เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Scarlet (แดงดั่งวอดไวน์)sheisbreathing.
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน ภาคหนึ่ง: วอดวาย VI The power of the dog -Psalm 22:20
  • Chapter IV

    The power of the dog -Psalm 22:20

    “ทุกท่านโปรดระวัง พิษของกามอาจส่งมาถึงท่าน”

     

     

    ไม่ใช่แค่เพียงเสียงครวญครางของโมงยามราตรี

    วิถีของเรานั้นแปลกพิสดารพากันกระสัน

    ผู้เป็นเจ้าย่อมรู้เรื่องนั้นดีเกินกว่าใคร ยกเว้นเรา

    เขาหอบกระหายและป่ายปีนมือขึ้นมาตามเม็ดกระดุมสูท บ้างเสียดสอดเข้าไปเย้าแหย่ นัยน์ตาสีแดงฉานเป็นดั่งวอดวายถูกบางสิ่งปกคลุมอย่างหยาดเยิ้ม คล้อยจะย้อยหยดให้รสหวานปร่า ผมเห็นเช่นนั้นในครรลองของตัณหาบังตา ขาของเขายกขึ้นมา กดทับและค้างเติ่งไว้ที่เอวผม เฉกเช่นดวงหน้าและปลายคางที่ชี้เข้ามาในโพรงปากสวาทราวกับรบเร้าวิงวอนให้เล้าโลม ลากลิ้นเลียเคลียเคล้าอย่างดิบเถื่อน ด้วยเช่นนั้น คุณครางกระเส่า แผ่วโผย

    “กางเกง คุณต้องถอด” ผมพูด “ริชาร์ด เร็วเข้า”

    “ชาร์ลี” หนักแน่นเจือแฝงไปด้วยความกรุณา เดิมทีที่ผมนั้นกระสับกระส่ายวายวอดเป็นปลาแดดิ้น ติดตะขอ ผมสูญสิ้นความรวดร้าวทันใด แต่มิใช่จากการถูกปลดปล่อย เป็นทุบทลายให้คล้อยพินาศด้วยวิธีที่คุณจูบประโลม วิถีที่สัมผัสลูบไล้หรือสบตารุกรานเฉกเช่นนั้น สัปดนโสมมสิ้นดี ผมคิด

    โอ...ริชาร์ด ผมเห็นแล้ว การอัตคัดคับแน่นที่เป้ากางเกงของคุณ ดุนดันมาถึงแก่นกลางข้างในนี้ของผม คุณยิ้มกระย่องเหมือนโจรปลิ้นปล้อนเป็นเลน คุณวิลาสร่ายรำขยับเขยื้อนแนบชิดในแบบที่ไม่มีผู้ใดจะไหวทน จนกระทั่งเราค้นพบครรลองในแบบอื่นใหม่ที่พิศวาสยิ่งกว่า จนมันเกิดขึ้น เราต่างควักที่ก่อกำเนิดจากความเหลวแหลกแต่แข็งเป็นหินมากุมในมือตน ก้มลงมองแล้วแลกเปลี่ยนเป็นกอบกุมของผู้อื่น ความไม่เฉยชินมิอาจสามารถเฉยชา ก็กลายเป็นความชาวาบที่หนังหัว ราวกับสิ้นสมองคงไว้เพียงกลวงเปล่าและโบ๋อยู่ข้างใน มีแต่เลือดที่ก้นกะโหลกและเศษชิ้นเนื้อที่ถูกทึ้งกระชากออกไปอย่างรุนแรง

    พลันชั่วยาม ผมเห็นสีขาวโพลนปรากฏในหัว

    แต่กลับเห็นคุณมัวเมาเพราะความเงี่ยนในตา

    ไม่มีผู้ใดเอื้อนเอ่ยสนทนาพาที มีเพียงเสียงลมหายใจหอบหื่นจากหนึ่งในเราสอง และการกลืนก้อนแห้งผากอันได้ยลยินไม่เว้นว่าง ผมจรดจดจ้องริ้วรอยตรงหางตาคุณ ชีวิตเข้าใกล้ความชราของคุณและผม เราจะสัปดนเสเพลได้สักเท่าใด ผมไถ่ถาม คำตอบของคุณคือการกรีดกดเรียวนิ้วที่กระดูกปูดโปนออกมาจากแผ่นหลังผม ก่ายกอดเว้นไว้เพียงแสงที่พอจะเล็ดลอด สบตาผมสักพักและยิ้ม เมื่อผมยกมือขึ้นหมายจะสอดเข้าไปใต้สาบเสื้อและบีบยอดอกคุณ คุณร้องสนองไม่มีเสียง ราวกับว่าทำหล่นหายไว้ที่ใดสักที่ในห้วงพิศดารเป็นบึ่งบ่อ คุณยกมือตนขึ้นมาประทับมือผม เพียงสาบเสื้อบางเท่านั้นที่กั้นกลางความอุ่นระอุฝ่ามือคุณ และคุณทำท่า ส่งแววตาเว้าวอนให้ผมถอดถอนออกมาเสียก่อน เพื่อหยิบยกขึ้นมาโลมเลียอิงแนบ

    “คุณมีกลิ่นหนังสือพิมพ์” คุณหยุดสักพัก “และบุหรี่”

    ผมบากบั่นในการเปล่งเสียง “งั้นหรือ แล้ว อะไรอีก”

    “ความโหยหา ความกระหายและกลิ่นจากที่ห่างไกลอีกฟากของคาบสมุทร” ริชาร์ดฝังลมหายใจจรดลงมากลางระหว่างลิ่มนิ้วของผมที่กรีดกรายสัมผัสเคลียเคล้าอย่างหลงใหลปลายจมูกที่คุณ “...กลิ่นของคุณ”

    เราสบตากัน

    เขาปั้นรอยยิ้มแสนพิศวาสชวนวอดวายออกมาได้ แม้กายของเขาจะปวดหนึบที่ใดสักที่ซึ่งเรื่องนั้นผมพอจะทราบจากใต้ล่างของเรา ดั่งราวว่าผมวิ่งตามเขาอยู่บนเส้นด้าย ซึ่งตัวเขายืนยิ้มเย้ยหยันถากถางอยู่อีกฝั่งของหน้าผา ภายในชั่วพริบตา ผมพบว่ากำลังร่วงหล่น รื่นรมย์ระเริงร่าในความมืดมิด เป็นดั่งสวรรค์ในคราบนรก เปลวเทียนบิดพลิ้ววูบไหวประทับเส้นระยับแนวโค้งบนแก้วไวน์ ที่นั่น คุณใช้ความวอดวายที่มีลักพาตัวผมไปที่นั่น หากว่าผมไม่ได้ละเมอเพ้อพกแต่อย่างใด ผมจะเห็นคุณปลดเปลื้องเปลือยกาย แหวกว่ายในคืนฝันและตื่นขึ้นมากับรสชาติขมขื่นที่ไม่อาจละเมียดกล้ำกลืน

    ผมตรึงแผ่นหลังของคุณเข้ากับกำแพง รุนแรงจนเกิดเสียงกระทบ เกิดเสียงกระอักเจ็บ ดวงตาคู่นี้แฝงไปด้วยกำหนัดราคะเป็นม่านหมอกดำจึงมองสิ่งอื่นโดยไม่รู้สี มิหนำซ้ำ ที่นี่มืดมิดด้วยเพราะอำนาจของราตรีครึ่งแรมกลางเดือนมกรา ต้นฤดูวสันต์เคลื่อนคล้อยอย่างไร เราจะร่ายรำเยี่ยงวสันต์

    “ชาร์ลี” เขากระซิบกระซาบเพรียกหาอย่างวาบหวิวที่ปลายจมูก

    ข้างในนั้นเงียบสงัด ม่านแดงสะท้อนเงาดำขลับอัปลักษณ์ที่ไม่รู้ว่าสิ่งใดคือผู้ถ่ายทอด อัฒจันทร์เว้นว่าง ด้วยโมงยามของค่ำคืน จนกระทั่งโรงละครร้างผู้คน ต่อให้มีนายพรานซ่อนเสียงซุ้มยิงกวาง ผมก็จะทำให้คุณครวญคราง ณ ที่แห่งนี้ ต่อมา คุณกระหยิ่มยิ้มย่อง คลับคล้ายว่าจะเข้ามาจูบ แต่ไม่ คุณชะงักนิ่งทั้งรอยยิ้มเฉกเช่นนั้น เพียงปลายจมูกของคุณสัมผัสลงมาที่สันจมูกของผม เพียงเท่านั้นที่คุณทำในโมงยามนี้ นัยน์ตาสีแดงฉานจรดหยั่งลึกเข้ามาถึงแก่นสมอง คุณแหวกกลีบว่างและฝังมันลง ให้ห้วงพิสดารหลอมละลายและหลากไหลไปตามก้านสมอง หลอดลม เส้นเลือดทั้งหลาย ลำไล้และคั่งค้างอยู่ที่แก่นกลางจนอัตคัดทรมาน ในมือของคุณ โอ...ริชาร์ด คุณรูดรั้งสิ่งนั้นของผม คุณมีสีหน้าราวกับผู้รู้การไล่เรียงผ่านการสับไพ่ทั้งสำรับ ผมจวนจะวายวอดแหลกสลายเจียนจะแตกให้ชื้นแฉะบนฝ่ามือของคุณเสียตอนนั้น

    ผมกลั้นกลืนแต่เพราะฝืนทน จึงครางเสียงรวดร้าวกึกก้องอยู่ในลำคอ

    ส่วนคุณเงียบงัน เหยียดยิ้มและหันแผ่นหลังอันแกร่งกล้าเป็นสามเหลี่ยมสมมาตรนั้น อีกทั้งยังแอ่นสังขารส่งสะโพกก้นกลมกลึง และใช้มือคลึงด้านหนึ่งอย่างเย้ยหยัน ระทดระทวยบิดโค้งเว้าเป็นเว้าวอน วิถีในครรลองนี้ผมเพริดแพ้ แท้จริง เราก็แค่เพียงสัตว์ชั้นสูงในนาม สันดานต่ำที่ไม่มีฤดูติดสัด สายเข็มขัดของคุณและเน็กไทของผมต่างร่วงหล่นไปกองอย่างพัวพัน ผมเกี่ยวรั้งร่นขอบกางเกงของคุณตกลงมา เกลี่ยเรียวนิ้วอันหยาบกร้านไปตามขาด้านในคุณ เพียงผิวเผินของการสัมผัส ผมเห็น การกระตุกสั่นของรอยยับและสีสันใต้หนังกำพร้า คู่ผลเชอร์รีและก้านหนาตกห้อยมา แข็งขืนและดีดผึง ผมยกมือตนเพื่อจุมพิตแล้วลากไล้มายังลำคอราวกับบรรเทาก้อนแห้งผากที่ติดค้างมิอาจฝืนกลืน การกระทำเหล่านั้น ดูเหมือนคุณจะเห็นอย่างแจ่มชัด นัยน์ตาที่อาจสันดาปให้มอดไหม้ ครานี้ ปรือเคลิ้มจนกลายเป็นสีไวน์เหลือเพียงครึ่งดวง

    “เมื่อครู่คุณเร่งรัดผม ตอนนี้กลับลีลาอยู่ทำไม”

    “...”

    “บอกผมมา คุณต้องการแบบไหน ชาร์ลี”

     

    สันดาปผมเสีย

    โปรดเถิด ริชาร์ด แผดเผาผมเสียด้วยนัยน์ตาดุจโกเมนระยับคู่นั้น ให้เหวลึกดั่งอนันต์ได้กลืนกิน ให้ผมมัวเมาก่อนจะจมหายไปกับไวน์และวินาศวอดวาย

    ผมวิงวอนคุณ.

     

    จะเป็นไปด้วยความหลงละเลิงเริงร่ากลางทะเลเพลิง หรือหากจะเป็นราคะมากกำหนัดอัตคัดคับคั่ง ล้วนหนักอึ้งเกินทน วิญญาณที่ห่ามหัตถ์สังขารกายนี้ที่เศษเสี้ยวสติยังคงเหลือเป็นตัวเป็นตนอันน้อยนิด กดผมให้ลงนั่งที่กลางหว่างขาคุณ

    สามเหลี่ยมคว่ำราบเรียบและสามเหลี่ยมยอดสวาทตั้งขนาน ผมประทับนิ้วสัมผัสลากวิโลมร่องสวาทของคุณ ให้คลื่นกระแสนี้ ที่ราวกับเสกผีเสื้อกระพือปีกบินโลดแล่นในช่องท้องและโพรงของลำไส้ ขมวดปมและทำให้มันขาดสะบั้นด้วยคมปีก แล้วคุณจะกระเส่าสั่นเพราะความเงี่ยน จากนั้น ก็ไม่เหลือชิ้นดี ผมฝากความชื้นแฉะที่ไม่มีวันหมดสิ้นลงรอยยับที่ถูกแต้มสีเสมือนว่านี่คือรอยตำหนิที่แม้แต่ผู้สร้างอย่างพระเจ้า ที่ท่านมากความสามารถจนมิมีสิ่งใดเทียบเทียม แต่พระเจ้าก็มิอาจทำให้รอยยับทวารสวาทนี้ราบเรียบได้

    เพียงประโลมลิ้นผิวเผิน คุณพลันสั่นสะท้าน ลมหายใจหนักหน่วง เมื่อลงน้ำหนักร้าวราน คุณก็ครวญคราง ลำแข้งสั่นคลอน คุณแหงนเงยหน้าทรมานสุขสมราวกับพินาศพังทลาย ลิ้นของผมย้อมให้วาวระยับจับประกาย สีเลือดและความบวมเต่งขยับขยายในแนวทางพิศวาสโสมม เราต่างแปดเปื้อนไปด้วยมลทินพิษของกามกิเลสทิ้งรอยให้ด่างพร้อย ผมผละดวงหน้าของออกมาอย่างใคร่ตัณหา นึกอยากตอกตำสุดลำเท่าที่ความเงี่ยนกระหายของผมนี้จะทำได้

    “Please”

    ไม่ใช่เขาที่ร้องขอ เป็นผมที่อ้อนวอน

    แต่ไม่ใช่กับเขา แต่กับบางอย่างซึ่งอาจเป็นพระเจ้าหรือเป็นได้แม้กระทั่งตัวผมเองที่กำลังวิงวอนความพิสดารที่กำลังคับคั่ง ด้วยเพียงเสี้ยวใบหน้าของริชาร์ด เขาหันมามอง รอยยิ้มมากล้นไปด้วยการเม้มและการปล่อยให้คืนตัว คุณดูเสียวซ่านเหลือเกิน แข้งขาที่คอยแบกรับระทวยสั่นอ่อนโอนไปตามการสั่นพ้องของเสียงร้องจากความว่างเปล่าที่ลอยมาตามสายลม ถึงกระนั้น ริชาร์ด คุณก็ยังคงกระหายหื่นยื่นสะโพกก้นกลมในครรลองบุรุษผู้หนึ่งจะพึ่งมี ผมหยัดกายเต็มส่วนสูง ใช้แกนตัณหาเข้าประชันกับร่องตื้นๆ นั้น ก่อนจะเสือกไถไปตามการผ่อนผายของลมหายใจ “อย่างไรก็ได้ ใช่ไหม”

    “ให้อย่างที่คุณต้องการ”

    “มากเท่าไรก็ได้ ใช่ไหม”

    “ด้วยเจตจำนงของคุณ”

    จรดปลายแก่นที่พรั่งพรูด้วยเมือกใสไม่สิ้นตัณหา ที่กลางรอยยับทวารเป็นดั่งรอยร่องของหลากไหล ผมใช้หัวแม่มือของตนกดแกนดุ้นแล้วเสือกไถไปตามร่องสวาทอีกครั้งหนึ่ง และกะเทาะเฆี่ยนคุณ บากบั่นดันบั้นปลายที่ขนัดคับคั่งอัตคัดคับแน่น แต่กลับไม่อาจกลืนเข้าไปได้เพราะคุณหดเกร็ง คุณทำไปด้วยความเสเพลเสแสร้งเพื่อเหยียดหยาม ดูถูกดูแคลนนึกสัพยอกหยอกล้อผม และผมมีแต่จะตะบี้ตะบันสนองความครวญใคร่ เหล่านั้น คือเหตุชนวนโทสะ

    “พระเจ้า คุณ...ริชาร์ด”

    ผมสบถ แต่คุณ ริชาร์ด เหตุใดคุณจึงดูพึงพอใจกับสีหน้าเฉกเช่นนี้ของผมเหลือเกิน ผมเห็นสีหน้าของคุณ หัวสมองพลันโพลนขาว สังขารระทดระทวยละหวั่นหวั่นไหว เมื่อนั้น ที่การขยับขยายเพียงชั่วพริบตา ผมสอดใส่จนคุณไม่ได้ตั้งตัวและกลืนกิน คลื่นกระแสกระสันตอบสนอง ผมตอกลำลึกสุดทางเท่าที่จะหยั่งเข้าไปได้ ริชาร์ดร้องสนั่นลั่นเสียงที่มิอาจจำแนกรสชาติ

    เป็นเจ็บปวดหรือเสพสุข

    รัตติกาลมืดมิดประกายดวงดาราล้อมบริวารจันทราส่องสว่าง เมฆเคลื่อนคล้อย ป่าหลังโรงละครวังเวง เดิมทีคือการเสียดสีก้านกิ่งเท่านั้น ครานี้ สายลมพกพร้อมมาด้วยเสียงแมวร้องจากบนหลังคา ผู้คนร้างรา รวมถึงผู้รับบทไปเริงรมย์บนเวที ข้างในนั้นเสียงเงียบลงไปแล้ว แต่เสียงเทียนยังคงวูบไหวหมิ่นหยามค่ำคืน เป็นดั่งเช่นการโยกโยนยียวนของตัวคุณ การไกวแกว่งทั้งผลและก้าน เสียงร้องครางของผู้เป็นบุรุษผู้หาญกล้าไม่นิ่งดูดาย สวนทวารตนสลายบางสิ่งของผมคับคั่งเมื่อยามผมขยับเขยื้อนเช่นกัน

    หากพระเจ้าส่งพรถึงเราทั้งคู่ เพื่อร่วมสัมมนาสังสรรค์เสวยเหล้าและไวน์ ในงานคืนปีติสานติ์ แสดงการเสพสังวาสแสนสัปดนสามานย์ด้วยสัญชาตญาณอันดิบเถื่อน ความใคร่เราสองที่บังเกิดและมากเกินจะห้ามปราม เหล่านั้น พลันแปรกลายเป็นกาฝาก ฝากฝังความปรารถนาพิสดารอย่างหยิ่งผยองสนองกามตน ทะนงอวดดีออกปากวานขอมากเกินกว่าอีกฝ่ายจะสนองผล “ชาร์ลี ผมอยากเห็นหน้าคุณ ชาร์—” เมื่อยามขาดห้วง ไกวแกว่งและอ่อนไหว ริชาร์ดเบี่ยงกายชายตา แววตาวินาศหยดย้อย “ชาร์ลี ได้โปรด” อย่างเช่นการร้องขอของคุณในครั้งนี้

    เพื่อสนองการโรมรันรสเปล่า ผมบีบเคล้น ผมผ่อนสะโพก ทว่าหยัดหยั่งตอกล้ำราวกับจะฝังมันเข้าไปประมาณสองสามครา ถอดถอนลมหายใจและแกนตัณหาที่ดูคล้ายจะสะพรึงกว่าเก่าออกมา ฉุดกระชากอย่างกราดเกรี้ยวแล้วพลิกร่างพิศวาสทุกพริบตาของคุณในพริบเดียว และบรรเลงลิ้นระเริงจูบด้วยความใคร่ลงไปอย่างบ้าคลั่ง

    แววตาสีแดงพริ้มก่อนผนึกลง คุณเอื้อมมือมา

    คุณบีบรัดคอผม ป้อนลิ้นเร่าร้อนเข้ามาพัวพัน

    คุณยื่นมือไปโดยไล้โลมทุกสัดส่วนสะโพกคุณ

    ผมทั้งบีบรัดทั้งรูดรั้งกายล่างที่สั่นระริกของคุณ

    “คุณ ยกขา สมิธ—ยกขาขึ้นมา ข้างนี้...ข้างนี้

    แม้ว่าโมงยามคืนพิสดารของโรมรันไม่ไร้สิ้นเสียงน่ารังเกียจ กระนั้น เมื่อคุณยกขาขึ้นมาและแขวนมันไว้ด้วยกำลังแขนซ้ายของผมอย่างแกร่งกล้า ประณามแกนกลางของคุณที่ดีดดิ้นเริงร่าน เร่าร้อนทว่ารวดร้าว แต่ก่อนคุณจะวินาศพลั้งเผลอเพราะมิอาจกลั้นฝืน ร่องสวาทเปิดอ้า สวนทวารหยั่งสุดโคน ปลายคางริชาร์ดแหงนเงยเผยสันกรามอันคมคายในระดับจูบ ผมขบเม้ม ครวญครางสรรพสำเนียงเป็นภาษาในครรลองพิลึกพิลั่น นักภาษาศาสตร์มิอาจเข้าใจ คุณมัวเมาเพราะมันปกคลุมและห่มคุณไปทั้งร่าง และผมก็ไม่ต่างเมื่อการบีบรัดให้ผมเจ็บร้าวจนเผลอร้องคำรามออกมาสุดเสียงแต่กลับแผ่วเบา เคลื่อนคล้อยขึ้นลงราวกับมีฤทธิ์แรงแรมจันทร์คอยขับเคลื่อนควบคุมมนุษย์ผู้ซึ่งมีเส้นผมราวกับใยไหมอำพัน

    ริชาร์ด

    ริชาร์ด

    ผมรู้ว่าควรพาคุณไปที่แห่งใด สุดปลายทางในโลกนี้มากไปด้วยสถาปัตย์งดงามที่บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ส่งมอบมรดกแก่ผู้ไม่มีอยู่ในปัจจุบันและจะมีอย่างมากมายในอนาคต ใครสักคนจะหน้าตาเหมือนเรา หรือหนึ่งในเราจะสาบสูญ หากสวรรค์บันดลใครสักคนคนนั้น อาจเป็นหนึ่งในเราในภายภาคหน้าที่ไม่อาจจำความหรือการมีอยู่ในศตวรรษนี้ได้ หากพบเจอล้วนเป็นโชคชะตาที่เราเข้ามาเกี่ยวพันพิสดารโดยการแสวงหา ไม่ใช่เพราะความบังเอิญ ตกตะกอนที่จมลึก อาจเป็นอะไรสักอย่างที่เผอิญคล้ายคลึงและดึงดูด เหมือนขั้วแม่เหล็กที่เดินทางหาที่รัก จูบ ดูดดื่ม หลงระเริงราวกับเสพติดไปจนชั่วชีวิตนี้จะวายวอด

    ริชาร์ดบีบเอวสอบผมแน่นเหลือเกิน มิหนำซ้ำ ยังนึกยิ้มพิสดารแม้หอบกระหายคล้ายกับหัวเราะสังสรรค์แม้สังขารจะถูกผมสะบั้นจวนเป็นจุณจุดไฟสันดาปแหลกลาญเป็นผุยผง

    เมื่อมันกำลังจะมาถึง ผมฝังใบหน้าตนลงไประหว่างช่องว่างของลาดไหล่และลำคอระหงยาวสง่า ซึ่งพกพร้อมมาด้วยกลิ่นเหงื่อหยาบโลนทว่าหอมหื่นยวนยี คุณหายใจสอบกระเส่าเร้าอารมณ์ให้ดุ้นของเราทวีคูณจนเกือบจะล้นและทลายกำแพงลง ความชื้นแฉะของเสื้อผ้า การเสียดสีและกระตุกสั่นของเราทั้งคู่ ลมหายใจกระหายเงี่ยนเป็นพ้องคล้อยตามแผ่นอก ท่วงท่าอัปลักษณ์เกินจะไหวทนจึงคัดหลั่ง เสียงของคุณจะสลักหยำเปอยู่ในเมือกข้น จรดจูบคุณที่ต้นคอและเหลือบไปเห็น คุณยังคงหลั่งไหล เห็นเช่นนั้น ผมปวดหนึบไปทั่วทั้งสรรพางค์ สังขารระทวย เมื่อหน้าท้องหดเกร็ง ข้างในก็ดูเหมือนจะว่างเปล่าไปชั่วขณะ ชั่วพริบตาผมได้ร่วงหล่น เขาทึ้งเส้นผมยาวกลางสะบักสีดำขลับของผม เพื่อการโรมรันหวานอ่อน แต่โปรดเถิดจงจำไว้.

     

    ผมจะสาปส่งคุณไปที่นรก ดิ้นร้าวอยู่ที่นั่น

    เหมือนดั่งที่คุณประทานสวรรค์จอมปลอมให้กับผม

    คุณจะจรดขวดไวน์ที่ปากแก้วก่อนหลั่งริน

    คุณจะหั่นมอบชิ้นขนมปังและครวญคราง[1]

    ต้อนรับความวินาศ จากนั้น จะวอดวายไปกับคุณ

     

     

    “เมื่อครู่นี้ คุณว่าอย่างไรนะ

    ความรักรึ เราว่ามันคือห้วงของกาม”

    Author @sheisbreathing

     

     

    เชิงอรรถ

    1. ^ คุณจะหั่นมอบชิ้นขนมปังและครวญคราง ในที่นี้ เป็นการเล่นประโยคจากมัทธิว 26:26-28 “จงรับไปเถิด นี่เป็นกายของเรา จงรับไปดื่มเถิด เพราะว่านี่คือโลหิตของเรา”

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in