[ Before Bedtime - day 5 ☾ ]
Pleased to meet me : Meet Your MOOD ' พบกับอารมณ์ของคุณ '
สวัสดี ก่อนจะเข้านอนค่ะ
หลังจากที่ห่างหายไปนาน
วันนี้มิ้นท์หิ้ว พอดแคสต์ ส่งเข้านอนมา 1 ม้วนค่าาาา ᕕʕ •ₒ• ʔ୨
-----
*สำหรับผู้ฟังใน BLOCKDIT มิ้นท์อัพเป็น PODCAST ไว้ให้เรียบร้อยนะคะ*
**สำหรับผู้ฟังผ่าน YOUTUBE สามารถฟังจากลิงค์นี้ได้ค่ะ**
-----
สำหรับวันนี้จะเป็นเนื้อหาหนังสือจาก PLEASED TO MEET ME บทที่ 5
MEET YOUR MOOD นะคะ
เริ่มต้นด้วยคำถาม
คุณคิดว่าคุณเป็นคนมีอารมณ์แบบไหนคะ?
-----
วันนี้เราอยากชวนคุณ มาใช้เวลาด้วยกันก่อนจะเข้านอน
ขอแนะนำว่า ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการใช้เวลาด้วยกันในพอดแคสต์นี้ คือตอนที่คุณทำภารกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว และ มีเวลาก่อนจะเข้านอน สัก 30-60 นาทีด้วยกันวันนี้
เพราะเรา ออกแบบพอดแคสต์นี้มาเพื่อทำการเยียวยาความคิดและทำความรู้จักอารมณ์ของคุณโดยเฉพาะก่อนที่คุณจะเข้านอน
เราอาจจะต้องทำการรื้อค้นจิตใจตัวเองกันสักหน่อย
และทิ้งบางอย่างไปด้วยกัน
ก่อนจะเข้านอนในคืนนี้
เพื่อที่จะมีเช้าวันใหม่ที่สดใส
และเบาสบาย
แต่ขอออกตัวก่อนเลยว่า
เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านอารมณ์หรือจิตใจ
เราเป็นคนธรรมดาเหมือนกันกับทุกคน ในที่นี้
ที่เผชิญกับปัญหาทางอารมณ์และจิตใจเช่นเดียวกัน
ดังนั้น
การทำพอดแคสต์ในครั้งนี้
เป็นการตัดสินใจ มาใช้เวลาด้วยกัน ก่อนจะเข้านอน
เพื่อที่เราจะได้รู้จักอารมณ์ของตัวเองและจะได้รับมือกับอารมณ์ของตัวเองได้มากขึ้น
เนื้อหาในวันนี้
โดยปกติแล้ว วิธีการที่จะอ่านหนังสือเพื่อให้ทำงานกับตัวเองได้ดีที่สุด เรายังคงเสนอให้ทุกคน ใช้วิธีการเขียนถึงประเด็นที่ทำงานกับจิตใจเราเอาไว้ด้วยนะคะ
เรามาเริ่มที่ การทำความรู้จักอารมณ์ของตัวเองกันก่อน อารมณ์ของคนเราเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา เป็นหลักฐานที่ช่วยบ่งบอกว่า เรามีชีวิตและจิตใจ อย่างเช่น อารมณ์เหงา เบื่อ เศร้า สนุก ตื่นเต้น โกรธ หงุดหงิด สงบ มีความสุข
แต่อารมณ์ที่ทำงานผิดปกติ ก็จะส่งผลกระทบต่อชีวิต อย่างที่เราๆ รู้กัน หากเราเศร้ามากผิดปกติ เป็นเวลานานก็อาจจะทำให้เป็นโรคซึมเศร้า มีผู้คนมากมายที่เผชิญกับภาวะไม่สบายเช่นนี้ ซึ่งเนื้อหาต่อๆไป เราจะมาพูดเรื่องนี้กันด้วย
หรือแม้แต่คนที่มีความสนุก ความสุขมากเกินไป จนควบคุมไม่ได้ ก็จะส่งผลให้ คนนั้นเป็นโรคจิตเภท โรคสมาธิสั้น
บางคนมีอารมณ์สองขั้วสลับกัน ก็อาจจะเป็นไบโพล่า
แต่ฟังมาถึงตอนนี้ อย่าพึ่งด่วนตัดสินตัวเอง หรือ ตัดสินคนอื่น ว่าอาจจะป่วย
สิ่งต่อมา ที่เราได้ยินกันบ่อยขึ้นและกว้างขึ้นคือ อาการซึมเศร้า ความเศร้า ไม่ใช่ความผิดปกติ เราสามารถมีอารมณ์นี้ได้ เมื่อเราสูญเสีย เจ็บปวด เราสามารถร้องไห้ได้ค่ะ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ ความเศร้านี้อยู่กับเรานานเกินไป จนเริ่มส่งผลต่อชีวิตประจำวัน เมื่อนั้น เราอาจจะต้องทำอะไรบางอย่างกับอารมณ์นั้น
หนังสือเล่าว่า ความซึมเศร้านี้ เป็นสิ่งที่สามารถส่งต่อผ่านทางพันธุกรรมได้ และ สภาพแวดล้อมหรือคุณภาพชีวิต การเติบโตเอง ก็ส่งผลได้ด้วยเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น เด็กที่เติบโตจากครอบครัวที่ยากจน ถูกคุกคาม เศรษฐกิจครอบครัวไม่ดี มีการใช้ความรุนแรง หรือ ประสบเหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่ๆ ก็อาจจะ ส่งผลให้พวกเขา มีภาวะผิดปกติทางอารมณ์ได้เช่นกัน … คนกลุ่มนี้หรือบางทีอาจจะรวมถึงตัวพวกเราเอง ก็อาจจะเข้าข่ายก็ได้ โดยที่เราไม่รู้ตัว และความรุนแรงของแต่ละคนก็อาจจะไม่เท่ากัน
การที่เราพูดแบบนี้ มันหมายความว่า เราหรือคนรอบตัวเรา มีโอกาสที่จะเป็นผู้มีความผิดปกติทางอารมณ์เนื่องจากสาเหตุของบาดแผลเล็กๆน้อยๆ ไปจนถึงใหญ่โตในวัยเด็ก ก็ได้ — บางคนอาจจะมีสามารถใช้ชีวิตโดยปกติ มาตลอด เป็นสิบปี ยี่สิบปี แล้วถึงจะแสดงอาการ เพราะมีสิ่งที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์นั้น เข้ามากระตุ้นก็เป็นได้
ซึ่งในปัจจุบัน การยอมรับเรื่องความบาดเจ็บทางใจ ได้รับการสนใจ มองเห็น และ ยอมรับกันมากขึ้น กว้างขึ้น การไปพบผู้ให้คำปรึกษาหรือคอนซัลเล่อ เพื่อทำการปรับทิศทางความคิด ก็มีทางเลือกที่มากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นขั้นต้นของการบำบัด รักษาโดยที่เรา ไม่จำเป็นต้องกระโจนเข้าใส่จิตแพทย์ก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อขอรับยา บางคนที่รับยาแล้ว ก็อาจจะเข้ารับเข้ากระบวนการ Therapy หรือการบำบัด โดยนักบำบัดหรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อเยียวยาความเจ็บปวด
ทีนี้ลองสำรวจตัวเองกันดูนะคะ ว่าเรา ต้องการคนช่วยเพื่อซัพพอตจิตใจและอารมณ์ของเรามากแค่ไหน บางคนอาจจะไม่ได้ต้องการผู้เชี่ยวชาญแต่อาจจะต้องการคนรับฟังเท่านั้นเองก็เป็นได้
อีกสาเหตุของอารมณ์แห่งความเศร้า คือความเศร้าตามฤดูกาล เช่นวันที่ฝนตก ฤดูหนาวกว่าปกติ … งืมมม แต่ถ้าเป็นเมืองไทย อาจจะหงุดหงิดตามฤดูกาลร้อนเสียมากกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม ความเศร้า เป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นแล้วหายไปได้ เหมือนกับอารมณ์แบบอื่นๆ เพียงแต่ ถ้าเมื่อไหร่ที่มีมากเกินไป ก็จะส่งผลต่อตัวเรา ทั้งในแง่ เคมีในสมอง ลำไส้และระบบย่อยอาหาร ความเครียด หัวใจ และด้านอื่นๆ การอยู่ในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งนานเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียได้ทั้งนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเรียนรู้จากอดีต แล้วรีบเดินข้ามไป มีสติกับปัจจุบัน มุ่งไปที่อนาคต ก็จะสร้างผลดีให้กับตัวเราเองที่สุดค่ะ
-----
ความสุขที่แท้จริงคืออะไร?
ความสุขสำหรับเราคืออะไร? บางคนบอกว่า ความสุขคือเงินทอง ความสุขคือการได้ไปเที่ยว ความสุขคือการเป็นที่รัก … ผู้คนมักจะบอกว่า ความสุข ก็เหมือนความทุกข์ เข้ามาแล้วจากไป ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้ว แบบนั้น เราเรียกความสุขไหม ความสุขของพวกเรา หน้าตาเหมือนกันหรือเปล่า
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวว่า อย่าพยายามที่จะประสบความสำเร็จ แต่จงพยายามทำตนให้มีค่า … การมีชีวิต ที่มีค่า คือการช่วยเหลือผู้อื่น เป็นประโยคกับคนอื่น ย้ายศูนย์กลางจากตัวเองไปที่คนอื่น … การช่วยเหลือ คนอื่น ไม่ได้เป็นเพียงหน้าที่ของมนุษย์เราเท่านั้น แต่ เป็นกุญแจแห่งความสุขด้วยค่ะ
การตื่นรู้ บางคนอาจจะรู้สึกว่า การหลบหลีกหรือเก็บอารมณ์ตัวเองเอาไว้ให้มิด อาจจะง่ายกว่า
แต่ให้เราลองนึกถึงภาพถังน้ำสักใบ เราใส่น้ำลงไปอาจจะแค่ครึ่งถัง จากนั้นก็แทนขวดเปล่าด้วยอารมณ์ต่างๆ
เราค่อยๆ ใส่ขวดลงไป ใส่ลงไป ลงไป และลงไป ถ้าเพียง 1 ใบ อาจจะไม่เป็นอะไร แต่ถ้าหากว่ามันมากขึ้นๆก็จะทะลักออกมาได้ ทั้งขวดทั้งน้ำ
เพราะฉะนั้น ถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่า ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของเราต่ำ อาจจะต้องมาสำรวจตัวเองว่า เรามีเรื่องอะไร หรืออารมณ์ไหนที่ยังไม่ได้จัดการหรือเปล่า
เพื่อที่อารมณ์ของเราจะไม่ทำร้ายตัวเราเอง หรือ ไปกระทบกระทั่งคนรอบๆข้างนะคะ
สำหรับวันนี้ เราคงจบเรื่องอารมณ์ไว้คร่าวๆเพียงเท่านี้ ถ้าใครอยากจะให้เรามาเล่าขยายความเรื่องอารมณ์ต่อ ก็บอกกันได้เลยนะคะ เราจะไปหาหนังสือหรือบทความดีๆ มาฝากกันอีก เพื่อให้ตัวเราเองรู้จักสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา และ เข้าใจคนรอบข้างได้มากขึ้นนะคะ
สุดท้ายจริงๆแล้ว ขอปิดท้ายด้วยการขอบคุณสำหรับการใช้เวลาร่วมกันในวันนี้ ขอให้ทุกคนนอนหลับด้วยความสบายกาย สบายใจ สบายอารมณ์ ตื่นมาด้วยใจที่ไม่หนักหน่วง หากใครที่เจอเรื่องยากๆ ก็ขอให้ผ่านไปได้
:)
mint panpanmeme journal & journey
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in