1
"ฉันชอบเวลาที่คุณคีบบุหรี่ไว้แบบนี้" เธอเอ่ย ยกมือขึ้นทำท่าเลียนแบบ "แต่ฉันโคตรเกลียดที่คุณสูบบุหรี่เลย"
เบนใช้ปลายนิ้วเคาะเถ้าบุหรี่ที่ปลายมวนเบา ๆ พลางพ่นควันออกมา ราวกับจะท้าทายหญิงสาวที่เพิ่งกลับจากคลินิกสัตวแพทย์ ในมือของเรย์มีกรงใส่ลูกแมวไร้บ้านเมื่ออาทิตย์ก่อน ซึ่งบัดนี้มีชื่อ มีปลอกคอ มีเจ้าของ อีกทั้งสะอาดเอี่ยมและปลอดภัยไร้โรค เขาก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าเรย์จะเลื่อนขั้นจากการเป็นเจ้าของพุ่มเดซี่ที่ระเบียงมาเป็นเจ้าของแมวเหมียวหนึ่งตัวได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะเปลี่ยนใจและตามมาง้อเรื่องที่ค้างคา แต่ดูเหมือนว่าเธอจะแวะทักทายตามปกติก่อนเข้าตึกก็เท่านั้น ฉากนี้ทำให้เบนหวนนึกถึงวันแรกที่เจอเธอขึ้นมาตงิด ๆ "ยัยเด็กเก็บขยะ" คำเรียกขานชวนขบขันติดอยู่ที่ริมฝีปากและล่องลอยไปกับควันสีเทาจาง ๆ ที่ทำให้เธอเบ้หน้า "เธอน่ะอันตรายต่อฉันยิ่งกว่าบุหรี่เสียอีก"
เรย์ยักไหล่ เอ่ยปากชวนแมวในตะกร้าเข้าบ้าน คิดเองเออเองเสร็จสรรพ เขาแปลกใจที่หญิงสาวไม่ต่อล้อต่อเถียงอะไร สุดท้ายเลยได้แต่ขยี้ก้นบุหรี่ด้วยส้นรองเท้าด้วยมาดที่คิดว่าเท่เสียเต็มประดา พอเธอลับตาไปแล้ว เขาถึงได้ก้มลงหยิบเศษซากบุหรี่จากพื้นมาทิ้งถังขยะอย่างพลเมืองดี
2
เรย์หยิบบุหรี่ขึ้นมา ถือไว้สักพักก่อนจะคาบไว้ที่มุมปาก ทำท่าอย่างกับจะเลียนแบบบทสนทนาในหนังรักวัยรุ่น "ไม่ใช่อุปมาอุปไมยอะไรหรอกน่า" เธอพูดอย่างไม่ค่อยชัดถ้อยชัดคำเท่าไร เบนมองมวนบุหรี่สีขาวขยับขึ้น ๆ ลง ๆ ตามริมฝีปากของเธอ "ฉันไม่ให้เจ้านี่ฆ่าฉันได้อยู่แล้ว" ว่าแล้วเธอก็หยิบบุหรี่ส่งคืนให้เขา เบนแกล้งร้องอี๋ สังเกตเห็นรอยลิปกลอสจาง ๆ ที่แทบจะมองไม่ออกติดมาด้วย เขาไม่มีอารมณ์จะสูบอีกมวนแล้ว
"เธอต่างหากที่จะฆ่าฉันเข้าสักวัน" เบนว่า "ไม่ใช่แค่ในเชิงอุปมาอุปไมยด้วย"
"น่ากลัวจัง"
บางครั้งเขาก็อยากบีบแก้มเธอทั้งสองข้างด้วยความหมั่นเขี้ยว ไม่ก็จับเธอจั๊กจี้บนเตียงสักยก ความปรารถนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ไร้สาระพวกนั้นต่างหากที่จะทำให้เขาเป็นบ้า เขาต้องการรอยยิ้มกว้าง ๆ และเสียงหัวเราะดังลั่นที่ทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตสวยงามเหมือนตอนตกหลุมรักครั้งแรกเมื่อเกรดห้า เบนต้องการเธอเหมือนชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับมัน โดยที่เธออาจจะไม่คิดจริงจังว่าความรักก็นับเป็นประสบการณ์เฉียดตายอย่างหนึ่ง แต่เขารู้ตัวดีว่าไม่อาจเขียนจดหมายรักยาวสิบหน้าเพื่อบ่งบอกความในใจ หรือเล่นสำบัดสำนวนให้เธอประทับใจได้ เรย์เรียบง่ายและชัดเจนเหมือนชื่อของเธอ ส่วนเขานั้นอ่อนไหวและออกจะซื่อบื้อเกินไปหน่อย
"คุณไม่ตายหรอกน่า" เธอว่า ก้มหน้าก้มตาทำงานในแล็ปท็อป พรมนิ้วลงบนคีย์บอร์ดอย่างคล่องแคล่ว ถ้าเป็นเมื่อก่อน เบนคงคิดถึงหญิงสาวในฝันสักคนที่เป็นนักเปียโน แต่ช่วยไม่ได้ที่เขาดันมาชอบวิศวกรที่เผลอ ๆ มือจะหยาบกร้านกว่าเขาเสียอีก
เบนรู้ดีว่าถ้อยคำของเธอไม่ใช่คำรับประกัน ไม่มีคำสัญญาเลื่อนลอยที่ว่า "ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณตาย" ซ่อนอยู่ระหว่างความเงียบกับเสียงลมหายใจ แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ว่า "คุณจะไม่ตาย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เจ็บปวด"
3
ลูกแมวสีขาวของเธอเข้ามาดมซองบุหรี่ที่วางอยู่ข้าง ๆ ที่นอนและปลุกเบนให้ตื่นด้วยหางยาว ๆ ที่แกว่งโดนหน้าอย่างไร้ซึ่งความเกรงใจ พอเขาขยับตัว เจ้าหล่อนถึงได้รีบวิ่งหนีไปหลบที่มุมห้อง เขาพลิกตัวหันไปหาเรย์ แล้วก็พบว่าเธอกำลังนั่งขัดสมาธิโดยมีแล็ปท็อปวางอยู่บนตักเหมือนเมื่อคืนไม่มีผิด อันที่จริง เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเธอได้นอนหรือเปล่า แต่ที่รู้แน่ ๆ ก็คือ ถ้าหากเขาเผลอดุเธอเรื่องโต้รุ่งถึงเช้า เรย์ก็มักจะหาว่าเขาว่างงานเกินไปอยู่เรื่อย
"อรุณสวัสดิ์ พ่อคนขี้เซา" เธอเอ่ยทักโดยที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ
เขาส่งเสียงอือตอบรับ นอนนิ่ง ๆ มองเธอตามประสาคนขี้เซาอย่างที่เธอว่า เรย์ไม่เคยเขินสายตาหรือยอมใจอ่อนลงมานอนข้าง ๆ อย่างที่เขานึกฝันไว้อยู่แล้ว ไม่นานนักเจ้าลูกแมวก็กลับมา เดินเหยียบร่างเขาเพื่อข้ามไปหาพี่สาวใจดี เธอใช้มือข้างหนึ่งลูบหัวเลอาที่ทำท่าจะขัดขวางงานของเธอด้วยอุ้งเท้าเล็ก ๆ เข้าจนได้ เบนรู้สึกเป็นมิตรกับเจ้าหล่อนขึ้นมาชั่วขณะ ก่อนที่เรย์จะยกลูกแมวมาวางบนอกของเขา "คุณต่างหากที่เหมือนแมว" เธอพึมพำ
เบนจ้องตาสีฟ้าใสแจ๋วคู่นั้น แมวไม่สนใจอะไรและไม่เชื่องเหมือนเรย์ แต่บางทีก็ต้องการความสนใจหนึ่งเดียวเหมือนเขาไม่มีผิด "ฉันเข้าใจแก" เขาใช้นิ้วลูบนุ่ม ๆ ของเจ้าหล่อนเบา ๆ และได้รับเสียงครางอย่างพึงพอใจตอบกลับมา เมื่อเจ้าแมวตัดสินใจนอนขดตัวกลมบนตัวเขา เบนเกือบจะผล็อยหลับไปอีกรอบหนึ่งแล้ว ถ้าหากจู่ ๆ เรย์ไม่เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน
"รู้ไหมว่าหมาแมวในเมืองนี้ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้ามากมายเท่าไร เมื่อเจ้าของแยกทางกัน" เธอขยี้ตาด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน ก่อนจะหันมาสบตาเป็นครั้งแรก แม้แววตาจะดูง่วงงุน "น่าเศร้ามากเลยนะ ว่าไหม"
เขาคิดว่าตัวเองเข้าใจความหมายของเธอดี เพราะฉะนั้น แกรี่จึงยังคงเป็นหมาของเขา ส่วนเลอาก็เป็นแมวของเธอ ห้องของพวกเขายังคงอยู่ตรงข้ามกันตรงทางเดินเช่นเดียวกับเตียงที่หลับนอน คำว่าเราเป็นเพียงสรรพนาม และอาจจะเป็นมากกว่านั้นในบางครั้งตามแต่สถานการณ์จะเอื้ออำนวย ทำไมเขาจะไม่รู้เรื่องนั้น
"เอากาแฟหน่อยไหม" เขาถาม
"เอาสิ ขอบคุณ"
เบนลุกขึ้นและคว้าซองบุหรี่ยัดใส่กระเป๋ากางเกง เขาเปิดและปิดประตูห้องของเธอและเขาสองรอบราวกับเป็นพิธีกรรมประจำวัน แกรี่เงยหน้าขึ้นมามองจากที่นอน เบนนึกขอโทษเจ้าหมาในใจ ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ระหว่างริมฝีปากและเริ่มต้นชงกาแฟ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in