ส่งท้ายเดือนแห่งความรักกับอีกหนึ่งประเด็นที่กำลังเคลื่อนไหวในสังคมญี่ปุ่นกันอยู่ตอนนี้คือ 

การสมรสเพศเดียวกัน หรือ same-sex marriage  

  ปัจจุบันหลายๆพื้นที่ในประเทศญี่ปุ่นอย่างเช่น เมืองอิงะ ทาคาระกะ นาฮา ซัปโปโร ฟูกุโอกะและชิบูย่า ได้มีการยอมรับคู่รักเพศเดียวกัน เพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มLGBT และเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศ แต่ก็ยังถือว่าเป็นเพียงส่วนน้อย เพราะเสียงจากทั้งประเทศและกฎหมายของรัฐบาลญี่ปุ่นเองนั้น ยังไม่มีการรับรองและยอมรับการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน 

   ในวันแห่งความรักหรือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา 13 คู่รักเพศเดียวกันจึงพร้อมใจกันออกมาเผชิญหน้าต่อสังคมและยื่นฟ้องความไม่ยุติธรรมนี้ต่อศาลแขวง 4 เขต ได้แก่ โตเกียว โอซาก้า ซัปโปโร และนาโกย่า โดยฝ่ายยื่นฟ้องทั้ง 13 คู่ มีคู่รักช-ช 8 คู่ และ ญ-ญ 5 คู่ วัย 20-50 ปี

เสรีภาพการสมรสและความเสมอภาคภายใต้กฎหมาย

   ทนายความฝ่ายของผู้ที่ยื่นฟ้องกล่าวว่า การยื่นฟ้องกลุ่มครั้งนี้เป็นการยื่นฟ้องว่าการไม่สามารถแต่งงานกับเพศเดียวกันได้นั้นถือว่าขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญเรื่องเสรีภาพในการแต่งงานและความเสมอภาคภายใต้กฎหมาย ซึ่งการฟ้องร้องลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

   กลุ่มผู้ยื่นฟ้องเชื่อว่า การไม่ยอมรับการสมรสเพศเดียวกันเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่ยุติธรรม เป็นดั่งการเลือกปฏิบัติและเป็นการละเลยอีกด้วย

   เนื่องมาจากบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสมรสในประเทศญี่ปุ่นโดย วรรคแรกของมาตรา 24 แห่งรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น ค.ศ. 1947 บัญญัติถึงการสมรสว่า “ การสมรสต้องอยู่บนพื้นฐานความยินยอมของทั้งสองเพศ และพึงถูกรักษาไว้ผ่านความร่วมมืออย่างเท่าเทียมในสิทธิระหว่างสามีภรรยาเป็นหลัก ” ซึ่งคำว่า สามีภรรยา นั้นถูกตีความโดยทั่วไปว่า สามีซึ่งเป็นผู้ชายและภรรยาซึ่งเป็นผู้หญิงจึงทำให้การสมรสเพศเดียวกันไม่เป็นที่ยอมรับ

   ถึงแม้จะมีอีกเสียงว่าหากตีความคำว่าทั้งสองเพศ ในอีกแง่มุมหนึ่งก็อาจหมายรวมถึงบุคคลเพศเดียวกันทั้งสองคนก็ได้ แต่การให้ความหมายดังกล่าวนั้นไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น

การเรียกร้องค่าเสียหาย เพื่อการเปลี่ยนแปลง

   จากการพิจารณาสอบสวนการละเลยต่อกฎหมายการสมรสเพศเดียวกัน ก่อให้เกิดความเสียหายทางจิตใจจึงเรียกร้องค่าเสียหาย 1 ล้านเยนต่อคน แต่จุดประสงค์ของผู้ยื่นฟ้องนั้นไม่ใช่เพื่อการได้รับเงินชดเชยแต่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่เป็นธรรมต่อการสมรสเพศเดียวกัน

เส้นทางอันยาวไกล แต่เต็มไปด้วยความหวัง

   เหล่าผู้ยื่นฟ้องในเขตโตเกียวได้แถลงข่าวและเล่าถึงความรู้สึก นำโดยคุณเคนจิ ไอบะ หนึ่งในผู้ยื่นฟ้องได้กล่าวถึงจุดประสงค์ในการยื่นฟ้องต่อศาลว่า การฟ้องร้องในครั้งนี้เป็นการฟ้องเพื่อต้องการให้คนทั้งประเทศได้ตระหนักถึงความทุกข์และความยากลำบากที่พวกเขาต้องเจอและเป็นการต่อสู้เพื่อกลุ่มคนรักร่วมเพศที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น

   และยังกล่าวอีกว่า พวกเขาเพียงแค่อยากออกมายืนหยัดเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นความเสมอภาคและอยากให้การสมรสเพศเดียวกันได้รับการยอบรับจากประเทศภายใต้การตัดสินอย่างเป็นธรรม

   และอีกคู่หนึ่ง คุณไอ นาคาจิมะและคุณคริสติน่า เบาแมน ได้แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันในปี 2018 ที่ประเทศเยอรมันนี และได้ย้ายมาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นแต่ไม่สามารถได้รับวีซ่าคู่สมรสได้

   คริสติน่ากล่าวว่า สิ่งที่เธอต้องการจะขอร้องคือ เธอแค่เพียงต้องการจะแต่งงานเหมือนกับคู่สามีภรรยาทั่วไป และเธอรักประเทศญี่ปุ่นมาก จึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันที่ญี่ปุ่น และอยากให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่อยู่ง่ายขึ้น

   สุดท้ายกลุ่มผู้ยื่นฟ้องได้กล่าวว่า " อยากให้การหลอกตัวเองและความรู้สึกที่ทุกข์ทรมานนี้จบลงที่สมัยของพวกเราสักที ได้โปรดเอาใจช่วยพวกเราด้วย “ ซึ่งทั้งคำพูดและการกระทำอันมุ่งมั่นของพวกเขานั้นทำให้ผู้ที่ฟังบางส่วนถึงกับน้ำตาไหล เห็นใจกับสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญ 

 ถึงแม้ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่มีสังคมแบบอนุรักษ์นิยมแต่ผลสำรวจจากกลุ่มวัยรุ่นชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็มีการตอบรับให้การสนับสนุนการสมรสเพศเดียวกันแม้หนทางจะอีกยาวไกล แต่เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของทั้ง 13 คู่ในครั้งนี้จะสามารถเป็นพลังและความหวังต่อกลุ่มคนรักร่วมเพศอีกมากมายได้อย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.buzzfeed.com/jp/kensukeseya/s-marriage1

https://www.bbc.com/news/world-asia-47221934

เรียบเรียง yayayayong