วันนี้เป็นวันทำงานวันแรกของผมครับ ผมได้เจอกับอาจารย์ที่ปรึกษาโปรเจ็กต์ของผม และเนื่องจากผมต้องมีโต๊ะทำงานเป็นหลักเป็นแหล่ง (เอาไว้เวลามีคนต้องการติดต่อจะได้จิกหัวเรียกมาได้) อาจารย์ที่ปรึกษาก็พาผมไปคุยกับเลขาของโครงการ CMS เพื่อหาโต๊ะว่างให้ผม
ผมได้โต๊ะว่างมาโต๊ะนึงครับ อยู่ในอาคารใกล้กับออฟฟิศของอาจารย์ที่ปรึกษา โต๊ะที่ผมได้เป็นแบบ open space นั่นแปลว่าเป็นโต๊ะทำงานที่ไม่ได้อุดอู้อยู่ในห้องคนเดียว และเรายังมีเพื่อนทำงานโต๊ะข้าง ๆ ไว้แก้เหงาได้ ข้อเสียของตำแหน่งของโต๊ะของผมมีอยู่อย่างเดียวครับ คือ วิวเหี้ยมาก วิวของผมเป็นพื้นที่โล่ง ๆ มีผนังคอ-นก-รีตเป็นแบ็กกราวนด์ มีต้นไม้โง่ ๆ สองสามต้น แค่นั้น เจ้ากัน รุ่นน้องโรงเรียนผมได้วิวที่นั่งเป็นแบบทุ่งหญ้าเหมือนในหนัง The Sound of Music ยังไงยังงั้น (หากนึกไม่ออก ดูคลิปประกอบด้านล่างได้ครับ มันได้วิวเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีแบบนี้เลย)
ผมไปที่โต๊ะ พร้อมกับเปิดคอม ด้วยความหวังที่ว่าจะได้ทำงานที่อาจารย์มอบหมายให้ และหยิบสายชาร์จพร้อมหัวแปลงปลั๊กไฟที่อุตส่าห์เตรียมมา ปรากฎว่า นอกจากวิวที่เหี้ยแล้ว ยังมีความฉิบหายอีกอย่างหนึ่งที่โต๊ะตัวนี้มีให้ครับ
หัวปลั๊กแม่งเสียบไม่เข้า
คือก่อนหน้านี้ผมสามารถใช้หัวแปลงปลั๊กแบบที่ผมเตรียมมาตอนอยู่ที่ที่พักได้ เพราะที่พักใช้เต้ารับปลั๊กไฟ
แบบ C ซึ่งผมเสียบใช้ชาร์จมือถือที่ที่พักได้ แต่พอมาถึงที่ทำงาน เต้ารับของปลั๊กดันเป็น
แบบ J ซึ่งเป็นแบบที่นิยมใช้ในสวิตเซอร์แลนด์
แต่ตอนนั้นรู้มั้ย ก็ไม่
ภาพที่เห็นตอนนี้คือผมกำลังมุดลงใต้โต๊ะเพื่อจะดูว่าทำไมกูถึงเสียบสายนี้เข้าเต้ารับตัวนี้ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่มึงเสียบสองขาได้เหมือนกัน คำตอบคือแบบ J จะมีลักษณะหัวเป็นหกเหลี่ยม ซึ่งทำให้หัวปลั๊กแบบอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีทรงหกเหลี่ยมหมดสิทธิ์เสียบเข้าไป
ถึงตอนนี้ในหัวผมเปิดเพลงธรณีกรรแสงของพระเจนดุริยางค์ละครับ
แต่เดชะบุญที่ผมไปเห็นพี่สาวนักวิจัยชาวอินเดียคนหนึ่งหยิบอะแดปเตอร์ของนางออกมา ผมจึงถามเขาว่า
"พี่ซื้อที่ไหนครับ"
"พี่เอามาจากอินเดียจ้ะ จะยืมก่อนมั้ย"
"ยืมครับ ขอบคุณมากครับ"
ผมจึงรอดจากวิกฤตินี้มาได้ และก็ต้องยอมเสียเงินอีก 24 CHF กับหัวแแปลงปลั๊กอีกแบบหนึ่ง เพื่อจะได้ไม่ต้องหน้าด้านยืมอะแดปเตอร์ของพี่สาวชาวอินเดียอีก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in