ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนนิยมสิ่งสวยงามเจริญตานิยมเสียงอันไพเราะเสนาะหู ทั้งสองล้วนนำมาซึ่งความเจริญใจ
นกหรือ? ปลาหรือ? ของเหล่านั้นไม่ว่าใครก็มีได้ข้าเป็นถึงจักรพรรดิ เหตุใดจึงต้องขวนขวายหาสิ่งที่หาได้เกลื่อนกลาดเช่นนั้นมาประดับบารมี
วันหนึ่งข้าได้ยินเสียงเล่าลือถึงน้ำเสียงไพเราะจับจิตจากภายในอุทยาน
นกหรือ? ข้าถามกับราชเลขา เขากลับยิ้มกริ่มและบอกว่าข้าต้องเห็นด้วยตาตนเอง
เป็นเพียงนก เสียงร้องไพเราะเพียงใดก็เป็นได้แค่นกข้าว่าเช่นนั้น ราชเลขาของข้ายังคงตอบคำเดิม ช่างน่าโมโหเสียจริง ข้าจึงสั่งไปอย่างเสียไม่ได้ให้พวกองครักษ์ไปจับเจ้าของเสียงนั้นมาให้
วันต่อมา กรงอันใหญ่ก็ถูกนำเข้ามาในท้องพระโรง มันถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าแพรไหมผืนงามเพื่อปกปิดซ่อนเร้นสิ่งที่อยู่ภายในถึงกระนั้นข้าก็ยังสดับเสียงอันไพเราะที่เล็ดรอดออกมาได้ เป็นเช่นคำร่ำลือ น้ำเสียงนั้นหวานแว่วเสนาะหูราวกับระฆังทองใบน้อยที่สั่นกระทบกันด้วยแรงลมเอื่อยอ่อนราวกับเสียงกระดิ่งลมที่ส่ายไหวเมื่อลมหนาวพัดผ่านความเบื่อหน่ายของข้าพลันมลายหายทดแทนไว้เพียงความครั่นใจหมายจะได้ยลว่าเจ้าของเสียงสวรรค์นี้มีหน้าตาเป็นเช่นไร
เพียงสะบัดมือ พวกเขาก็ดึงผ้าออก พลันนั้นข้าก็เหยียดปากยกยิ้มอย่างไม่รู้ตน
ดูเถิด ผู้คนเรียนรู้เพียงวิธีเลี้ยงนก เลี้ยงปลาตัวข้ากลับได้ครอบครองสิ่งที่พวกเขาไม่มีวันจะได้พบเห็นได้ครอบครองเสียงที่พวกเขาไม่มีวันจะได้ยลยิน
จากวันนี้เป็นต้นไป ข้าจะเก็บสิ่งนี้ไว้ไม่ให้ห่างกายเก็บซ่อนเอาไว้ไม่ให้ผู้ใดได้เห็นแม้แต่เงา
ข้าจะเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว ทั้งเรือนร่างเสียงขับร้อง และจิตวิญญาณ นับจากนี้ไปจนสิ้นเสียงเฮือกสุดท้าย...
...นกน้อยแสนงดงามของข้า...
------------------------------------------
อแด็ปจากเรื่อง จักรพรรดิกับนกไนติลเกล ค่ะ~~~
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in