“ท่านหมายถึงดาบอะไรคับพวกผมมีดาบหลายดาบที่ต้องตีเหมือนกัน” หินตอบแบบจงใจกวนอารมณ์เล็กน้อย
“ดาบที่ท่านชายลานุไง ไอ้พวกบื้อ ถึงไหนแล้ว”
“ท่านหมายถึงจู๋มด เอ้ย หมายถึงดาบของตุ๊กตาของท่านลานุใช่หรือไม่ ถ้าเป็นดาบนั้นพวกผมตีเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้วคับ”
“ดีมาก เอามาให้กุดูสิ”ทุกคนหยุดการทำงาน สายตาเลิกลั่กกันทุกคน แน่นอนหินเลิกลั่กมากที่สุด
“ไหนอ่าดาบ ดาบท่านลานุอยู่ไหน” เจ้ากรมทหารเริ่มใช้เสียงดังขึ้น
“ดาบเล่มนั้น พี่สอกำลังเอาไปให้ท่านลานุที่วังแล้วคับ” พลทหารคนหนึ่งกล่าวขึ้น
“พวกมึงว่าไงนะ? ดาบอยู่กับสอ”
“ใช่คับท่าน ดาบอยู่กับไอ้สอและสอกำลังเดินทางไปที่วัง”
“พวกมึงเล่นอะไรกันห่ะ” เจ้ากรมทหารใช่เสียงที่ดังกว่าเดิม
“มีอะไรที่เราควรรู้จากท่านก่อนมั้ยคับ?”คำถามล่อเสือเข้าถ้ำของสอ ที่อยู่ดีๆก็มาอยู่ที่กรมทหารนั้นทำให้เจ้ากรมทหารเสียถ้าไม่น้อย
“ไอ้สอ มึงเอาดาบมาให้กุ”สอหยิบดาบออมาจากกระเป๋ากางเกง ยื่นออกมาให้เจ้ากรมทหาร ดู
“มึง เอาดาบมาให้กุ”
“ท่านก็ดูอยู่นี้ไงคับ”
“อย่ากวนกุไอ้สอ เอาดาบมา”
“ไม่ครับท่าน ผมจะเป็นคนเอาดาบไปให้ท่านลานุเอง”
“ไอ้สอ”เสียงของเจ้าทหารดังกว่าเดิมบ่นอารมณ์โมโห
“หรือว่าท่านมีอะไรปิดบังผมจริงๆ”สอใช้คำถามเดิมในการสนทนากับเจ้ากรมทหาร
“ถ้ามันไม่มีอะไร นั้นผมก็ตัวนะท่าน”สอทำความเคารพเจ้ากรมทหารก่อนที่จะเดินออกไป
“พวกมึงทุกคนคงจะรู้แล้วใช่มั้ยว่าไตรมรนะที่จะเกิดขึ้นมีเพื่ออะไร”อยู่ดีๆเจ้ากรมทหารก็ยกเรื่องไตรมรนะขึ้นมา
“ไม่ต้องตอบกุ ถ้าพวกมึงอยากจะมีชีวิตไปเลี้ยงหลานของพวกมึงเอง พวกมึงต้องไม่เข้าร่วมไตรมรนะ เข้าใจตรงกันนะ”น้ำเสียงที่เย็นเหยือกของเจ้ากรมทหาร ทำให้ทุกคนเงียบปาก
“เข้าใจใช่มั้ย?”ยังไม่มีคำตอบของทุกคน
“กุถามว่าเข้าใจใช่มั้ย?”ยิ่งเจ้ากรมทหารถาม อยู่ดีๆอากาศในห้องนั้นก็เย็นบ่งบอกได้จากหินนั้นสั่นจนเครื่องซักผ้าเรียกพี่
“คับท่าน” ในที่สุดทุกคนก็ตอบเจ้ากรมทหารได้เดินทางออกไปจากตรงนั้น ปล่อยให้ทุกคนอยู่ในภวังค์แห่งความเงียบงัน
“ท่านตาค่ะ” เสียงเรียกจากนม
“นมค่ะ เรียกตาแบบปกติเถอะค่ะ ตาก็ยังคือตา ไม่ต้องมีท่านก็ได้ค่ะ”ดุสิตารู้สึกแปลกๆตั้งแต่วันแรกๆที่ย้ายมาอยู่ที่นี้เพราะนมทุกคนต่างแรกดุสิตาว่าท่านหญิงดุสิตา อยู่ไปนานๆเข้าดุสิตาก็ต่อรองให้เรียกเหลือแค่ท่านตาแต่อย่างไงดุสิตาก็ยังไม่คุ้นอยู่ดี
“ท่านตา อย่างน้อยนมเรียกอย่างนี้ นมสบายใจนะค่ะ นมขอเถอะเพค่ะ”
“ถ้านมเรียกตาว่าอย่างงั้นแล้วนมสบายใจนมก็ทำเถอะค่ะ”
“ขอบคุณเพค่ะ”
“ว่าแต่ ตาเคยได้ยินนมพูดถึงเรื่องกลุ่มผู้หญิงที่กลับมาจากเมืองบูลวานมเล่าให้ฟังต่อมั้ยค่ะ” ดุสิตาเคยได้ยินเรื่องราวของเมืองนี้เหมือนกันเมืองบูลวามีชื่อเสียงเรื่องอาหารทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน และแน่นอนเรื่องอาหารดุสิตายอมทุกเรื่อง
“ถ้าเป็นเรื่องอาหารเนี่ยท่านตาจะสนใจเป็นพิเศษนะเพค่ะ ฮาฮา” นมแซว
“หูผึ่งเลยล่ะค่ะ ฮาฮา นมช่วยเล่าให้ตาฟังใหม่ตั้งแต่ต้นได้มั้ยค่ะ แอบฟังมา ไม่ค่อยจะเอาใจสะเท่าไหร่”
“เมืองบูลวา อย่างที่ท่านตาทราบเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหาร ทั้งคาวทั้งหวานใครได้กินแล้วถือว่าเป็นบุญปากเพค่ะ”
“นม นมรู้มากกว่านิเล่ามาให้ตาฟังเถอะนะ” เสียงอ้อนของดุสิตามันช่างอ่อนหวานเลยเกินประกอบกับรูปลักษณ์ของเธอแล้วนะ มันช่างน่ารักเหลือเกินโดยเฉพาะแก้มที่น่าหยิกนั้น
“นุก็อยากรู้นะนมเล่าให้นุฟังด้วยได้มั้ย” ท่านชายลานุอดทนฟังอยู่หน้าประตู แต่เพราะความรู้สึกต่อความน่ารักของดุสิตานั้น จะทนฟังอยู่หน้าห้องนั้นทำไม
“นุก็อยากรู้เหมือนกันว่าขนมหวานที่หวานแล้วนั้น ยังจะหวานเท่ากับรอยยิ้มของตาได้หรอเปล่า”
“ปากหวานเลยนะนุ แน่นอนสิ ตาต้องหวานกว่าอยู่แล้ว”
“นั้นนมจะขออนุญาตเล่าต่อนะเพค่ะ” ดุสิตานั่งอยู่บนพื้นไม้ขัดเงาของวังคู่กับนม
“อ้าว รออะไรอยู่ละนุ มานั่งสิ” ร้อยวันพันปี ลานุไม่เคยนั่งพื้นไม้ในระดับเดียวกันกับนมเลยลานุจะต้องอยู่สูงกว่านมเสมอ แต่ทำไงได้ ดุสิตานั่งพื้นก่อนแล้วทางตัวเองเดินไปนั่งที่ที่นั่งประจำ ลานุคงหมดโอกาสที่จะอยู่ใกล้กับดุสิตาไม่มีทางเลือกเลย ลานุตัดสินนั่งลงบนพื้น
“จะดีหรือค่ะท่านลานุ” นมคัดค้าน
“เราโอเค เล่าเลยนม เรารออยู่”ลานุไม่อยากขัดใจดุสิตาเลยยอมนั่งพื้น
“อย่างที่นมบอกไปเมืองบูลวาเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอีกทั้งอาหารที่ลือนั้นมันไม่ใช่อาหารธรรมดาๆที่เรากินกันอยู่ประจำด้วยเพค่ะ”
“แล้วชาวเมืองพวกนั้นกินไรกันล่ะไอ้หนอนไอ้ไส้เดือนหรืออย่างไง” ลานุแกล้งแสดงความฉลาดน้อยของตน
“ท่านลานุค่ะ ท่านอาจจะไม่เคยรู้หนอนไส้เดือน ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองบูลวาหรอกค่ะ” นมพยายามจะสื่อให้ลานุเข้าใจ
“หมายความว่าไงนมชาวบ้านเมืองเรากินของพวกนั้นหรือ?” ดุสิตามองไปยังลานุขณะที่ลานุตอบนม
“มองนุทำไมตา อย่าบอกนะว่า”
“หนอนไส้เดือน อยู่ที่ตลาดนี้เองนุครั้งหน้าถ้าเราไปตลาด เดี๋ยวเราซื้อกันนะค่ะนม” ดุสิตาพูดกับนมแต่สายตานั้นมันมาย้อกล้อกับลานุ
“ชั่งหนอนไส้เดือน แล้วอะไรล่ะที่มันทำให้เมืองนั้นเด็ดเรื่องอาหาร”ลานุเปลี่ยนเรื่องให้กลับมาอยู่ในบทสนทนาก่อนหน้า
“ท่านลานุอาจะยังไม่รู้แผ่นดินบูลวานั้น มีชาวฝรั่งอยู่เยอะ ทั้งฝรั่งขาวฝรั่งดำ ทั้งผมดำผมแดง อาหารในแผ่นดินนั้นมันเป็นอาหารที่แผ่นดินเราไม่มีเพค่ะ”
“นมไม่รู้หรอค่ะว่ามันลักษณะอย่างไงรสชาติอย่างไง” ดุสิตาสนใจอย่างมาก
“นมไม่รู้หรอค่ะ”
“นมไม่เคยไปหรอกค่ะแต่นมได้ยินมาว่ามีคนกลุ่มไปมาเมื่อสักเดือนก่อนทางเมืองบูลวาต้องการความช่วยจากทางเรา พึ่งกลับมานี่เองเพค่ะ”
“ลูกไม้ น้องสาวพลทหารหินพึ่งกลับมาจากเมืองบูลวาเย็นนี้เพค่ะ” ดุสิตาถึงกลับตกใจจนเอามือมาปิดปากน้ำตาค่อยๆไหลออกมา เมื่อเธอมองที่ต้นเสียงที่เข้ามาในห้องภายในวัง ต่างกันกับลานุสีหน้านั้นไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“ถวายความเคารพต่อท่านลานุ” สอพูดด้วยน้ำเสียงที่ปกติ
“ถวายความเคารพต่อท่านหญิงดุสิตาด้วยพลทหารสอ” ท่าลานุพูดขึ้น
“สวัสดี ดุสิตา” สอพูดด้วยน้ำเสียงที่ปกติ
“ท่านหญิง ดุสิตา”ลานุกล่าวย้ำที่ยศของดุสิตาที่ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ
“สวัสดีสอ เป็นอย่างไงบ้าง สบายดีมั้ย?”ดุสิตาทักทาย
“ข้าพระพุทธเจ้าสบายดีเพค่ะขอบพระทัยเพค่ะ”
“ท่านหญิงดุสิตา”สอกล่าวคำทักทายดุสิตา
“สอ ใช้คำพูดแบบปกติก็ได้”
“ตา ตารู้จักคนนี้ด้วยหรอ?”ลานุเริ่มสงสัย
“ข้าอยากจะทำให้พระองค์ทั้ง2ใจเข้าพระทัยวันนี้ข้าพระพุทธเจ้ามาเพื่อสนองราชโอการของท่านลานุเพื่ออย่างเดียวเท่านั้นนี่คือจุดประสงค์ของข้าพระพุทธเจ้าในวันนี้เท่านั้น ในฐานะพลทหารสอ สังกัดกรมทหาร”
“สอ” ดุสิตาตัดพ้อ
“นี่คือดาบที่พระองค์ทรงโปรดที่จะให้กรมทหารตีถวาย”สอหยิบดาบออกมา ใส่พานที่นมวางไว้ให้ ลานุมองสออย่างสงสัยถึงความใจเย็นของสอแล้วไปถึงนมส่วนดุสิตานั้นยังคงร้องไห้เสียใจ
“สอ สออย่าทำแบบนี้” ดุสิตาอ้อนว้อน
“ข้าพระพุทธเจ้าหมดธุระแล้ว ขอถวายความเคารพ”สอแสดงความเคารพต่อทั้ง2
“อย่าพึ่งไป”ลานุสั่งสอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
“หากพระองค์อยากรู้เรื่องอื่นนั้นข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชนุญาติจากพระองค์ ในการใช้ศัพท์สามัญ และไม่มีการลงโทษตัวข้าพระพุทธเจ้าในด้านราชการทหารเพราะถ้าเป็นเรื่องอื่น ข้าพระพุทธเจ้า คือ สอ เพื่อนที่สนิทที่สุดของดุสิตาไม่ใช่พลทหารสอในกรมทหาร”
“หมายความว่าอะไร เพื่อนที่สนิทที่สุด อธิบายให้เราฟังเดี๋ยวนี้” ลานุถามสออย่างตรงไปตรงมา
“ผมสนิทกับตา มาสักระยะหนึ่งสิ่งที่ท่านเข้าใจถูกต้อง ผมและตาเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันดังนั้นการที่ตามาอยู่ที่วังของท่าน มันทำให้ผมลำบากอยู่เล็กน้อย”
“สิ่งที่ผมพอจะทำได้ในฐานะเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง คือการทำให้แน่ใจว่าตามีความสุขผมคิดว่าท่านก็มีความรู้สึกเดียวกันกับผม ถูกต้องหรือไม่” สอตั้งคำถามกับลานุ
“ผมที่สิ่งที่จะขอท่าน1อย่างท่านจะทำให้ผมได้หรือไม่?” สอขอร้อง
“ได้ แต่หลังจากคำถามนี้” ลานุต่อรอง
“ผมขอให้คำขอร้องก่อนได้หรือไม่?”สอต่อรอง
“ว่ามา”
“ดุสิตาต้องมากับผม 1 วันในวันพรุ่งนี้”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in