สัมภาษณ์นี้คือช่วงหลังเคย์ตะกลับมาถ่ายละครเรื่อง GUILTY หลังหมดช่วงล็อกดาวน์ของญี่ปุ่น
หนึ่งในสองคนจากกว่า 2,000 ที่เข้าร่วม Gekkidan EXILE Auditon ครั้งที่ 3 ที่จัดขึ้นในปี 2010 คือเขา มาจิดะ เคย์ตะ หลังจากเดบิวต์แล้วปี 2014 เขาได้แสดงละครยาวของ NHK เรื่อง 'Hanako to Anne' ในบท มารุโอกะ อิคุยะ จนเป็นที่น่าจับตามอง หลังจากนั้นก็แสดงในละครอิงประวัติศาสตร์เรื่อง 'Segodon' และ 'Chuugakusei Nikki' ของช่อง TBS เก็บสะสมประสบการณ์การแสดงและคราวนี้เขาได้รับบทบาทเป็นรักครั้งแรกของตัวละครเอกในเรื่อง 'Guilty: Kono Koi wa Tsumi Desuka'
การถ่ายทำต้องหยุดพักไประยะหนึ่งเนื่องจากการแพร่ระบาดของโคโรน่า (โควิท19) และเพิ่งเริ่มกลับมาถ่ายทำได้ใหม่เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา การถ่ายทำในกองถ่ายเป็นไปท่ามกลางมาตรการป้องกันต่างๆ
"ทีมงานทุกคนใส่หน้ากากกันแน่นอนอยู่แล้วครับ ส่วนของนักแสดงเองก็ใส่เฟสชิลด์กันตลอดจนถึงตอนซ้อมแล้วถอดแค่ตอนถ่ายจริงเท่านั้น"
แม้จะต้องสับสนกับสภาวะการทำงานที่ไม่คุ้นชิน แต่ท่าทางเขาดีใจที่ได้กลับมาถ่ายทำอีกครั้ง
ช่วงทีี่การถ่ายทำหยุดและต้องกักตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใช้ชีวิตอยู่บ้านยังไงบ้าง?
"ทำอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ถ้าเข้ากองก็มีข้าวกล่องกองถ่ายให้ กลับมาถึงบ้านก็ไม่ค่อยมีเวลาทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว แต่ช่วงกักตัวอยู่บ้านทั้งวันเลยลองทำอาหารที่ต้องใช้เวลาอย่างพวกอาหารตุ๋นดู มีสูตรอาหารที่ต้องเตรียมไปคิดไปด้วย เสพย์ติดความสำเร็จหลังทำอาหารเสร็จเลยล่ะครับ"
เขาบอกว่าเมนูที่มั่นใจมากคือ Beef Stroganoff
"ผมทำ Beef Stroganoff ที่ต้องใช้เวลาตุ๋นอยู่นานมากๆ ได้เก่งขึ้นครับ แล้วก็นั่งดูละครเกาหลีที่ยังไม่ได้ดูรวดเดียวจบ แต่มันมีฉากกินข้าวเยอะ แล้วทุกคนก็กินอย่างเอร็ดอร่อยด้วย ละครญี่ปุ่นตอนถ่ายทำมักจะถูกเตือนให้กินไม่ให้เห็นของในปาก แต่นักแสดงเกาหลีหลายคนนี่เขากินกันเต็มที่มาก เผลอมองของกินตลอด ผมอยากกิน Yangnyeomjang ขึ้นมามากๆ เลยลองทำดูล่ะครับ อันนี้ก็ออกมาอร่อยอีกเหมือนกัน ผมว่าช่วงกักตัวนี่ทำให้ฝีมือการทำอาหารดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย"
และตอนนี้มาจิดะก็กำลังหมกมุ่นกับชีสเค้กมาก
"ตั้งแต่ช่วงก่อนกักตัวผมหมกมุ่นกับการไปกินชีสเค้กที่โน่นที่นี่มากเลย แต่หลังจากนั้นก็เจาะจงหาร้านที่เอามาส่งให้ได้แล้วไล่กินวนไป ผมชอบมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว แต่ตั้งแต่ได้กินบาสก์ชีสเค้กที่ละลายในปากนี่เหมือนเครื่องติด ตามหาชีสเค้กหลายๆ ประเภทกินตลอดเลยครับ"
แต่การทำชีสเค้กเองค่อนข้างยาก เขาจึงลองทำอาหารอย่างอื่นที่ใช้ชีสดูที่บ้าน ปรากฏว่าออกมาพลาด
"ผมเจอชีสมอสซาเรลล่าน่าอร่อยแล้วซื้อมาครับแต่ทำชีสเค้กก็คงจะยาก เลยตัดสินใจลองทำพิซซ่าดู แต่ปรากฏว่ามีน้ำออกมาจากชีสมากเกินทำให้แป้งแฉะหมด ถึงอย่างนั้นก็อร่อยพอสมควร เผลอพลาดแบบนี้ก็มีบ้าง"
บ้านเกิดของมาจิดะคือฮิงาชิอากะสึมะ จังหวัดกุนมะ "ที่บ้านมีที่ที่เหมือนสถานที่ตั้งแคมป์ครับ" เขาหัวเราะ ฮิงาชิอากะสึมะตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดกุนมะ ล้อมรอบด้วยภูเขาอิวาบิสึยามะ และภูเขาอะซามากาคุชิยามะ เป็นพื้นที่อันอุดมไปด้วยธรรมชาติ มาจิดะเติบโตที่นี่จนเรียนจบม.ต้น
"หลังจากเรียนจบม.ต้นผมก็ออกมาเรียนต่อม.ปลายนอกจังหวัด ถือว่าใช้ครึ่งหนึ่งของชีวิตอยู่นอกบ้านเกิดน่ะครับ มันเป็นชนบทที่ไม่มีแม้แต่ไฟริมทาง แต่สำหรับผมแล้วการได้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติรู้สึกผ่อนคลายกว่าอยู่ในป่าคอนกรีตครับ ผมยังอยากไปตั้งแคมป์หรือทำกิจกรรมเอาท์ดอร์อยู่ตลอด ผมว่าผมโชคดีครับที่มีบ้านเกิดที่มีสภาพแวดล้อมอย่างนั้นให้กลับไปได้"
แม้ตอนนี้ยังเดินทางกลับบ้านเกิดหรือไปเที่ยวไม่ได้ แต่สักวันเขาก็อยากลองตกปลาและล่องแก่งดู
"ผมเป็นคนที่โตมากับการวิ่งเล่นในภูเขาน่ะครับ เลยอยากลองตกปลาที่แม่น้ำแล้วเอาปลาที่ตกได้มาทำอาหาร พายแคนูและล่องแก่งดูบ้าง ปีนเขาก็ดีนะ อ๋อ แล้วผมชอบจุดกองไฟมากเลย เคยชวนเพื่อนกับเมมเบอร์ในค่ายไปแต่ตารางเวลาไม่ตรงกันเลยยังไม่ได้ทำให้เป็นจริงสักที รุ่นน้อง ซาโต้ คันตะ ก็ชอบไปแคมป์เหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไปไม่ได้ เห็นบอกว่าเอาถุงนอนออกมานอนอยู่ในบ้านนั่นล่ะครับ แต่ความรู้สึกแบบเขาผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นะ(หัวเราะ)"
และเขายังบอกอีกว่าตัวเองเป็นคนประเภทที่ถ้าเกิดหมกมุ่นเรื่องการไปแคมป์ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็จะซื้ออุปกรณ์ไปแคมป์มาเตรียมไว้เยอะๆ
"ว่ากันว่าถ้าคนรอบข้างชอบเหมือนกัน ก็ยิ่งอยากได้อุปกรณ์ให้พร้อมมากขึ้นไปอีกน่ะครับ แล้วเราก็จะไม่บอกว่าเบื่อด้วย อยากลองไปแคมป์จริงๆ จังๆ ดูสักทีครับ"
ต่อมาเราถามถึงแฟชั่นฤดูร้อนของมาจิดะ เขาก็บอกเราว่ามีไอเท็มหนึ่งที่เขาต้องซื้อทุกปี
"ผมต้องซื้อเสื้อยืดสีขาวทุกปีครับ เวลาสอดแขนเข้าไปตามแขนเสื้อของเสื้อยืดสีขาวตัวใหม่มันสดชื่นสุดๆ เลยไม่ใช่เหรอ? จะเป็นเสื้อแบบอื่นก็ให้ความรู้สึกคล้ายๆ กัน แต่เสื้อยืดสีขาวมันพิเศษ เสื้อยืดสีขาวที่ไม่มีโลโก้อะไรดีที่สุดนะ ผมแนะนำให้ซื้อเสื้อยืดสีขาวของแบรนด์ดังเจ้าที่เป็นเสื้อยืดคุณภาพดีที่เขาผลิตขายเป็นโหลจะคุ้มค่าดีครับ สีมันซีดเร็วและเปื้อนง่ายเลยซื้อใหม่ทุกปี ได้สัมผัสความรู้สึกสดชื่นแบบนั้นคงเป็นตัวเลือกเฉพาะหน้าร้อนของผมครับ"
ซื้อใส่เสื้อยืดตัวในที่ค่อนข้างพังง่ายมาเปลี่ยนบ่อยๆ แล้วใส่กับเสื้อตัวนอกที่ชอบใส่มานาน ในตู้เสื้อผ้ามีแค่ไอเท็มเหล่านี้เท่านั้น
"นอกนั้นก็ไซส์ที่ชอบครับ ผมเป็นคนไหล่ตั้งกระดูกใหญ่ซึ่งเป็นรูปร่างที่ค่อนข้างต่างกับคนอื่น ถ้าเป็นอะไรที่เข้ากับความกว้างของไหล่ก็จะใหญ่เกินตัวไป พอได้เจอเสื้อผ้าที่เข้ากับรูปร่างของตัวเองได้พอดีจะรู้สึกดีมากเลย ผมไม่ใช้แบรนด์อะไรเป็นพิเศษ ชอบอะไรที่หลากหลาย ส่วนใหญ่แล้วเลยไปซื้อเอาตามร้าน Select Shop (ร้านที่เอาหลายๆแบรนด์มารวมกัน) ตอนเด็กชอบแฟชั่นที่เห็นจากในหนัง อย่างเสื้อผ้าที่ แบรต พิตต์ ใส่ในหนังเรื่อง Fight Club แต่เดี๋ยวนี้ให้ความสำคัญกับอะไรที่ใส่สบายครับ อาจจะเริ่มรู้จักความชอบของตัวเองมากขึ้นก็ได้"
ดูเหมือนว่ายิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่ง ความเป็นตัวของตัวเองก็ชัดเจนขึ้น
ตอนนี้มาจิดะกำลังถ่ายทำละครเรื่อง 'Guilty: Kono Koi wa Tsumi Desuka' (NTV) อยู่ เขารับบทเป็น อากิยามะ เคอิจิ เชฟเจ้าของร้านอาหารอิตาเลี่ยน คนรักเก่าสมัยเรียนของนางเอก ทั้งสองคนต้องแยกจากกันทั้งๆ ที่ยังมีเยื่อใยกันอยู่ และกลับมาเจอกันอีกครั้งตอนที่ต่างคนต่างมีคู่ชีวิตแล้ว ทำให้ทุกอย่างซับซ้อนยุ่งเหยิง ความรักที่อยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของทั้งสองคนน่าจะเป็นที่สนใจของผู้ชมผู้ชายด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ทุกๆ ตอนยังค่อยๆ เปิดเผยบางเรื่องที่ยากจะคาดเดาออกมาอีกด้วย
"ผมว่าดูไปเดาไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปคงสนุกมากขึ้นครั้บ ตอนนี้(ช่วงที่สัมภาษณ์)มาถึงตอนที่รู้แล้วว่าที่จริงแล้วอากิยามะไม่ได้หักหลัง แต่เรื่องราวหลังจากนี้จะพลิกใหญ่มาก อยากให้ทุกคนติดตามดูไปจนถึงตอนจบครับ"
เขาเล่าให้ฟังโดยพยายามไม่สปอยด์ นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่อง 'Kimi no Me ga Toikaketeiru' (Your Eyes Tell) นำแสดงโดย โยโกฮามะ ริวเซย์ และ โยชิทากะ ยูริโกะ มาจิดะรับบทเป็นหัวหน้าแก๊งอันธพาลที่เข้าใกล้ตัวละครหลักทั้งสองเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ซึ่งเป็นบทบาทที่ตรงกันข้ามกับใน Guilty อย่างชัดเจน
"ตั้งแต่อยู่ค่ายนี้มาก็ได้รับบทเป็นนักเลงเป็นยากุซ่าเยอะน่ะครับ ตอนนั้นก็มองไม่เห็นจุดเชื่อมกับตัวเองและแสดงไปกังวลไป แต่ตอนนี้พอได้ลองรับบทแบบนี้อีกก็รู้สึกว่าได้ใช้ประสบการณ์จากเมื่อก่อนล่ะครับ ถ้าแสดงบทร้ายออกมากตามแบบของตัวเองได้ก็คงดีครับ"
ร่วมงานกับ โยโกฮามะ ริวเซย์ เป็นครั้งที่สองแล้ว ในเรื่องนี้ฉากต่อสู้เต็มที่จริงๆ
"ผมว่าเป็นจุดน่าดูของหนังเรื่องนี้เลยนะครับ ผมได้ดูฉากที่ริวเซย์คุงในบทรุยต่อมวยใต้ดินอยู่บนเวทีตรงหน้า เขาเตรียมร่างกายมาจริง ผมได้ยินว่าซ้อมซีนแอคชั่นยาวมากติดต่อกันมาหลายวัน ออกมาเป็นแอคชั่นที่มีแต่ริวเซย์คุงที่ทำได้จริงๆ ผมรู้สึกชื่นชมมากครับเพราะมันสมจริงและมีพลัง สุดยอดเลย"
เมื่อถามเขาว่าหลังจากนี้มีบทบาทอะไรที่อยากลองท้าทายดูไหม เขาเงียบไปสักพักก่อนตอบ
"ที่ตอบอยู่ตลอดคือ Sci-Fi กับย้อนยุคครับ อยากลองซีนบู๊บนหลังม้าดูน่ะครับ แล้วก็อายุมากขึ้นแล้วเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวก็ดีนะ หรือบทคนสองบุคลิกที่รูปลักษณ์ภายนอกต่างจากภายใน ลองคิดๆ ดูแล้วผมอาจมีบทบาทที่อยากลองแสดงเยอะมากเลยครับ"
เชฟอาหารอิตาเลี่ยนที่สนับสนุนคนรักเก่าและหัวหน้าแก๊งอันธพาลที่พยายามดึงเพื่อนกลับเข้ามาในธุรกิจสีดำ ตั้งแต่ฤดูร้อนไปถึงใบไม้ร่วง เราคงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ในสองบุคลิกของนักแสดงคนนี้ มาจิดะ เคย์ตะ
-------------------------------------------------------------------
Original Link:
https://gooda.brangista.com/book/202007/*มีการตัดย่อส่วนบรรยายของผู้เขียนออกเล็กน้อย
แปล&เรียบเรียง(ญี่ปุ่น-ไทย)โดย:
@meengeywalin*เราแปลสัมภาษณ์คนที่เราชอบจากใจ, เวลา และความสามารถที่เรามีอย่างเต็มที่
รบกวนไม่นำเนื้อหาที่แปลไปใช้หรือเผยแพร่ต่อโดยไม่ให้เครดิตหรือไม่ได้รับอนุญาตนะคะ
-------------------------------------------------------------------
Translator's Note
ใช่ค่ะ ยังอยู่กับเชอรี่เมจิค และยังอยู่กับเคย์ตะ ?
มีรูปอีกเยอะใน Link กดดูกันนะ?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in