*คำเตือน :ข้อความต่างๆในบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นจึงไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือให้เหตุผลตามหลักวิชาการได้ 

ทุกครั้งที่ฝนตกรถต้องติดอยู่เสมอโดยเฉพาะในประเทศกรุงเทพของเรา แล้วมันมีเหตุผลอะไรที่รถจะต้องติดในช่วงเวลานี้ที่ฝนตก

1. ถนนลื่น เลยขับรถด้วยความเร็วมากไม่ได้ แต่ในกรุงเทพฯรถเยอะเป็นปกติอยู่แล้ว มันก็เป็นไปได้ยากที่จะขับรถด้วยความเร็วสูงๆเช่นหลักร้อยกว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง

2. ทัศนวิสัยไม่ดี ทำให้ต้องระมัดระวังมากขึ้นข้อนี้ก็น่าจะมีส่วนอยู่บ้าง แต่การที่ขับรถช้าลงเพราะมองทางไม่ชัดจะทำให้รถติดจริงๆหรือ

3. รีบ พอฝนเริ่มตั้งเค้าเรามักจะคิดไปก่อนแล้วว่ารถต้องติดแน่ๆเลย ดังนั้นฉันต้องรีบออกจากที่นี่เสียแต่เนิ่นๆเพราะเดี๋ยวรถจะติด และทุกคนก็ดันคิดตรงกันเลยกลายเป็นว่าเราทุกคนต่างก็ไปกองรวมกันอยู่บนท้องถนน

4. เรียกให้ใครสักคนมารับหรือขับรถไปรับใครสักคน พอฝนตกแล้วมันต้องเปียก ฉันไม่อยากเปียกจะไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ฝนก็จะสาด ฉันอาจจะต้องไปยืนอัดกับคนอื่นเป็นปลากระป๋องเป็นเวลานานๆ เพราะรถจะต้องติด ฉันจะเมื่อย ฉันจะเหนื่อยและเซ็ง ดังนั้นต่อให้ต้องเซ็งเพราะรถติดฉันก็ขอเซ็งอยู่ในจุดที่สบายหน่อยก็แล้วกัน แล้วบรรดารถที่ถูกเรียกมารับต่างก็รวมตัวกันอยู่บนท้องถนน

5. น้ำรอการระบาย และท่วมถนนขับเร็วมากไม่ได้เดี๋ยวน้ำเข้าเครื่องยนต์ไม่ก็กระเด็นไปโดนคนอื่น หรือไม่ก็ไปต่อไม่ได้เครื่องตาย หรือน้ำท่วมเข้ามาในรถต้องจอดแล้วรถก็ติด

เหตุผลข้างต้นมันก็เป็นเหมือนอะไรที่วนเป็นวงกลมแบบไม่มีจุดสิ้นสุด คล้ายๆกับปัญหาฝนตกเพราะกบร้องและกบร้องเพราะฝนตก แต่ต่างกันตรงที่ปัญหานี้จะเริ่มจากการที่ฝนตกจึงทำให้รถติดและการที่รถติดก็ทำให้รถติดต่อไปเรื่อยๆ