เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวหนังKeitchai Aonnoy
Sing – ร้องจริง เสียงจริง
  • Sing – ร้องจริง เสียงจริง

    เรื่องย่อ

              ณ เมืองที่มีแต่สิงสาราสัตว์ ทุกครอบครัวต่างมีหน้าที่ของตนเองใครประกอบอาชีพอะไรก็ดำเนินกันไป ทว่ามีโคอาล่าอยู่ตัวหนึ่งเป็นเจ้าของกิจการ “โรงละครมูน” ซึ่งเคยเฟื่องฟูพอตกมาที่มือลูกชายอย่าง “บัสเตอร์ มูน (แมทธิว แม็คคอนนาเฮย์)” กลับถึงคราวตกต่ำเป็นหนี้สินจนไม่มีเงินจ่ายธนาคาร แต่ “บัสเตอร์” ยังไม่อับจนความคิดเกิดปิ๊งไอเดียจัดประกวดร้องเพลงแบบสมัยนิยมประเภทเดียวกับ The Voice และ Got Talent แต่คุณกิ้งก่าพนักงานคนเดียวของโรงละครเกิดเล่นตลก ชีวิตพลิกผันทำให้เกิดความผิดพลาดของจำนวนเงินรางวัลบนใบปลิวที่ได้ทำการแจกจ่ายออกไปทั่วเมือง “บัสเตอร์” ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนซี้เพียงคนเดียว “เอ็ดดี้” คุณชายแกะที่บ้านรวยเงินถุงเงินถังมีคุณยายเป็นอดีตดาราดาวรุ่งของ “โรงละครมูน” สมัยที่พ่อของ “บัสเตอร์” ยังเป็นเจ้าของอยู่ หลังจากที่คัดเลือกตัวแสดงได้แล้ว “บัสเตอร์” เชิญชวน “นาน่า” คุณยายของ “เอ็ดดี้” เพื่อนซี้มาชมการแสดงรอบพิเศษ แต่ทว่า! กรรมเวรของ “บัสเตอร์” ยังไม่จบสิ้นเมื่อผู้เข้าแข่งขันตัวหนึ่งเกิดสร้างปัญหาโรงละครถูกกลุ่มหมีฉกรรจ์มาทำลายสถานที่จัดแสดงเป็นเหตุให้โรงละครพังพินาศ และในที่สุดถูกธนาคารยึดไป “บัตเตอร์” จะพลิกวิกฤตินี้เป็นโอกาสได้หรือไม่


    ในการแข่งขันมีตัวเก็งอยู่ 5 ราย คือ “ไมค์” หนูจอมเจ้าเล่ห์ (เซ็ธ แม็คฟาร์เลน) ผู้ขยับลูกคอได้พลิ้วไหวพอๆ กับลีลาในการต้มตุ๋นของเขา, “มีนา” ช้างสาวขี้อาย (ทอรี เคลลี) ผู้เกิดอาการตื่นเวทีได้เสมอ, “โรซิต้าร์” คุณแม่หมูลูกดก (รีส วิทเธอร์สปูน เจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด) ผู้วิ่งวุ่นกับการดูแลลูกน้อยทั้ง 25 ตัวของเธอ, “จอห์นนี่” กอริลลาแก๊งสเตอร์หนุ่ม (ทารอน อีเกอร์ตัน) ผู้ต้องการจะหลุดพ้นจากธุรกิจมืดของครอบครัว และ “แอช” เม่นสาวพังค์ร็อครักคุด (สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน) ผู้พลิกผันจากบทนักร้องเบอร์สองกลายเป็นนักร้องเดี่ยวที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ แต่ละตัวตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันของบัสเตอร์ด้วยความเชื่อว่า การแข่งขันครั้งนี้เป็นโอกาสให้พวกเขาได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองครั้งยิ่งใหญ่

           Sing มาพร้อมกับเพลงฮิตมากกว่า 85 เพลง ตั้งแต่ยุค 30-40 ปีที่ผ่านมา จนถึงยุคปัจจุบัน เขียนบทและกำกับโดยการ์ธ เจนนิงส์ (Son of Rambow, The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy) และอำนวยกาสร้างโดยคริส เมเลแดนดรี้และ เจเน็ต ฮีลลี


    รีวิว วิจารณ์หนัง ‘Sing ร้องจริง เสียงจริง’

    คงจะเห็นว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้เต็มไปด้วยดารานักแสดงที่คุ้นชื่อมากมาย แต่พวกเขาได้ได้ออกมาให้เราเห็นหน้าหรอก มีให้รู้สึกได้แต่เสียงเท่านั้น เรื่องราวก็ดูเหมือนมีกลิ่น The Voice นิดๆ แต่สำหรับคนที่รักเสียงเพลง ยังไงมันก็ยังชวนให้อยากดูได้อยู่

    ดูได้เพลิน ประสาหนังครอบครัว

    ช่วงเริ่มต้นของ ‘ร้องจริง เสียงจริง’ เหมือนจะเป็นช่วงเวลาแนะนำตัว แนะนำให้รู้จักกับ บัสเตอร์ มูน เจ้าของโรงละครที่ตกต่ำผู้มองโลกในแง่ดีและหวังว่ารักษามันไว้ ก่อนจะพาเราไปรู้จักกับตัวละครหลักต่างๆ ทีละตัว

    ยอมรับว่า เสียงหัวเราะของคนรอบข้างทำให้ผมหวั่นว่านี่ผมจะเป็นคนส่วนน้อยหรือไรที่แทบจะไม่ขำไปกับมุกของหนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้ สำหรับผมมันเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ ไม่มีอะไรชวนมีอารมณ์ร่วมได้มากเท่าที่ควร


    หนังเชิญชวนให้รู้จักกับเรื่องราวเบื้องหลังของพวกเขา ได้เห็นถึงวิถีชีวิตที่แตกต่างกันของแต่ละตัวละคร มองดูเหมือนจะเล่าถึงเรื่องราวหลายอย่างจนเกินจะโฟกัสอะไรสักอย่างให้มากพอ ขณะที่มุกตลกที่ใส่เข้ามานั่น ก็มักจะออกไปในทางแป้กมากกว่าจะฮา จะมีบ้างบางช็อตที่มีความน่ารักแทรกๆ เข้ามาเป็นพักๆ

    ถ้าจะมองไปถึงเพลงที่หยิบจับใส่เข้ามาในหนังถึง 85 เพลงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มันมากมายก็จริง นับกันไม่หวาดไหว ทว่าก็เหมือนตัดใส่เข้ามาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย  ไม่ทันจะได้อินก็ผ่านไปเสียแล้ว

    ช่วงท้ายตีตื้น เวทีมินิคอนเสิร์ตดีดีนี่เอง…

    แต่ก็ใช่ว่า ‘Sing’ จะไม่มีอะไรที่น่าสนใจ เพราะในช่วงครึ่งค่อนไปทางท้ายของหนัง จะเป็นช่วงเวลาที่หนังตีตื้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด กับฉากการแสดงโชว์ของตัวละครแต่ละตัวที่ผ่านออดิชั่นมาบ้าง หรือได้รับโอกาสได้บ้าง มันเป็นช่วงที่ดูดีที่สุดในหนังจริงๆ

    เพราะการทำโชว์ของเขาดูน่าสนใจดี แต่ละโชว์จะมีอีกฉากหนึ่งประกบไปด้วยเสมอ และจะมีผลที่ตามมาแทรกไว้ด้วยเสมอ   สิ่งที่ปูเอาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องได้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในช่วงเวลานี้

    ถ้าถามว่าอินสุดกับเรื่องราวของตัวละครตัวไหน คำตอบมันกลับกลายเป็นเรื่องราวดรามาในครอบครัวกอริลล่าเสียอย่างนั้น จอห์นนี่เป็นลูกที่ไม่ได้อย่างที่พ่อหมายมั่นปั้นมือ พ่ออยากจะให้ลูกเติบโตขึ้นมาในฐานะลูกของหัวหน้าแก๊ง แต่ทว่าลูกกลับรักในการร้องเพลง และมักจะหนีมาออดิชั่นและซ้อมอยู่บ่อยๆ จนภารกิจมิจฉาชีพของแก๊งพลอยมีอันเสียหายไปด้วย แต่ยังไง “พ่อก็คือพ่อ” …อยู่ดี  ช็อตนี้ทำเอาผมน้ำตาซึมได้เลย


    หนังโชว์ความครีเอตในการคิดมุกหนังได้ดี โดยเฉพาะการจัดการของแม่หมูระหว่างที่ตัวเองออกมาซ้อมร้อง แต่แค่มันดูไม่เข้ากับบุคลิกของตัวละครและมันดูไม่สามารถไปใช้อธิบายต่อได้ ความครีเอตที่น่าสนใจที่สุดกลับเป็นการเอาปลาหมึกมาสร้างสรรค์เป็นเวที นั่นแหละ น่ารักมากที่สุดแล้ว

    โดยรวมมันเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ กับครอบครัว ไม่เป็นพิษเป็นภัย แถมยังได้พลังของการทำตามฝัน การเลือกทางเดินที่รักและทำมันให้ดีที่สุด  ไม่ปล่อยทิ้งมันไว้กลางทาง



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
สนุกมากก
Pang Lalana (@pang1296)
เพลงเพราะมากๆเลย
Nisajin Luanchaison (@nisajin)
ส่วนตัวปกติไม่ชอบดูละครเพลงหรือหนังที่เป็นมิวสิคัลเท่าไรนัก เวลาดูมักจะสคิปท์ตอนร้องเพลงข้ามไปประจำ แต่ชอบตรงมุกเนี่ยละ:3
Alisa Katpach (@fb1364975786858)
เขียนบทความได้ดีละเอียดมากคะ
Boonyawat Somdee (@pollala)
ชอบจังหนังที่เกี่ยวกับร้องเพลงอะ??
Phatsaraporn Punyaveerawat (@first39x_first3)
ชอบเพลงเรื่องนี้ๆๆ หนังก็สนุกก
IAMie (@amchns)
ได้ยินมาว่าเพลงเพราะ ทำให้อยากดูเลยค่ะ
Namploy Thanchanok (@nnaammppllooyy)
หนังน่าดูมากๆเลยยย
pichapornmild (@pichapornmild)
เพลงเพราะมากก
MinMean Iiz (@fb1475684899109)
เพลงเพราะมากเรื่องนี้
ดูแล้วชอบมากตัวละครน่ารักสุดๆ
Mookki Chadanuch (@piggymookker)
เรื่องนี้น่ารักมากเลยค่ะ
หนังน่าดูมากเลยค่ะ
Somkiat Pimhame (@fb1399483003451)
น่าดู
Witchalee Chaengyai (@dear_u-know)
เขียนได้ดีมากค่ะอ่านแล้วเพลินดี
Pa'pearz Ffk (@fb1449117865119)
ชอบมากค่ะหนังเรื่องนี้ หมูตั๊ลล๊าค
Amy Darin (@fb1310162849051)
ดูแล้วเพลินเลยสนุกๆ
Nattapong Thunmina (@thunmina)
ดีงาม
Fah Kachana (@Furby)
น่าสนใจมากเลย ไม่เคยดูจะไปหาดูบ้างละค่ะ