เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[นิยาย] กลเล่ห์รัก - เนตรนภัสเนตรนภัส
กลเล่ห์รัก - ตอนที่ ๕
  • - ๕ -

     

                    ร่างสูงทอดไปตามโซฟาตัวใหญ่ มองเผินๆ เหมือนเจ้าตัวกำลังผ่อนคลายอยู่ในช่วงทอดหุ่ยสบายอารมณ์ทว่าคิ้วที่ขมวดมุ่นบอกว่าเจ้าตัวไม่ได้ผ่อนคลายอย่างที่คิด

                    สาวต่างถิ่นที่ตั้งแต่เจอกันวันนั้นก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆเขาไม่โทรไปก็ไม่คิดจะโทรมาเลยใช่ไหม

                    ชายหนุ่มมองโทรศัพท์มือถืออย่างลังเลท่าทางมุกทิ้งระยะเวลาสองสามวันคงใช้ไม่ได้ผลนอกจากไม่มีผลกับเธอแล้วยังทำให้เขากระวนกระวายหนักกว่าเดิมอีก

                    เอาวะมาดหรือศักดิ์ศรีไม่ได้ทำให้จีบผู้หญิงติด

                    เร็วเท่าความคิดนิ้วแข็งแรงทำหน้าที่ของมันอย่างแข็งขัน แล้วโทรศัพท์ก็ถูกยกแนบหูสัญญาณรอสายดังอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะมีเสียงตอบรับจากผู้หญิงประโยคให้ฝากข้อความหลังได้ยินเสียงสัญญาณไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการได้ยิน

                    ทว่าให้ละความพยายามตั้งแต่ตอนนี้เห็นจะไม่ใช่เขาแน่เขาต่อสายกลับไปอีกครั้งและครั้งนี้ก็เหมือนเดิม นานจนตัดเข้าระบบฝากข้อความ

                    ครั้งแรกยังคิดว่าอาจไม่สะดวกรับสายได้แต่ครั้งที่สองเขาก็เริ่มลังเล...หรือเจ้าหล่อนตั้งใจเมินเฉยสายจากเขากันแน่

                    บ้าจริง!

                    แค่คิดว่าเป็นเหตุผลหลังก็ชักหงุดหงิดแล้ว ไอ้สิญจน์เอ๊ย พลาดแล้วแก

                    “เป็นอะไรไปคะคุณสิญจน์”

                    สิญจน์หันขวับไปทางต้นเสียงจึงเห็นว่าเย็นจิตแม่บ้านที่ทำงานด้วยกันมานานยืนอยู่ตรงมุมห้อง

                    “ป้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”

                    “ตั้งแต่คุณเริ่มฟาดงวงฟาดงานั่นแหละค่ะ”เนื่องจากทำงานบ้านนี้มาตั้งแต่ยังสาว เห็นสิญจน์มาตั้งแต่ยังเด็กเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลานและสมาชิกในบ้านก็ปฏิบัติกับเธอราวคนในครอบครัวทำให้กล้าแซวออกไปตรงๆ

                    “ขนาดนั้นเชียวป้าสงสัยเนื้อตัวตึงๆ เลยหงุดหงิดไปหน่อย ผมไปออกกำลังกายดีกว่า จะได้หายบ้า” พูดพลางก็ลุกขึ้นบิดเนื้อตัวประกอบ

                    “แล้วเที่ยงนี้จะกินอะไรดีคะหรือว่าไปกินที่บ้านโน้น” เย็นจิตหมายถึงร้านทอง เธอเป็นแม่บ้านและมีหน้าที่ทำอาหารด้วยก็จริงทว่าหากมีเวลาว่างมารดาของสิญจน์มักปรุงอาหารเองแล้วหิ้วติดไปที่ร้านเพื่อรับประทานในตอนเที่ยงส่วนหนึ่งแบ่งเก็บไว้ให้ลูกชาย เผื่อตื่นสายหรือไม่อยากขับรถออกไปร้าน

                    “วันนี้มีอะไรบ้างครับ”

                    “ต้มหมูผักกาดดองปลาดุกผัดพริกขิง น้ำพริกผัก” ซึ่งเมนูหลังนี้มักมีติดบ้านเป็นประจำอยู่แล้วสมาชิกบ้านนี้โดยเฉพาะบิดาและมารดาของสิญจน์ชอบรับประทานผักมาก“แล้วก็ผัดถั่วงอกกับเต้าหู้ค่ะ หรืออยากได้อย่างอื่นคะ”

                    “ไม่ต้องลำบากหรอกครับป้าเอาเท่าที่มีนี่แหละ”

                    “ตกลงกินที่นี่นะคะ”

                    “ครับป้ามีอะไรทำก็ทำเถอะครับ ออกกำลังกายเสร็จแล้วเดี๋ยวผมดูแลตัวเองเอง”สิญจน์ยิ้มเมื่อเย็นจิตรับคำแล้วเดินขึ้นบันไดไปยังห้องส่วนตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตรงไปยังห้องออกกำลังกาย ซึ่งอยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน

                    ในห้องมีเครื่องออกกำลังกายที่จำเป็นหลายอย่างซึ่งเขาสะสมมาเรื่อยๆ โดยเลือกเฉพาะที่จำเป็น ไม่ได้เน้นปริมาณ อย่างเช่นลู่วิ่งบาร์เบล ดัมเบล จริงๆ อุปกรณ์ง่ายๆหาได้ตามบ้านเช่นผ้าก็สามารถใช้ออกกำลังกายได้เช่นกัน

                    ถ้าเลือกได้เขาชอบออกกำลังกายกลางแจ้งมากกว่าแต่ด้วยชีวิตประจำวันซึ่งไม่เป็นเวลาแบบชาวบ้านเขาหรือบางสถานการณ์สภาพอากาศก็ไม่อำนวยฝนตกบ้าง หรือแดดที่ร้อนจัดจนเกินไปทำให้หันมาออกกำลังกายในร่มแทน

                    สิญจน์หมกอยู่ในห้องออกกำลังกายเกือบชั่วโมงมองนาฬิกาเห็นว่าเที่ยงกว่าแล้วจึงคูลดาวน์และยืดกล้ามเนื้อป้องกันการบาดเจ็บนั่งพัก ดื่มน้ำอยู่ครู่ใหญ่จนตัวเย็นดีจึงไปอาบน้ำ รับประทานอาหารเที่ยงเสร็จก็พร้อมจัดการงานที่คั่งค้างและธุระต่างๆได้แล้ว

     

                    “ทำไมวันนี้เข้าร้านเร็วจังพี่”คนที่กำลังจัดโต๊ะ เก้าอี้ให้พร้อมสำหรับรับแขกคืนนี้มือเป็นระวิงเอ่ยทักอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเจ้านายเดินเข้ามาในบริเวณร้านก่อนเวลาประจำหลายชั่วโมง

                    “ถ้าไม่มาเร็วจะรู้รึว่ามีใครอู้”

                    “โหพี่เอางี้เลยเหรอ” ประโยคนั้นเรียกเสียงโอดครวญได้จากเก้าเด็กหนุ่มเจ้าของคำถามเมื่อครู่ รวมถึงเก๋งเด็กในร้านอีกคนซึ่งจัดโต๊ะอยู่ไม่ไกลกันได้เป็นอย่างดี

                    ในส่วนบริการด้านหน้าร้านของเขารับเฉพาะพนักงานผู้ชาย ไม่ใช่เพราะคิดว่าผู้หญิงทำงานแบบนี้แล้วไม่ดีพนักงานเสิร์ฟส่วนใหญ่เป็นเด็กมหาวิทยาลัยที่อยากหารายได้พิเศษเขาจึงค่อนข้างห่วงเรื่องความปลอดภัย  ทั้งการไปกลับร้านเวลาดึกดื่นรวมถึงเพื่อป้องกันเหตุการณ์ถูกลูกค้าเมาลวนลามอีกด้วยซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง

                    จริงอยู่หลายคนอาจคิดว่าลูกค้าคือพระเจ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นต้องรักษาผลประโยชน์รวมถึงชื่อเสียงของร้านให้มากที่สุดทว่าสำหรับเขาและเอกภพไม่ใช่เขาย้ำกับพนักงานในร้านเสมอว่าให้บริการลูกค้าอย่างจากใจและดีที่สุดแต่ไม่ใช่ว่าต้องยอมหากลูกค้าทำผิด เพียงต้องมีสติและวิธีรับมือให้ดีครั้งนั้นเขาปกป้องลูกน้องเต็มที่ ทว่าคงห้ามความตกใจและเสียขวัญไม่ได้พนักงานสาวจึงลาออกไปในที่สุด

                    เหตุการณ์คราวนั้นทำให้เขาและเอกภพลงความเห็นว่าไม่อยากรับพนักงานผู้หญิงเข้าทำงานเพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้นอีก

                    “ล้อเล่นทำเป็นเครียดไปได้” สีหน้าตื่นๆ ของเด็กหนุ่มทำสิญจน์หลุดหัวเราะด้วยความขำ“นี่คิดว่าพี่จะมาจับผิดเราจริงๆ หรือไง”

                    “เปล่าครับ”

                    อาการส่ายหน้าหวือโดยพร้อมเพรียงของสองหนุ่มทำสิญจน์ถึงกับโคลงศีรษะเขาค่อนข้างละเอียดในเรื่องงานจริง แต่มั่นใจว่าไม่ได้จู้จี้หรือจุกจิกการจับผิดลูกน้องจึงไม่เคยมีอยู่ในหัวขณะเดียวกันก็ไม่หละหลวมถึงขนาดปล่อยปละละเลยจนทำให้ร้านเสียหาย

                    “พี่มีธุระในเมืองขี้เกียจตีรถไปกลับบ้านอีกรอบให้เสียเวลา เลยเข้าก่อนเวลา”เขาอธิบายแล้วกวาดตามองไปรอบๆ เพื่อสำรวจความเรียบร้อย

                    ตัวร้านแห่งนี้ปรับปรุงจากบ้านเก่าของทวดเอกภพตัวบ้านสองชั้นทำจากไม้ทาสีครีมตัดกับสีน้ำตาลเข้มตามสไตล์บ้านเก่าความสวยงามและคลาสสิคทำให้ตัดสินใจคงรูปแบบเดิมเอาไว้ซ่อมแซมบางส่วนที่ผุพังไปบ้าง ต่อเติมออกไปด้านข้างอีกนิดหน่อยด้านบนเป็นชั้นลอยแบบโปร่งไม่มีหลังคาอาศัยความร่มรื่นจากเงาไม้ใหญ่ซึ่งยืนต้นอยู่นานพอๆ กับอายุของบ้านส่วนกลางแจ้งนี้ไม่ได้ให้บริการตลอดเปิดเฉพาะช่วงวันหยุดที่ลูกค้าเยอะและสภาพอากาศเอื้ออำนวยเท่านั้นรอบร้านถูกปรับภูมิทัศน์อย่างสวยงาม มีลานจอดรถบริการทั้งหน้าและหลังร้าน

                    “พี่สิญจน์มองหาพี่ทัศหรือเปล่าครับ”เก๋งทักขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของเจ้านาย

                    “อือมาถึงหรือยัง” กว่าร้านจะเปิดก็อีกกว่าสองชั่วโมงทว่าพนักงานต้องมาเตรียมร้านเพื่อให้พร้อมต้อนรับลูกค้า

                    “มาแล้วครับอยู่หลังร้านแน่ะ ก่อนหน้านี้รถมาส่งน้ำแข็งเลยเข้าไปดูความเรียบร้อย”

                    “งั้นพี่ไปคุยกับทัศก่อนพวกนายมีอะไรก็ทำไปเถอะ” สิญจน์บอกแล้วเดินหายเข้าไปหลังร้าน

                    นอกจากตัวร้านบาร์เครื่องดื่ม ห้องครัวแล้วยังมีออฟฟิศซ่อนอยู่ด้านหลัง เนื่องจากจบด้านบัญชีมาโดยตรงเขาจึงจัดการส่วนตรงนี้ด้วยตัวเองส่วนเอกภพก็ดูในภาพรวมของร้านไป ช่วงแรกต้องทำการตลาดอย่างหนักเพื่อให้เป็นที่รู้จักทว่าพออยู่ตัวแล้วส่วนนี้จึงเบาลง ทว่าก็ยังต้องหากิจกรรมหรือเมนูใหม่ๆให้ร้านอยู่เสมอ เพื่อลูกค้าจะได้ไม่รู้สึกจำเจแล้วค่อยหายไปร้านอื่นหมด

                    ตลอดทางสิญจน์ต้องคอยรับไหว้ทักทายพนักงานไปจนกระทั่งถึงหลังร้าน พบว่าทัศนัยกำลังคอยกำกับขณะคนงานกำลังลงน้ำแข็ง

                    “เกล็ดเล็กลงถังนี้นะส่วนเกล็ดใหญ่ลงอีกถังหนึ่ง อย่าลงผิดล่ะ”

                    ริมฝีปากสิญจน์คลี่เป็นรอยยิ้มน้ำแข็งเจ้านี้เป็นคู่ค้ากันมานานจึงรู้งานดี แต่มีบ้างที่เกิดเหตุติดขัดขึ้นคราวก่อนเขาสั่งน้ำแข็งอย่างละครึ่งตามปกติ พอมาเปิดลังน้ำแข็งดูก็พบว่าน้ำแข็งเกล็ดเล็กและใหญ่ถูกเทรวมกันไว้ภายในแบ่งซีกอย่างละครึ่ง ดูเหมือนไม่น่ามีปัญหาอะไรแต่หากตักน้ำแข็งฝั่งใดฝั่งหนึ่งมากกว่า อีกฝั่งจะไหลลงมารวมกันในที่สุดคราวนี้แหละเกิดปัญหาแน่เพราะเครื่องดื่มบางชนิดใช้น้ำแข็งละลายเร็วแบบเกล็ดเล็กๆแล้วทำให้เสียรสชาติได้

                    ที่ร้านให้ความสำคัญทั้งอาหารและเครื่องดื่มตัวเครื่องดื่มนั้นมีหลายๆ ตัวเป็นจุดเด่นที่ใช้เรียกลูกค้าได้เลยทีเดียว

                    “ต้องยืนกำกับขนาดนี้เลยเหรอทัศ”สิญจน์เอ่ยแซวในสิ่งที่รู้กันดี จึงได้รับเสียงหัวเราะจากอีกฝ่าย

                    “ไม่อยากให้พลาดเหมือนคราวที่แล้วครับ”ตอบคนเป็นนายแล้วก็รับกระดานกระดาษมาเพื่อเซ็นรับสินค้ารวมถึงรับใบกำกับจากเด็กส่งน้ำแข็งด้วย“ขอบใจมาก ขับรถดีๆ อย่าซิ่งนักล่ะ”

                    สิญจน์มองลูกน้องสั่งความเด็กส่งน้ำแข็งอย่างเป็นกันเองด้วยรอยยิ้มเขาเคยเห็นกับตาว่ารถน้ำแข็งบางครั้งก็ขับซิ่งเสียเหลือเกินไม่รู้คะนองหรือทำเวลาเพื่อไปส่งน้ำแข็งหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะไม่คุ้มกับการบาดเจ็บและชีวิตที่เสียไป

                    “วันนี้พี่สิญจน์เข้าร้านเร็ว”

                    “มีธุระนิดหน่อยเลยกะว่าจะเข้ามาเคลียร์บัญชีหน่อย แล้วนี่เหล้าที่สั่งไปมาส่งหรือยัง”

                    “มาส่งแล้วครับ แต่ไม่ครบเห็นว่าสินค้าขาด”

                    “อืม”เจ้าของร้านนิ่งไปนิด ประกอบกิจการก็มีปัญหาเฉพาะหน้าให้แก้ไขอยู่เสมอแล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พบปัญหาสินค้าขาดตลาดแบบนี้สักหน่อย “แล้วได้มาเยอะไหม”

                    “สามในสี่ที่สั่งไปครับเห็นว่าถ้ามีของเมื่อไหร่จะมาส่งให้เร็วที่สุด”

                    หลังบวกลบคูณหารถึงความต้องการของลูกค้าของที่เหลืออยู่กับสั่งมาเพิ่มใหม่ สิญจน์ก็เบาใจนิดหน่อยอย่างน้อยระยะนี้คงยังมีสินค้าขาย

                    “งั้นไม่น่ามีปัญหาอะไรช่วงนี้ไม่มีหยุดยาวหรืออะไร ลูกค้าก็คงปกติ”

                    “แล้วทางครัว”

                    “เรียบร้อยดีครับถึงเวลาก็เปิดครัวได้”

                    “ดีงั้นทัศไปทำงานต่อเถอะ ขอบใจมาก” สิญนจ์ตบไหล่อีกฝ่ายให้กำลังใจ“งั้นบิลนั่นส่งมาเถอะ เดี๋ยวจัดการต่อเอง”

                    “ครับ”

                    สิญจน์รับบิลส่งน้ำแข็งมาจากผู้จัดการร้านเดินลึกเข้าไปด้านหลังซึ่งมีอาคารชั้นเดียวเล็กๆ ตั้งอยู่ มีทางเดินเชื่อมถึงกันออฟฟิศเป็นส่วนที่ดึงเวลาของเขาได้มากที่สุด วันนี้ก็เหมือนกันเขาต้องจัดการกับบัญชีย้อนหลังในวันที่ไม่ได้เข้าร้านดูเหมือนงานจะเยอะทว่าระบบซึ่งวางเอาไว้ดีสมกับที่จ้างบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านนี้จัดการก็ทำให้ง่ายขึ้นเยอะ

                    สิญจน์ทำงานท่ามกลางเสียงเพลงเบาๆซึ่งแทรกเข้ามาในห้องหลังจากถึงเวลาเปิดร้าน นานเท่าไรไม่แน่ใจจนกระทั่งท้องเริ่มร้องชายหนุ่มจึงเซฟงานโดยไม่ลืมสำรองข้อมูลลุกขึ้นบิดขี้เกียจขับไล่ความเมื่อยขบจากการนั่งท่าเดิมเป็นเวลานานเดินหายเข้าไปทางห้องครัวเพื่อรับประทานอาหารเย็น

                    ปกติก่อนได้เวลาร้านเปิดทางพ่อครัวจะทำอาหารง่ายๆ ประเภทอาหารจานเดียวอย่างข้าวผัดหรือข้าวราดผัดกะเพราเลี้ยงพนักงานซึ่งทางร้านจัดอาหารเย็นไว้เป็นสวัสดิการพนักงานคิดว่าคงมีเหลือเผื่อเขาสักจานแน่ๆ

                    เขาเดินเข้ามาถึงส่วนครัวแล้วมองเข้าไปด้านในเห็นทุกคนกำลังวุ่นวายกับหน้าที่ของตัวเองมือเป็นระวิงมีคนหนึ่งหันมาเห็นเขาเข้าจึงร้องถาม

                    “มาเอาอะไรหรือคุณสิญจน์”

                    “มีข้าวเหลือไหมครับหิวเหลือเกิน ตอนเย็นยังไม่ได้กินอะไรเลย”

                    “ป้าแบ่งไว้ให้แล้วค่ะ”หนึ่งในแม่ครัวซึ่งกำลังง่วนอยู่หน้าเตาหันมาบอก “อยู่บนโต๊ะแน่ะค่ะวันนี้มีกะเพราเนื้อของโปรดคุณด้วยนะคะ”

                    สิญจน์มองตามการบุ้ยหน้าของฝ่ายนั้นก่อนหันกลับไปมองกระทะตรงหน้าต่อก็เห็นถ้วยสีขาวขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่วางอยู่สองใบด้านบนถูกซีลไว้ด้วยพลาสติกใสเรียบร้อยตอนเดินเข้าไปใกล้จึงเห็นว่าเป็นเฉพาะตัวกับ

                    “ไม่รู้คุณจะออกมากินตอนไหนป้าเลยแยกเฉพาะกับเอาไว้” เสียงอธิบายดังขึ้นมาอีก

                    “ขอบคุณครับป้า”

                    “ให้ป้าตักข้าวให้ไหม”

                    คนพูดทำท่าจะวางมือจากงานตรงหน้าเพื่อมาจัดการให้ด้วยตัวเองแต่ถูกสิญจน์ห้ามไว้ก่อน

                    “ไม่ต้องครับป้าเดี๋ยวผมจัดการเอง”ดูจากความวุ่นวายและกระดาษรายการอาหารที่แปะอยู่ไม่น้อยทำให้เขาปฏิเสธ“ป้าทำอาหารต่อเถอะ เดี๋ยวลูกค้ารอ คนหิวๆ ไม่ได้กินเร็วๆ เนี่ยระวังจะโดนกินหัวเอานะครับป้า”

                    สิ้นประโยคก็เกิดเสียงหัวเราะร่วนดังขึ้นทันทีอย่างคนเคยมีประสบการณ์ถูกลูกค้าวีนเหวี่ยง หรือตำหนิเพราะอาหารออกช้าไม่ทันใจ ความอดทนของแต่ละคนไม่เท่ากันแม้ทางร้านจะออกอาหารตามลำดับการสั่งของลูกค้าแต่ละโต๊ะก็ตาม

                    สิญจน์เดินถือจานข้าวซึ่งโปะกับลงไปเรียบร้อยพร้อมด้วยไข่ดาวอีกฟองกลับไปยังออฟฟิศความหิวทำให้เขาจัดการอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่นานจึงหมดจาน เขายกน้ำขึ้นดื่มนำจานไปเก็บในครัวแล้วตรงไปยังส่วนหน้าร้าน ถ้าไม่เดินสำรวจความเรียบร้อยจุดที่เขามักปักหลักอยู่เสมอคือเคาน์เตอร์แคชเชียร์

                    เป้าหมายของเขาวันนี้ก็เหมือนเดิมทว่าพอผ่านบาร์เครื่องดื่ม บริเวณเคาน์เตอร์ซึ่งจัดเอาไว้สำหรับลูกค้าที่มาคนเดียวร่างบางของหญิงสาวคนหนึ่งสะดุดตาจนเขาชะงักเนื่องจากเจ้าหล่อนนั่งหันข้างและเบือนหน้าไปอีกทางทำให้ไม่เห็นหน้า

                    ทว่าไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเมื่อเจ้าหล่อนหันกลับมาคุยกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ซึ่งกำลังชงเครื่องดื่มอยู่ริมฝีปากก็คลี่เป็นรอยยิ้ม

                    แม้เพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างเขาก็แน่ใจว่าใช่แน่ๆ

                    ไม่ต้องไต่ตรองซ้ำตอนเปลี่ยนจุดหมายเขาจ้ำเป็นก้าวยาวๆ ตรงไปจุดนั้นอย่างรวดเร็วตามความต้องการของหัวใจที่เรียกร้องเขาหยุดอยู่ใกล้แผ่นหลังเนียนซึ่งมีผ้าปกปิดอยู่เพียงหมิ่นเหม่...เยื้องไปด้านข้าง

                    “สวัสดีครับ...”

     

    -----------------------------------------



    อัปเดตเรื่องหนังสือกันสักนิด... ตอนนี้เปิดจองแล้วนะคะ ถ้าสนใจสามารถโอนเงินเท่ากับจำนวนหนังสือที่ต้องการแล้วแจ้งโอนพร้อมกับจองได้ที่ link นี้ค่ะ https://goo.gl/koovSX

    ครั้งเดียวจบทั้งจองและแจ้งโอนค่ะ แล้วรอสรุปรหัสการจอง โดยเนตรนภัสจะแจ้งรหัสการจองทุกเช้า ถ้าแจ้งวันนี้ให้รออีเมลพรุ่งนี้เช้านะคะ ไม่ต้องแจ้งซ้ำนะคะ

    สำหรับ 120 คนแรกรับที่ชุดของที่ระลึกพิเศษ SD ตัวละคร ชุดละ 4 ชิ้นค่ะ ^^ 

    รายละเอียดเพิ่มเติมในแฟนเพจค่ะ 

    Fanpage : เนตรนภัส

    Twitter : Naitnapas

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in