เคยคิดอยากจะย้อนกลับแก้ไขอดีตกันมั้ยครับ
แน่นอนว่าทุกคนต้องเคยมีบ้างแหละ อย่างน้อยก็แค่ครั้งหรือสองครั้ง โดยความคิดนี้อาจจะเกิดขึ้นพร้อมกับคำว่า "รู้งี้...ดีกว่า" "ไม่น่า...เลย" อะไรทำนองนี้ ซึ่งผมว่าแบบนี้มันก็ไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่นัก
ความคิดของมนุษย์ที่พยายามจะย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่ผ่านไปแล้วหรือที่เรียกว่า "อดีต" ทำให้เกิดทฤษฎีเกี่ยวกับการข้ามกาลเวลาต่างๆ รวมไปถึงความพยายามของนักวิทยาศาสตร์ยุคก่อนๆในการสร้างเครื่องเดินทางข้ามกาลเวลา "ไทม์แมชชีน" ทำให้แนวความคิดเรื่องการย้อนเวลาแผ่ขยายเข้าสู่วงการต่างๆรวมไปถึง "วงการภาพยนตร์และการ์ตูน"
ผมขอพูดถึงการเดินทางข้ามกาลเวลาในวงการการ์ตูนก่อน ซึ่งการ์ตูนยอดฮิตที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคยกับมันอย่างดีก็คือ "โดราเอมอน" หุ่นยนต์แมวสีฟ้าที่ข้ามเวลาจากศตวรรษที่ 22 มาช่วยโนบิตะ ให้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ในเรื่องโดราเอมอนนั่นก็แสดงให้เห็นถึงแนวคิดในการข้ามกาลเวลาที่มีการตั้งกฎหมายในการข้ามกาลเวลาต่างๆ เช่น การย้อนเวลาเพื่อกลับไปซื้อล็อตเตอรี่งวดเก่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
การ์ตูนที่เกี่ยวกับข้ามกาลเวลาไม่ได้มีแต่เรื่องโดราเอมอนเพียงอย่างเดียว ในการ์ตูนตำนานอย่าง Dragonball ก็มีตัวละคร "ทรังค์" ที่ย้อนเวลากลับมาจากอนาคตเพื่อแก้ไขอดีต (ปัจจุบันในไทม์ไลน์หลัก) และการ์ตูนฟุตบอลสุดเว่อร์วังอลังการอย่าง Inazuma Eleven Go ภาคโครโนสโตน ที่เดินทางข้ามกาลเวลาไปเตะฟุตบอลกับบุคคลสำคัญของญี่ปุ่นในอดีต และหนักถึงขั้นไดโนเสาร์เลยทีเดียว
มาที่ภาพยนตร์กันบ้าง
ผลกระทบจากการแผ่ขยายสู่วงการภาพยนตร์ ทำให้เกิดหนังแนวข้ามกาลเวลาขึ้น ในช่วงแรกหนังแนวข้ามกาลเวลาจะเป็นแนววิทยาศาสตร์ หรือ Sci-Fi ซะส่วนใหญ่ หนังที่เด่นๆมาเลยก็จะเป็นเรื่องแลนด์มาร์คแห่งหนังข้ามกาลเวลาอย่าง Back to the Future
แต่ยุคหลังๆมาก็จะมีหนังข้ามกาลเวลาที่ฉีกกฎที่ว่าหนังข้ามกาลเวลาต้องเป็นหนังไซไฟเสมอไป อย่างเรื่อง About Time เป็นต้น
หนังหลายๆเรื่องที่เกี่ยวกับการข้ามกาลเวลา (รวมถึงหนังที่ไม่เกี่ยวกับการข้ามกาลเวลาซักเท่าไหร่) ก็จะอิงจากทฤษฎีการข้ามกาลเวลามาใช้ หรืออาจจะคิดทฤษฎีใหม่เกีี่ยวกับการข้ามกาลเวลาขึ้นมาเองเลย ไม่ว่าจะเป็น ทฤษฎีความขัดแย้งของกาลเวลา (Time Paradox) การแตกแยกโลกคู่ขนาน การวนลูป การเดินทางด้วยความเร็วเหนือแสงจะทำให้ข้ามกาลเวลาได้ ฯลฯ
มีหนังเรื่องหนึ่งที่ผมบังเอิญได้ดูตอนม.ต้น ที่ผมนึกถึง และเป็นที่มาของบล็อกในตอนนี้ หนังเรื่องนี้คือเรื่อง Source Code แฝงร่างขวางนรก (จำชื่อไทยได้โดยไม่ต้องหาข้อมูลเพิ่ม ฮ่าๆๆ) แสดงโดยพี่ Jake Gyllenhaal เป็นเรื่องของทหารคนหนึ่งที่ต้องไปอยู่ในร่างของชายคนหนึ่งที่อยู่บนรถไฟก่อนเหตุการณ์ระเบิดก่อการร้าย เพียง 8 นาที ตามหลักหนังข้ามกาลเวลาตัวเอกก็ต้องแก้ไขอดีตก่อนที่เหตุการณ์ระเบิดจะเกิดขึ้น
แต่ขอโทษทีครับ เรื่องนี้ทำไม่ได้ ตัวเอกมีทำได้แค่เพียงหาตัวผู้ร้ายให้เจอเพื่อไปจับในเวลาปัจจุบันเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เค้าจึงต้องตายวนลูปทุกๆ 8 นาที จนกว่าเค้าจะหาผู้ก่อการร้ายพบ
ตามความคิดของผม Source Code ไม่ได้เป็นหนังที่เดินทางข้ามกาลเวลาตามสูตรเป๊ะๆซักเท่าไหร่ แต่เป็นการเข้าไปในความคิด ความทรงจำของชายบนรถไฟ ที่เป็นเหมือนวิดีโอเกมที่วนซ้ำไปมา ที่ตัวเอกจะต้องเคลียร์เกมให้ได้ภายใน 8 นาที ก่อนที่เกมจะรีสตาร์ทใหม่อีกครั้ง หนังเรื่องนี้เลยกลายเป็นการมองย้อนไปยังความทรงจำในอดีต ยิ่งวนลูปไปเรื่อยๆ เบาะแสก็จะยิ่งมากขึ้น เพื่อนำเบาะแสที่พบมาแก้ไขในปัจจุบันเพื่อไม่ให้อนาคตซ้ำรอยกับอดีต แทนที่จะเป็นการเดินทางย้อนไปในอดีต แก้ไขการกระทำนั้นตรงๆ และอาจทำให้อนาคตเปลี่ยนไปในทางที่ไม่แน่ชัดว่าจะดีหรือร้าย
คล้ายกับโลกแห่งความเป็นจริงที่มนุษย์เราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้ ทำได้เพียงแค่ย้อนมองและเรียนรู้จากอดีต เพื่อเลือกที่จะทำปัจจุบันและสร้างสรรค์อนาคตของเราให้ดีที่สุด
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in