เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกการเรียนภาษาญี่ปุ่นนอกตำราhidden1hand
บันทึกการเรียนภาษาญี่ปุ่นนอกตำรา #4
  • สวัสดีครับ 

    ผมยำนาเบะ ผู้ชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยรัฐบาลธรรมดา ๆ ที่หาได้ทั่วไป

    วันนี้ผมจะมานำในหัวข้อที่ค่อนข้างไกลตัวแต่เป็นพาร์ทต่อจากบทความอันก่อนครับ

    เดากันได้ไหมครับว่าเป็นหัวข้ออะไร

    หัวข้อนั้นก็คือ...

    .

    ..

    ...

    .....

    .......

    .........


    ------------


    การสมัครงานของคนญี่ปุ่น (พาร์ท 2) นั่นเอง

    //แรงจูงใจคือผมแค่อยากรู้เฉย ๆ (ฮา)

    และก็เผื่อว่าจะมีท่านไหนอยากรู้เหมือมที่ผมอยากเลยว่าจะนำมาเล่าต่อสู่กันฟังครับ


    เอาล่ะครับ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

    ในวันนี้ผมจะเจาะประเด็นไปที่ระบบการจ้างงานของประเทศญี่ปุ่​นครับ


    อันนี้ต้องขอท้าวความตั้งแต่ชีวิตมหาลัยของคนญี่ปุ่น​กันก่อนครับ 

    โดยพื้นฐานแล้วคนญี่ปุ่น​จะเริ่มฝึกงานกันตอนปี 3 เหมือนมหาวิทยาลัยในประเทศไทยหลาย ๆ แห่งครับ

    พอช่วงปลายปี 2 ทุกคนก็จะเริ่มหาที่ฝึกงานเป็นของตัวเอง พอขึ้นปี 3 ก็ฝึกงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์​กันครับ แล้วปี4 (ประมาณช่วงเดือนมิถุนา​ยน) ทุกคนก็จะเริ่มสมัครงานกันแล้วทีนี้ก็จะได้ทำสัญญาเริ่มงานกันช่วงเดือนเมษายน

    *อันนี้เกร็ดความรู้​เล็กน้อยนะครับ ปกติแล้วบริษัทต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น​จะรับพนักงานใหม่เข้ามาทำงานในเดือนเมษายนเท่านั้นไม่เหมือนกับของประเทศเราที่จะรับพนักงานใหม่เมื่อบริษัทเปิดรับ


    ------------------

    ฟังดูเป็นระบบที่ดูรัดกุมดีไหมครับ

    ตอนแรกผมก็คิดว่า เออทุกอย่างมันดูมีระเบียบดีนะ คงไม่มีปัญหาอะไร

    แต่พอผมได้ลองค้นข้อมูลเกี่ยวกับระบบนี้ พบว่ามีปัญหากองเป็นภูเขาเลย


    อันดับแรก คุณต้องเริ่มหาที่ฝึกงานกันตั้งแต่ช่วงปี 2 

    โห ตอนผมอยู่ปี 2 ผมยังไม่ค่อยประสีประสาอะไรเท่าไรเลย

    อยู่วัยที่กำลังปรับตัวเข้ากับสังคมผู้ใหญ่ เริ่มใช้ชีวิตคนเดียว นี่ผมต้องเริ่มหาที่ฝึกงานแล้วเหรอ

    เนี่ย 

    อันนี้ยังไม่เท่าไรครับ

    ปัญหาที่ 2 ก็คือ ตอนช่วงปี 4 คุณอาจจะต้องไปสัมภาษณ์​งาน ไปติดต่อบริษัทหลาย ๆ แห่ง แล้วคุณต้องหยุดเรียน

    แน่นอนครับว่าหยุดเรียนในช่วงปี 4 มันอาจจะฟังดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ

    แต่อย่าลืมครับว่าการเรียนมหาวิทยาลัยจะมีสิ่งที่เรียกว่า 卒論 อยู่นะ !!

    นั่นแหละครับปัญหา

    (ถ้าเป็นในไทย บางที่จะไม่ต้องทำ ไม่ก็บางที่จะทำเป็นหน่วยกิตมากน้อยเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับที่)

    คือ 卒論 ที่ญี่ปุ่นเนี่ยค่อนข้างจะทำกันแบบจริงจังมากเลยนะครับ มีการวางแผนหัวข้อกันอย่างดีแถมต้องนัดคุยกับอาจารย์อยู่เรื่อย ๆ ด้วย (โดยมากจะเป็นการนำเสนอความคืบหน้า อาทิตย์ไหนไม่คืบหน้าก็จะเขิน ๆ หน่อย //ฮา)

    ซึ่งการที่ต้องนัดคุยกับอาจารย์ตรงนี้แหละครับที่สำคัญมาก ถ้าคุณไม่ได้คุยกับอาจารย์วันนั้นบางทีงานอาจจะไม่คืบหน้า จะขอเลื่อนเวลานัดก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหมเพราะอาจารย์ก็คือมนุษย์คนหนึ่งในวัยทำงาน บางทีเขาอาจจะไม่ได้มีเวลาขนาดนั้นก็ได้ และในกรณีเลวร้ายที่สุดนั่นก็คือส่ง 卒論 ไม่ทัน


    เพราะฉะนั้นมันเลยมีไอเดียนึงผุดขึ้นมา

    นั่นก็คือ ทำไมเราไม่เริ่มฝึกงานกันตอนปี 2 ล่ะ? เราจะได้สัมภาษณ์งานตอนปี 3 

    พอขึ้นปี 4 ก็ทำ 卒論 ยาว ๆ ไปเลย

    ไอ้ไอเดียนี้เนี่ย ตอนแรก ๆ ก็ไม่ค่อยมีใครทำหรอกครับ แต่ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้จะมีคนที่ใช้ไอเดียนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

    อาจจะเป็นเพราะเขามองว่าถึงจะหาที่ฝึกงานพลาดตอนปี 2 ตอนขึ้นปี 3 ก็ยังมีโอกาสอยู่ อะไรประมาณนี้รึเปล่านะ (?) เพราะถ้าจะหาบริษัทที่เขาจะทำสัญญาจ้างงานหลังเรียนจบ การหาที่ฝึกงานไว้แต่เนิ่น ๆ ย่อมส่งผลดีกว่าอยู่แล้ว

    แน่นอนครับ พอเริ่มมีคนใช้ไอเดียนี้มันก็เริ่มส่งอิทธิต่อคนรอบข้าง

    สำหรับบางคน เขารับอิทธิพลของแนวคิดนี้จนเริ่มกดดันตัวเองเกินควร
    (ให้นึกภาพว่ามีคนในห้องตัวเองมีสัญญาจ้างงานแล้วในขณะที่ตัวเองยังไม่มีแพลนในอนาคตที่ชัดเจน)


    คงจะกดดันน่าดูเลยนะครับ


    พอเริ่มมีแรงกดดันแบบนั้นเกิดขึ้นในสังคม ทุกคนก็เลยทยอยทำตาม ๆ กันเสมือนว่าเป็นกระแสสังคมไปแล้ว

    ทำให้เกิดปัญหาอีกว่าเด็กมหาลัยปี 1 ปี 2 รับแรงกดดันหาที่ฝึกงานมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา

    (แหงแหละ ปี 1 ปี 2 คือเพิ่งเรียนจบม.ปลายมาเองนะ!)


    —------------------------------------------


    อ้าวแล้วพี่ท้าวความมายาวขนาดนี้มันเกี่ยวอะไรกับการสมัครงานของคนญี่ปุ่นละครับ?


    —-----------------------------------------


    แฮ่ เรื่องนั้นขออนุญาตอุบไว้ก่อนนะ (ฮา)


    คือผมเนี่ย ตั้งใจไว้ว่าในทุกบทความที่เขียนมา ผมจะไม่เขียนให้ยาวจนทุกคนเบื่อ 

    เพราะฉะนั้นแล้วผมเลยว่าจะพักครั้งแรกไว้ ณ ที่นี้ครับ


    อนึ่ง บทความครึ่งหลังผมตั้งเป้าไว้ว่าจะเขียนให้เสร็จภายในอาทิตย์หน้าครับ ไม่ต้องกังวลไป

    ระหว่างที่ทุกคนกำลังรอ (หรือไม่รอนะ 55) ลองคิดดูเล่น ๆ ก็ได้ครับว่าทำไมผมถึงพูดเรื่องการฝึกงาน หรือการหาสัญญาจ้างงานตั้งแต่ช่วงมหาลัยกันนะ ใบ้ให้ว่าคราวหน้าจะพูดเกี่ยวกับปัญหาของระบบการจ้างงานของประเทศญี่ปุ่นครับ


    -------------------------------------------

    ถ้าอย่างนั้นแล้ว 

    ไว้พบกันใหม่นะครับ


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
縁ไก่ทอด  (@happyenkaitod)
หาที่ฝึกงานเร็วมากกกก ตอนเค้าหาที่ฝึกงานเราเพิ่งเข้าเอกเอง😂
k.l.k (@k.l.k)
ระบบการจ้าง (สมัคร) งาน ญี่ปุ่นเด่นและแปลกกว่าปท.อื่นจริงๆ