เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Dhialannthefirstofmine
เมื่อโลกพยายามให้เรารักตัวเอง แต่บอดี้เชมมิ่งยังซ่อนอยู่ทุกมุม

  • รูปของ Florence Pugh ในแคมเปญ #MyBodyIsMine จาก https://www.instagram.com/p/BgDXmACBVsm/

    ต้องบอกว่าปัญหาเรื่อง self-esteem เป็นปัญหาที่พบได้ในหลายๆ กลุ่มคน อย่างที่เรารู้ คนรอบตัวก็มีปัญหาเรื่อง low self-esteem กัน และหนึ่งในสาเหตุหลักก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของ body shaming นี่แหละ แล้วเชื่อไหมว่ามีคนจำนวนมากอยากที่จะหนีไปจากโลกเพราะตัวเองโดนกระทำผ่านทางคำพูดเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น ‘อ้วน’ ‘ดำ’ ‘กุ้งแห้ง’ ‘ฟันเหยิน’ ‘เถิก’ ฯลฯ คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่า คำพูดที่คุณพูดออกไปนั้น มันทิ่มแทงใครต่อใครไปเท่าไหร่แล้ว มันเป็นบาดแผลที่มองไม่เห็น แต่มันก็เชือดเฉือนจิตใจคนครั้งแล้วครั้งเล่า

    คำถามต่อมาก็คือ Body Shaming คืออะไร?
    บอดี้เชมมิ่งก็คือการประณาม ล้อเลียน ดูถูกรูปลักษณ์ผ่านทางคำพูดหรือการกระทำที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ ละอายต่อใจเกี่ยวกับร่างกายของตัวเอง และมันก็เป็นผลกระทบที่สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมและมาตรฐานความงามที่สังคมคอยตีกรอบเอาไว้ให้กับเรา

    ทำไมบอดี้เชมมิ่งจึงเป็นปัญหา?
    เพราะว่าเราไม่มีทางรู้ว่าคำพูดหรือการกระทำที่ทำต่อคนอื่นนั้นมันจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขามากเท่าไหร่ ไม่มีใครชอบหรอกนะที่ตัวเองจะต้องโดนคำพูดเหล่านั้นตลอดเวลา การถูก body-shaming ไม่ใช่เรื่องสนุกที่จะต้องมีคนโดน มันมีผลกระทบต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของทางร่างกายหรือจิตใจก็ตามที

    อย่างที่บอกไปในตอนแรกว่าบอดี้เชมมิ่งคือหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิด low self-esteem เราเองก็คือหนึ่งในนั้นที่เคยโดน มันทำให้เราไม่กล้าที่จะทำอะไรให้ตัวเอง และมันเคยทำให้เราไม่เห็นคุณค่าในตัวเองมาแล้วด้วย สำหรับบางคนการไปพูดอย่างคะนองปากเหล่านั้นมันคือความสนุก แต่สำหรับคนที่ได้ยิน มันอาจจะเป็นนรกสำหรับเขาเลยก็ได้ มันอาจจะเป็นหลุมที่เราไม่ได้อยากตกลงไป แต่มีคนผลักเราตลอดเวลา คุณสนุกปาก แต่เขาตายทั้งเป็น

    ‘รักตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง’ ยากแค่ไหน?
    เราตอบได้เลยว่ายากมากๆ จากมุมมองของตัวเอง เพราะเราเคยโดนบอดี้เชมมิ่งมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะจากใครก็ตาม มันเหมือนหลุมที่เราพยายามตะกายเท่าไหร่ก็ไม่เห็นปากหลุม ซ้ำแล้วยิ่งโดนผลักให้ตกลงไปเรื่อยๆ ยากนะกว่าจะกลับมารักตัวเอง จนตอนนี้ก็กล้าพูดเต็มปากนะว่ายังรักและมองเห็นคุณค่าในตัวเองน้อย แต่ก็ถือว่ามากขึ้นกว่าเดิมเยอะ ถ้าไม่ได้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ดี ก็คงไม่มีวันนี้แน่ๆ

    แล้วทำไมเราถึงไม่ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นด้วยการที่เราพูดในสิ่งที่ดี และทำให้คนอื่นเห็นคุณค่าในตัวเองล่ะ มันเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่เหรอ การรักตัวเองเนี่ย เราไม่จำเป็นต้องอยู่ในโลกที่โหดร้ายต่อเรา ไม่ว่าจะเป็นทางคำพูดหรือการกระทำก็ตาม โดยเฉพาะคนรอบข้างที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญ เรามีเพื่อนที่คอยสนับสนุนเรา ไม่บอดี้เชม ไม่บูลลี่ ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำเรา มันถึงหลอมให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ มันทำให้เราเข้มแข็งขึ้น มากกว่าเพื่อนที่คอยทำให้เรารู้สึกแย่ในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง


    Photo by Volkan Olmez on Unsplash

    ใช่ เรายอมรับว่าตอนเด็กๆ ก็เคยไปบอดี้เชมคนอื่นเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดี (เพราะตอนเด็กๆ โดนบ่อย) แต่เมื่อเราโตขึ้น มองเห็นโลกกว้างขึ้น เราเรียนรู้ เรายอมรับผิดในสิ่งที่เคยทำไปแล้ว และไม่ทำซ้ำอีก มันไม่ใช่สิ่งดีเลยที่ทำไป แต่คนเรามันก็ผิดพลาดกันได้ โตแล้ว รู้จักอะไรเยอะแล้ว ก็ต้องไม่ทำมันอีก นั่นคือสิ่งที่ควรจะเป็น แต่ถ้าโตแล้ว รู้แล้ว ยังทำอยู่ อันนี้ก็ต้องเก็บไปคิดพิจารณากันหน่อยว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น

    ไม่ได้อยากให้โลกสวย แต่อยากให้โลกน่าอยู่ อยากให้ทุกคนรักตัวเอง มองเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น ไม่ใช่โดนทำร้ายผ่านทางคำพูดของคนอื่น
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in