ชายผู้นี้หลงรักการวาดรูปเป็นอย่างมาก จนกระทั่งตัดสินใจที่จะไปร่ำเรียนต่อทางด้านนี้โดยเฉพาะ แต่คุณพ่อกลับไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ เขายังเคยถูกไล่ออกจากการเป็นนักหนังสือพิมพ์ด้วยเหตุผลที่ว่า เขา “ขาดจินตนาการ” แต่ชายคนนี้ก็ยังเดินตามทางของเขาไปอย่างไม่ย่อท้อ ลองคิดดูสิว่า ถ้าหากวันนั้นเขาหยุดทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่น และทำตามความฝันของพ่อเขาแทน หรือล้มเลิกความคิดที่จะเป็นนักวาดภาพ แล้วดำเนินชีวิตไปวันๆอย่างที่มันควรจะเป็น (ในสายตาของคนอื่น) แล้ว โลกใบนี้ของเราจะต้องขาดสีสันไปทั้งหมดกี่สี และรอยยิ้มไปอีกกี่ล้านรอยยิ้ม ชีวิตในวัยเด็กของเราคงจะจืดชืดมากจริงๆ

และแล้ว ในปี 1955 โลกแห่งจินตนาการอันไม่รู้สิ้นสุด ก็ได้มาซ้อนทับกับโลกแห่งความจริง เปิดโอกาสให้นักเดินทางน้อยใหญ่มาตามหา และแบ่งปันความสุขกัน วอลต์ ดิสนีย์ จะรู้สึกอย่างไรกันนะ เวลาที่เขาได้เห็นครอบครัวที่แสนอบอุ่นเดินจูงมือกันเข้ามาใน ดิสนีย์แลนด์ เขาจะรู้สึกอย่างไรกันนะ เวลาเห็นผู้คนมากมายจองตั๋วเครื่องบินจากอีกฟากหนึ่งของโลกเพียงเพื่อจะมาสัมผัสโลกเวทมนต์แห่งนี้ เขาจะรู้สึกอย่างไรกันนะ เมื่อรู้ว่าเด็กผู้หญิงค่อนโลกใบนี้ใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นเจ้าหญิง เขาจะรู้สึกอย่างไรกันนะ ที่ชีวิตของเขาผลักดันให้ผู้คนมากมายลุกขึ้นยืนและเดินทางตามความฝันของตนเองบ้าง เขารู้สึกยังไงกันนะ เวลาเป็นคนมอบความสุขล้นเหลือให้กับคนอื่นเช่นนี้

แล้วตัวเองล่ะ พอจะมีโอกาสสัมผัสความรู้สึกแบบนี้ได้บ้างไหม ฝันเติบโตมากับการ์ตูนของดิสนีย์ จนพูดได้เลยว่ามันเป็นส่วนหนึ่ง และเป็นส่วนที่สำคัญมากด้วยของชีวิตฝัน ฝันไม่ได้อยากแค่จะเข้าไปรับความสุขจากที่นั่น ฝันอยากจะเข้าไปแบ่งปันความสุขแบบนั้นกับนักเดินทางทุกคน รวมถึงเหล่าเจ้าหญิงน้อยๆด้วย ดังนั้น ฝันจึงตัดสินใจเข้าร่วม Disney International Program ที่ทางดิสนีย์เปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติ อายุระหว่าง 18 - 28 ปี เข้าร่วมหาประสบการณ์ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ Walt Disney World Resort สวนสนุกดิสนีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก! (เขาถึงใช้คำว่า Disney'world' แทนคำว่า Disney'land' ไงล่ะ) ตั้งอยู่ที่รัฐฟลอริดา ประเทศอเมริกา ซึ่งโปรแกรมนี้ก็จะมีใช่ช่วงปิดเทอมใหญ่ของทุกๆปีนั่นเอง ฝันเรียนคณะทางสายภาษา นี่จึงจะเป็นโอกาสที่ดีมากในการฝึกใช้ภาษาในสถานการณ์จริง รวมไปถึงการจัดการบริหารเวลาและกิจกรรมต่างๆ การได้มีโอกาสไป Work ซักครั้ง จะเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมแน่ๆ