ขอตั้งชื่อบล็อกนี้ว่า 'คนสู้ชีวิต ณ เซ้าท์ดาโกต้า 2018'
EP.00
จอห์นคะกว่าคุณจะได้อ่านจดหมายฉบับนี้ฉันก็คงจะอยู่นิวยอร์กแล้ว อีกครั้งและสินะที่ฉันต้องโยกย้าย อยากลองพูดแบบนี้มานานแล้วจ้า ทุกคนคงคิดว่ามึงเป็นอะไรมากป่ะ *ทำเสียงแบบพี่หมาก ปริญ*
เฮ่ลโหลล จริงๆก็ไม่มีอะไรสำคัญหรอกจะมาบอกว่าทุกคนเรากลับมาแล้วนะ (พูดเหมือนไม่ได้เขียนนาน) บล็อกนี้เป็นบล็อกที่ 2 ของเรานั่นเองงงงง อิ้อิ้ ขอนำเสนอกับตอนที่มีชื่อว่า
'คนสู้ชีวิต ณ เซ้าท์ดาโกต้า' และเช่นเดิม work and travel อะเกนนนนน และก็เช่นเดิมอีกเหมือนกัน
American Learning เจ้าเก่าเจ้าเดิมอะเกน แต่ปีนี้ขอหักคะแนนพี่เอเจนท์น้องให้ 7.5/10 อ่านต่อด้านล่างเลยว่าทำไม ฮ่าๆ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าจะมาเล่าให้ซิสและโบรวทั้งหลายฟัง คือเรื่องมันเกิดจากตอนนั้นประมาณตุลาคมช่วงสอบมิดเทอมมหาลัยเว้ยแกรรรรร นั่งอ่านหนังสืออยู่กับเพื่อน อยู่ๆเกิดคำถามขึ้นมาในชีวิตอีกแล้วจ้า
จบไปทำไรดีอ่ะมึง เรียนต่อดีป่ะวะ หรือทำงานดี โอ้โห! กุมขมับเลยอิเวงงงงจะเป็นผู้ใหญ่ทำไมมันยากจัง
งอแงวอแวกับชีวิตตัวเองเหลือเกินช่วยน้องด้วยจ้า น้องก็เลยกดโทรศัพท์ไปวอแวกับแม่บอกแม่ว่า 'แม่ๆขอไปเมกาอีกรอบนะ' จุดเริ่มต้นที่แท้ทรู คือตอนนั้นถ้าแม่ไม่ให้ไปก็คงไม่ไปและจะไม่มีการเซ้าซี้ให้ท่านแม่รำคาญใจต่อแต่อย่างใดแต่คือคุณแม่บอกอืม ตามใจเลยแต่คิดดีๆแล้วกันนะ (เสียงแบบปลงๆเอือมๆอ่ะ แบบนั้นเลย...) 555555555 ในที่สุดสามารถจบดีลภายใน 5 นาทีปิดการขายกันไปอย่างสวยงามกันไปเลยคุณพี่! สรุปคือแม่ก็ให้มาอีกรอบนะจ้ะก็ว่ามั่ยดั้ยยยยย ขอบคุณอีกครั้งนะมามี้โพะโกะ รักแหละ จุ้บๆ ทุกๆ อย่างเหมือนจะดีราบรื่นอะไรๆก็ดูง่ายใช่ไหมหล่ะ? ก็คิดว่างั้นเหมือนกันแหละ จนกระทั่งสมัครงานแรกที่เล็งไว้ตอนสมัครเข้าร่วมโครงการ งานนี้เป็นงานที่แกรนแคนยอนเพราะว่างานนี้มีคนมารีวิวว่าดีมากกกกก ด้วยความที่หิวเงินเป็นทาสเงินก็เล็งว่าฉันต้องได้ทำงานนี้ให้ได้เว้ยมั่นอะไรขนาดนี้ฮะ! ตอนประมาณเดือนมกราคมก็รอ ร๊อ รอ ทำไมไม่ประกาศวันสัมภาษณ์สักทีน้าาาาา... กุมภาพันธ์เริ่มมาเยือน มีนาคมก็กำลังจะผ่านไป ได้ความจากพี่เอเจนท์ว่าไม่รู้งานนี้จะมาเปิดไหม ผ่ามมมมมมม! ฮือ ใจหาย
ไปเลยหายไปในอากาศ เอาไงกับชีวิตต่อดีอ่ะจะพอแค่นี้หรือไปต่อดี หื้ม? หลังจากครุ่นคิดประมาณ 10 วิพี่เอเจนท์ก็เสนองานที่สองมาให้ใหม่รอบนี้เป็นงานร้านอาหารที่พิสต์เบิร์กคิดในใจว่าโชคดีว่ะ คือคิดว่าถ้าไม่ได้ไปงานแรกที่เลือก ก็ว่าจะเลือกงานนี้แหละแล้วพี่เขาก็เสนอมาพอดี เอาก็เอาว่ะ แถมมีเพื่อนสนิทที่ไปงานนี้มาเมื่อปีที่แล้วรีวิวสรรพคุณให้ฟังอีกว่างานดีเว้ยมึง นายจ้างโอเคเลยมึง เงินดีโอเคเลยมึง เออแล้วมันจะมีเหตุผลอะไรอีกที่เราจะไม่เลือกว่ะถามเจรงงงงงง นี่ก็เลยตอบตกลงโอเคค่ะ ได้เลย เอาเลยพี่ มา! ทำได้ทุกอย่างแหละถ้าไม่ใช่เฮ้าส์ ไม่ใช่ดิชวอชเชอร์ เพราะเป็นคนไม่ชอบทำงานบ้านที่สุดในสามโลก นอกนั้นน้องว่าน้องโอเคเลยค่ะคุณพรี่ น้องว่าน้องสู้ไหว นัดวันสัมภาษณ์เสร็จสรรพเรียบร้อย
การสัมภาษณ์กับนายจ้างก็ราบรื่นดี ผ่านไปได้ประมาณสองอาทิตย์ได้รับโทรศัพท์จากพี่เอเจนท์อะเกน ได้ข่าวดีเลยพี่น้อง...งานนี้อาจจะไม่ได้นะเพราะว่าไม่มีคนออก job offer ให้ คือพี่เขาไม่อยากให้รอแต่พี่ก็มีงานใหม่มานำเสนอให้ โอเค ได้! เอาเลยพี่ พี่ว่าดีน้องก็ว่าดีทั้งนั้นแหละ เอามาโล้ดดดดด! แล้วก็นัดสัมภาษณ์กับสปอร์นเซอร์ที่เมกา แอนด์เดนสัมกับนายจ้างที่เมกาอีกรอบ สัมเสร็จเรียบร้อยโล่งใจแล่ววว จะได้ไปเมกาอีกจริงๆใช่ไหมจ้ะ ในที่สุดน้องก็ได้งานโว้ยยยยยยยย กรี้ด ไม่เลือกงานไม่ยากจนที่แท้ทรู เลทโกกกกก! และนี่คืองานที่สามของข้าพเจ้าเอง กรี๊ด ลืมบอกเราได้งานที่ Xanterra mt.rushmore at South dakota ที่แบบมีภูเขาโฮคาเงะอ่ะ เพื่อนึกไม่ออกคือภูเขาอันนี้เด้อจ้าาาาาาา
รูปประกอบจาก : https://www.nps.gov/moru/learn/historyculture/avenue-of-flags.htm
ที่บอกว่าให้คะแนนพี่เอเจนท์ปีนี้ 7.5/10 เพราะว่าพี่เขาบอกให้ไปเอาเอกสารแล้วเอกสารยังไม่ได้ แค่นี้แหละ 5555555555 โกดโว้ย นั่งรถไปนานมาก มาพบความว่างเปล่า ฮือออออออ เรื่องอื่นๆ โอเคให้อภัยได้ งานมาช้าแต่คือตามให้ตลอดอันนี้ไม่โกธร เปลี่ยนงานบ่อยก็ไม่โกธรแต่โกธรตรงที่ให้ไปเอาเอกสารและไม่ได้เนี่ยแหละขอหักคะแนนเลยเพราะวันนั้นคือก่อนวันสงกรานต์คิดสภาพจำนวนรถมากมายมหาศาล ไปถึงเอกสารยังไม่มา ผ่ามมมมมม! มานั่งรถเล่นเฉย
ในส่วนของการสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกานั้นก็ขอสารภาพแบบกงๆ มา ณ ที่นี้ คือกลัวมากกลัวไม่ผ่านจิตตกสุดๆเลย เพราะคนรีวิวว่าไม่ผ่านเยอะก็เลยสติแตกมากจ้า บ้าบอ! พูดเลยว่าสัมวีซ่ารอบนี้เตรียมตัวไปเยอะพอสมควร เยอะยิ่งกว่าตอนสอบเข้ามหาลัยอี้กกกกก เพราะกลัวเสียเงินมาสัมภาษณ์วีซ่าอีก น้องไม่ย๊อมมมมมมเด็ดขาด แต่ก็ถือว่าแต้มบุญยังดีอยู่เด้อโชคดีว่าผ่านจ้า ฮือ น้ำตาจะไหลขอแชร์นะคะ
อันนี้คือคำถามคร่าวๆที่พอจะจำได้นะ พอไปถึงมาเลยจ้ายิ้มเข้าสู้ไว้ก่อนและน้องก็ต้องชิงกล่าวทักทายไปก่อนเลยจ้า ถือคติว่าเปิดก่อนได้เปรียบ(เหรอวะ?) เราได้สัมภาษณ์ช่อง 9 นะเป็นผู้หญิงผิวสีที่ดูท่าทางใจดีหรือเปล่า? อันนี้คือคำถามที่เข้าถามเราทั้งหมดเท่าที่เราพอจำได้เน้อ คือลนและตื่นเต้นมากพอสัมเสร็จก็รีบมาเมมในมือถือไว้เลยจำได้แค่นี้แหละ หวังว่าพอจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง
- Where’re you going?
- What’s your position?
- So, What’s your position duty?
- How much the wages that you got?
- How old are you?
- Have you ever been to USA before?
- When? And where’re you going?
- Why you want to go there again?
- When will you graduate?
- What’s your plan after finished the program?
- What do you do for living in the future?
- What’s company name?
- Did you read the booklet?
- What’s it could you explain?
- Could you give an example?
- What’re your parent do for living?
- If you had an emergency what’s the number you will called except 911?
- What’s your sponsor name?
And then she says your visa has been approved ผ่านจ้าาาาาาา น้ำตาจะไหล จบการสัมภาษณ์แค่นี้ แค่นี้เลยโว้ยยยยยที่กังวลมาจะสองอาทิตย์สิ้นสุดลงแล้ว เฮ้อ ถามแค่นี้เองหรอ เตรียมคำตอบมาประมาณ 35903588 คำถาม ผิดหวังเจงงงง มันก็จะปากเก่งหน่อยๆเนาะพอสัมภาษณ์เสร็จมันก็จะประมาณนี้แหละจ้า ก่อนหน้านี้คือหงอสุดอ่ะ แต่พอเอาเข้าจริงๆนะคือคนอื่นโดนแค่ 3 คำถามเอง ว้อททททท? เอาเหอะ ผ่านมาได้ก็ดีใจโคตรๆแล้ว
ไว้จะมาเขียนใหม่นะจ้ะ ซียูซูนนนนนน ?
#คนสู้ชีวิต ณ เซ้าท์ดาโกต้า 2018
#คนจะรวย 2018 อยู่ตรงเน้!!!!
TO BE CONTINUED EP.01 ASAP ;)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in