้าอี้หัวโล้นเสียดื้อๆ

    “ไปเอาน้ำส้ม” อ้อ ที่แท้ก็แค่ลุกไปเปิดตู้เย็น น้ำส้มบรรจุกล่องลิตรถูกวางบนเคาน์เตอร์ ข้างหน้าเตวิชพอดี “เอาด้วยไหม คลายร้อน”

    “ไม่เห็นร้อนเลย ฝนก็ตกอยู่”

    “คลายอาการหัวร้อนน่ะ”

    คนหัวร้อนหุบปากฉับ รุจสนุกกับการหลอกด่า เหน็บขำๆ พอๆ กับที่เด็กชอบขึ้นเสียงกับลุง อดีตเคยแรงก็แบบนี้ ทั้งคู่นั่นแหละ

    แก้วใสวางข้างๆ กล่องน้ำส้ม รุจค่อยๆ เติมแก้วทั้งสองใบด้วยสีส้มสดใสจนถึงประมาณค่อนแก้ว ยกหนึ่งใบขึ้นดื่ม ไม่ว่าเตวิชจะดื่มหรือไม่ ก็ถือว่าเขาชวนแล้ว

    .
    .

    Wash away my sorrow
    Take away my pain

    “เด็กช่างยนต์อย่างคุณ ทำไมอยู่ดีๆ ก็สนใจเรื่องการทำขนมขึ้นมา”

    ในโหลแก้วบนเคาน์เตอร์มีคุกกี้ ‘รุ่นเบตา’ ที่เตวิชทดลองสูตรครั้งแรก ครึ่งหนึ่งไหม้ ครึ่งหนึ่งหน้าตาสวยงาม หนึ่งส่วนสี่ของพวกหลังแข็งโป๊กจนกินไม่ได้ ที่เหลืออยู่คือผู้รอดชีวิต รุจเปิดฝาหยิบขึ้นมากินหนึ่งชิ้น รสชาติยังไม่ผ่าน แต่ก็พอกินได้

    “จริงๆ ก็ไม่ค่อย คือผมน่ะเห็นว่าร้านลุงมีแต่กาแฟ ลองคิดว่าบางทีลูกค้าก็ต้องการขนมกุ๊บๆ กิ๊บๆ ไปกินแกล้มกาแฟ แต่ลุงบอกว่าทำร้านเองคนเดียวยุ่งเกินกว่าจะรับจากที่อื่นมาขายด้วย พอผมมาช่วยลุงทำร้าน เห็นลุงมีเตาไม่ได้ใช้ เลยอยากลองทำดู”

    เตวิชคว้าโหลใส่คุกกี้มาชิมบ้าง นี่คือฟูลเวอร์ชันของคำว่ารสชาติหมาไม่แดกที่แท้ทรู แต่ก็ต้องฝืนเคี้ยวด้วยสีหน้าพอใจเป็นอย่างยิ่งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้นายจ้าง แต่นายจ้างของนายน่ะกินก่อนนายไปแล้วโว้ย

    “คุกกี้เขาใช้คำว่า ‘แกล้ม’ กาแฟรึ”

    “ง่า ผม…ผมนึกคำไม่ออก” คนไม่เก่งภาษาไทยเกาหัวแกรกแก้เขิน “ก็สังคมผมมีแต่คนกินเหล้า แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไปกับมันแล้วแหละ ทำแต่งาน”

    “ไม่เห็นได้ว่า เลิ่กลั่กทำไม”

    “แต่ก็พิมพ์ภาษาไทยถูกเยอะขึ้นบ้างแล้วนะ”

    “ไม่โดนผมดุคงไม่พิมพ์ให้ถูกหรอก” รุจยิ้มกว้าง “ถ้าชอบทำขนม เรียนเชฟก็น่าสนใจ”

    “ยังไม่ชอบหรอกครับ แค่สนใจ ต้องอยู่กับมันไปเรื่อยๆ ก่อน จะได้รู้ว่าชอบไม่ชอบ” คุกกี้ที่ถูกกัดเหลือคำสุดท้าย เตวิชโยนเข้าปากทั้งหมด “ไอ้นี่ก็ไม่เห็นอร่อย ทำไมลุงเก็บไว้อีกอะ”

    “เอาไว้กินในวันแย่ๆ” รุจหยิบคุกกี้จากโหลขึ้นมาอีกชิ้น จ้องมองอย่างพินิจ “อย่างน้อยก็ยังมีคุกกี้ของคุณที่รสชาติห่วยแตกกว่าชีวิต”

    เตวิชเหวอ

    รุจยัดคุกกี้ในมือใส่ปากทั้งชิ้น

    .

    .

    Here comes the sun
    And I say, never go away

    เสียงฝนข้างนอกสงบลงจนเงียบสนิท มีเพียงเสียงรถวิ่งผ่านจากถนนเล็กๆ หน้าร้าน รุจออกไปรับลูกค้า เหลือเตวิชเฝ้าเตาอบคุกกี้ที่ใกล้จะได้ที่ ส่งกลิ่นหอบอบอวลไปทั่วร้าน ได้ยินหญิงสาวถามแว่วๆ ว่ามีคุกกี้ขายด้วยหรือ ตามด้วยคำตอบจากเจ้าของร้านว่ากำลังทดลองทำ ถ้ามันเวิร์กและเสร็จทัน เธออาจจะได้ชิมก่อนใคร

    เจ้าของสูตรถึงกับหืดขึ้นคอ ไม่พร้อมให้ใครชิมทั้งนั้นนอกจากรุจ ยามาโมโตะ

    มองออกไปนอกหน้าต่างครัว พระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้าราวกับวันนี้ไม่มีฝนตกมาก่อน ใกล้เที่ยงแล้ว สักพักลูกค้าจากออฟฟิศละแวกนี้จะต้องออกมาสั่งกาแฟคนละแก้วสองแก้ว ได้เวลาลูกมือออกไปช่วยเสิร์ฟกาแฟ เตวิชไม่ถนัดชงเครื่องดื่ม แต่เรื่องหน้าเคาน์เตอร์และเดลิเวอรี่ เขามั่นใจว่าว่องไวและแม่นยำที่สุดในถนนสายนี้

    คุกกี้จะกรอบได้อากาศต้องแห้ง บางทีเขาอาจต้องพึ่งลมจากพัดลมช่วยเป่า

    เกือบเดือนที่เตวิชเข้ามาทำงานที่ร้านกาแฟแห่งนี้ในฐานะผู้ช่วย รุจเองก็ไม่เคยจ้างลูกมือเป็นเรื่องเป็นราวมาก่อน มีบ้างที่เมื่อก่อนเวลาลูกสาวเลิกงาน ระหว่างรอผู้เป็นพ่อปิดร้านเตรียมตัวออกไปทานข้าวด้วยกัน เธอก็อาจมาช่วยงานหน้าเคาน์เตอร์บ้าง แต่ก็แค่สั้นๆ ลูกค้าส่วนมากเข้าใจ กระบวนการทั้งหมดตั้งแต่รับออเดอร์ ชงกาแฟ คิดเงิน รุจทำเองคนเดียวหมด แม้กระทั่งออกไปส่งในออฟฟิศใกล้ๆ ที่พอจะขี่เวสป้าสุดเท่ออกไปส่งได้ คนเรามันจะเท่อะไรได้ทุกขณะจิตแบบนี้วะ เตวิชอดชื่นชมคุณบาริสต้ารุ่นลุง (หรืออาจจะรุ่นปู่ได้เลย) ทุกวันในใจไม่ได้

    ยิ่งได้ทำงานด้วยกัน ยิ่งสังเกตเห็นมุมน่ารักของชายแก่ได้เยอะขึ้น เวลาที่เขาแหย่ให้รุจโมโห บางทีก็โดนด่าสวนกลับ สนุกทุกครั้งที่ได้เห็นรีแอคชั่นจากอีกคน

    จริงๆ ฝนตกนานๆ ก็ดีเหมือนกันนะ รุจอาจจะนั่งอยู่ข้างเขาได้นานกว่านี้

    ไม่สิ เตวิชหมายถึงพอไม่มีลูกค้าฝ่าฝนมา เขาจะได้นั่งอู้งานได้นานขึ้นต่างหาก!

     
    .
    .
    Your love’s coming down like rain.

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in