✮

มีข่าวมาคร่าวๆ ตั้งแต่ช่วงปลายธันวาคมที่ผ่านมา

เกี่ยวกับซีรีส์เรื่องใหม่ของนักเขียน คิมอึนฮี จากซีรีส์เกาหลี

ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่ดีที่สุดในวินาทีนี้อย่าง signal

แว่วว่าคุณนักเขียนหลุดปากขณะที่กำลังเลคเชอร์อยู่ว่า

อยากจะเขียนซีซั่นสองต่อ พอคำพูดดังกล่าวออกมาเป็นข่าว

เธอก็ให้สัญญาว่าจะเขียนซีซั่นสองจริงๆ แต่ต้องเป็นหลังจาก

ที่เธอเขียนบทซีรีส์เรื่องล่าสุดให้จบก่อน

ซีรีส์เรื่องล่าสุดนี่ล่ะค่ะที่เป็นประเด็น หลายคนจับตามอง

ว่าซีรีส์เรื่องใหม่ของนักเขียนมือทองคนนี้จะเป็นอย่างไร

คราวนี้เธอจะจับเอาเรื่องราวแบบใดมาสร้างสรค์ 

จะเป็นแนวทางสืบสวนสอบสวนปนระทึกใจแบบที่ถนัดหรือไม่

ช่วงต้นมกราคมก็มีรายละเอียดออกมาค่ะ ว่าซีรีส์เรื่องใหม่ของเธอ

มีชื่อว่า Kingdom ที่สำคัญเป็นซีรีส์ซากึกเสียด้วย

นักเขียนคิมอึนฮีกล่าวว่านี่จะเป็นงานซากึกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

เรื่องราวจะมีทั้งเรื่องการเมืองและกลิ่นอายทริลเลอร์แบบที่ถนัด

แค่ตัวนักเขียนยังน่าตื่นเต้นไม่พอ ในข่าวยังระบุด้วยว่า

ผกก. ที่จะมาทำหน้าที่กำกับนั้นคือผู้กำกับมากฝีมือ

อย่าง ผกก.คิมซองฮุน ที่เคยฝากผลงานอันแพรวพราวและจัดจ้าน

ผ่านภาพยนตร์เรื่อง A Hard Day และ Tunnel มาแล้ว

แม่เจ้า! อะไรมันจะน่าดูขนาดนี้

แต่ถ้าคุณคิดว่าการร่วมมือของทั้งสองคนน่าตกใจแล้ว

ยังมีรายละเอียดที่น่าตกใจกว่าก็คือซีรีส์เรื่องนี้

จะเป็น Netflix Original Series ค่ะ ท่านผู้ชม!

ซีรีส์จะมีความยาวประมาณ 8 ตอน 

(ซึ่งอาจจะยาวกว่านี้ได้ แต่จะไม่เกิน 16 ตอนแน่นอน)

และจะปล่อยพร้อมกันทั้งหมด 8 ตอน ผ่าน Netflix

เริ่มถ่ายทำในปี 2017 และเป็นถ่ายทำยาวแบบภาพยนตร์

แว่วมาว่าทุนสร้างนั้นสูงถึง 4 แสนล้านวอนเลยทีเดียว!

 (แต่นักเขียนบอกว่าไม่ถึ๊งไม่ถึง)

แฟนคุณคิมอึนฮีอย่างเราเซอร์ไพรสมาก นอกจากจะตื่นเต้น

กับผลงานใหม่ของเธอที่แค่ฟังก็รู้สึกว่าหัวใจมันเต้นระรัวไปหมดแล้ว

การที่ประกาศออกมาว่านี่จะเป็น Original Series ของ Netflix 

ทำให้ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ นี่มันเหนือความคาดหมายมาก

/ / / /

จากนั้นไม่นานค่ะ ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมานี่เอง

มีข่าวออกมาอย่างเป็นทางการว่า Kingdom ไม่ใช่ซีรีส์สัญชาติเกาหลีเรื่องแรก

ที่จะเป็น Original Series ของ Netflix นะคะ 

แต่เป็นซีรีส์โรแมนซ์-แฟนตาซีที่ชื่อว่า Love Alarm ต่างหาก!

Love Alarm นั้นดัดแปลงมาจาก webtoon ในชื่อเดียวกันค่ะ

เขียนโดยนักวาดการ์ตูนที่ชื่อว่า ชอนกเยยอง

เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแอปพลิเคชั่นมหัศจรรย์ ที่จะสามารถบอกเราได้ว่า

ในระยะ 10 เมตรเนี่ย มีใครกำลังชอบเราอยู่หรือเปล่า

Love Alarm เป็นเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นในรั้วของโรงเรียนมัธยมปลาย

รักสามเส้าเราสามคน แบบชายสองหญิงหนึ่ง แล้วเรื่องก็ยังวุ่นไปอีก

เมื่อมีเจ้าแอปฯ ประหลาดอันนี้ที่จะดังขึ้นทุกทีที่มีคนที่ชอบเราเข้ามาใกล้ในระยะ 10 เมตร

ตัวละครก็ตามสูตรซีรีส์เกาหลีล่ะค่ะ นางเอกเป็นเด็กขยันที่ทำงานหนัก

พระเอกเป็นหนุ่มซึนสุดหล่อที่ภายนอกเย็นชาแต่ภายในอบอุ่น กับพระรอง

ที่เป็นเพื่อนสนิทของพระเอก ที่ไม่ว่าจะน่ารัก แสนดี ขนาดไหน

สุดท้ายก็เป็นได้แค่พระรองอยู่ดี

Love Alarm ถูกวางแผนให้มีความยาว 12 ตอน

และจะปล่อยทั้ง 12 ตอนพร้อมกันตามขนบของ Netflix ในปี 2018

ให้ผู้ชมกว่า 190 ประเทศทั่วโลกได้รับชมพร้อมกัน

ซีรีส์เรื่องนี้ได้โปรดิวเซอร์ฝีมือฉกาจอย่าง คุณคิมแจมุน

(ผลงาน - Misaeng และ Signal) มานั่งแท่นคุมงานต่างๆ

แต่เรื่องที่ว่าใครจะมาเขียนบทและมาทำหน้าที่กำกับ

รวมไปถึงรายชื่อนักแสดงนำในเรื่องนี้ ยังไม่มีข่าวออกมานะคะ

ลุ้นกันไปยาวๆ ค่ะ ว่าแต่ละภาคส่วนของซีรีส์เรื่องนี้จะตกไปอยู่

ในความรับผิดชอบของใครกันบ้าง

/ / / /

นี่ถือเป็นปรากฎการณ์การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาครั้งยิ่งใหญ่

ของวงการซีรีส์เกาหลีค่ะ เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าซีรีส์สัญชาติเกาหลีนั้น

ไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่ยังได้รับความนิยมไปทั่วโลก

และการที่มีซีรีส์เกาหลี ทำโดยคนเกาหลีทุกขั้นตอน

ไปเฉิดฉายในสื่อออนไลน์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก

อย่าง Netflix เป็นเรื่องที่ทั้งน่ายินดีและน่าอิจฉาไปพร้อมๆ กันค่ะ

เท่ากับเป็นการยอมรับ ไม่ใช่เพียงในฐานะของฐานแฟนคลับ

แต่ยังเป็นการได้รับความไว้วางใจจากตัวผู้สร้างเองเลยด้วย

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เราต้องดูกันยาวๆ ค่ะ

ว่ามันจะส่งผลอย่างไรต่อวงการหลักของซีรีส์เกาหลีอย่างไร

ช่องโทรทัศน์ฟรีทีวีที่แต่เดิมก็แข่งกันจนแทบพลิกแผ่นดิน

จะต้องรับมือกลับการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไร

(หลังจากที่ช่วง 4-5 ปีมานี้ ก็ต้องรับมือกับการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ในเรื่องความนิยมของผู้ชมต่อซีรีส์ในช่องเคเบิ้ลทีวี ที่นับวันจะสูงเอาๆ)

ช่วงที่ซีรีส์เคเบิ้ลทีวีเกิดขึ้นนั้น นักเขียนบทและผู้กำกับหลายคน

ระเห็นระเหินออกจากช่องหลัก ย้ายไปซบกับช่องเคเบิ้ลหลายราย

แล้วนี่การเกิดขึ้นของ Netflix Original Series ที่หากว่าสองเรื่องนี้ทำได้ดี

ก็มีแนวโน้มสูงที่เราจะได้เห็นอีกช่องทางหนึ่งของซีรีส์เกาหลีก็เป็นได้

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่านี่เป็นช่องทางสำคัญที่เราจะได้เห็นซีรีส์เกาหลีเติบโตค่ะ

บางอย่าง บางเรื่อง อาจจะเล่าไม่ได้ หรือเล่าได้ไม่เต็มที่ผ่านจอทีวีที่คนดูจำกัด

แต่การออกอากาศผ่านสื่อออนไลน์ ที่มีคนรอดูอยู่ทั่วโลกเนี่ย มันคนละเรื่องกันเลย

ผู้จัด ผู้กำกับ คนเขียนบท เบื้องหลังต่างๆ น่าจะมีอิสระในการนำเสนอเนื้อหาที่

ดุดัน รุนแรง และลึกซึ้งมากขึ้น เพราะฐานผู้ชมกว้างมากขึ้นนั่นเอง

คราวนี้ก็เป็นกำไรของคนดูอย่างเราๆ นี่แหละค่ะ ที่จะได้เห็นอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ มากขึ้น

อีกเรื่องหนึ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นกำไรก็คือนักแสดงค่ะ

นักแสดงเกาหลีบางคนที่มีชื่อเสียงมากๆ จะรับงานซีรีส์น้อยค่ะ

เพราะว่าการถ่ายทำซีรีส์ที่เกาหลี ส่วนมากจะเป็นการถ่ายทำไป ออนแอร์ไป

การถ่ายทำจึงค่อนข้างลำบาก เรียกได้ว่าหามรุ่งหามค่ำ

มีการแก้บท ปรับบทกันตลอดเวลา จนนักแสดงแทบจะไม่ได้พักผ่อน

หลังจากมาเจอสภาพแวดล้อมการทำงานแบบนี้ หลายคนก็เลือกที่จะรับหนังดีกว่า

นานทีปีหนนั่นแหละค่ะ ถึงจะโผล่มาให้แฟนๆ หายคิดถึงทางจอทีวีกันบ้าง

แต่เนื่องจากการปล่อยซีรีส์ของทาง Netflix ไม่เหมือนกับการปล่อยทางช่องทีวี

เพราะต้องปล่อยพร้อมกันทีเดียวครบทุกตอน เท่ากับว่าต้องเป็นการถ่ายจบหมดแล้ว

ก่อนที่จะออกอากาศ เท่ากับว่าปัญหาการถ่ายไป ออนแอร์ไป ก็จะหมดไป

ระยะเวลาการทำงานก็จะสั้นลง นักแสดงที่บ่นว่าไม่มีเวลาได้โฟกัสกับบท

ก็จะมีเวลาและสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้น

งานนี้ ขอบอกได้เลยว่า Netflix Original Korean Series คงได้มีนักแสดงเก๋า

ตบเท้ามาโชว์ความสามารถให้เป็นบุญตาของเราแน่นอนค่ะ!

เรื่องที่น่าจับตามองกันต่อไปก็คือว่าซีรีส์เกาหลีจะไปได้ไกลขนาดไหน

จะสามารถสร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการซีรีส์ระดับโลกได้อย่างไรนั้น

เป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อกันยาวๆ ตอนนี้สิ่งที่เราลุ้นมากที่สุดก็คือ

Netflix Original Korean Series มันจะมีรูปร่างหน้าตาออกมาเป็นอย่างไร

เรื่องจะเดินทางไปได้ไกลแค่ไหน เป็นเรื่องหลังจากนั้นค่ะ

ติดตามกันไว้ตั้งแต่ตรงนีี้

ไว้รอ Love Alarm เปิดตัวเมื่อไหร่

เราคงได้มีเรื่องสนุกๆ มาให้ได้ขบคิดกันอีก

เกาหลีเขาไปไกลขนาดนี้แล้ว

คิดๆ ไปก็น่าอิจฉาเหมือนกันเนอะ

;)