เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ยิงสิ ศึกปืนนองเลือด(1)KCD.JOR
มื้อเย็น
  • “ตรงหน้า วันทยหัตถ์”คำสั่งของสอดังขึ้น

    “เจอตัวจนได้นะ” ลานุกล่าวทักทายสอ

    “เป็นพระกรุณาที่ท่านมาให้กำลังใจ”สอพูดออกมาด้วยคำหนักแน่นทั้งๆที่รู้แล้วช้างตกมันที่สอกับหินพูดคุยล้อเลียนตลอดทางก่อนมาที่โรงอาหารนั้นคือเจ้าชายลานุกษัตริย์ผู้ที่จะครองเมืองกาลบุรีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ดูเหมือนไม่กลัวเลยสักนิ

    “ทำตัวตามสบายก็ได้ทุกคนโดยเฉพาะคนนั้นอ่า” ลานุสังเกตความผิดปกติของทหารนายหนึ่งลานุชี้นิ้วไปทางทหารคนนั้น

    “หินเพค่ะ พลทหารหิน” สอแนะนำหินเพื่อนรุ่นพี่ให้ลานุ หินก็ยังคงรับความจริงนั้นไม่ได้

    “ที่เรามาหาพวกเจ้ามีอยู่2เรื่อง”ลานุเริ่มกล่าวถึงจุดประสงค์ของการมาที่กรมทหาร หินก็ยังคงสั่นไม่เลิก

    “เรื่องแรกคือ เราอยากให้พวกเจ้าตีดาบให้เจ้านี้ให้หน่อย”

    “เจ้าไหนเพค่ะ?”คำถามที่ทุกครั้งลานุพูดขึ้นมาถูกถามอีกครั้งโดยสอ

    “ทำไมทุกครั้งต้องถามตลอดห่ะ เจ้านี้”ลานุชูตุ๊กตาขึ้นมา

    “ให้กับไอ้เจ้านี้หรอเพค่ะ”สอถามขึ้นมาอย่างตกใจและสงสัย

    “ใช่ เอาแบบที่ถือแล้วหล่อๆเลยนะ”

    “ท่าน ท่านมาที่นี้ทำไมเพค่ะ”สอถามลานุตรงๆ

    “พอได้แล้วเจ้าสอ”เจ้ากรมทหารรีบพูดตัดบท

    “มึงจงรับราชโอการของเจ้าชายลานุแล้วรีบตีดาบโดยเร็ว เข้าใจมั้ย?” เจ้ากรมทหารสั่งสอ

    “แต่ว่า...” สอต่อรอง

    “มึงไม่ต้องมาต่อรองรีบรับราชโอการเดี๋ยวนี้” ลานุยิ้มมุมปากพร้อมกับมองไปที่ดุสิตาขณะที่เจ้ากรมทหารใช้อำนาจและตำแหน่งกดดันสอ

    “รับราชโอการ ท่านลานุ รีบว่าเรื่องต่อไปเพค่ะ”สอเริ่มใช้อารมณ์ในการพูด

    “เรื่องที่2คือเรื่องผู้หญิงคนนี้”ลานุเริ่มที่จะพูดเรื่องนี้ เดินเข้าไปใกล้ๆสอ ราวกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างลานุกับสอ

    “ข้าอยากบอกพวกเจ้าทุกคนว่า ดุสิตาผู้หญิงคนนี้ เป็นเพื่อนที่สนิทมากของข้า รู้ไว้ด้วยนะ” ท่านลานุกล่าว

    “ดุสิตา เป็นของฉัน” ลานุจบคำพูดนี้ด้วยการกระซิบบอกสอสอได้เพียงแต่กำหมัดแน่น สอทำอะไรไม่ได้เลย ณ ตอนนี้ หินก็ยังคงสั่นต่อเนื่อง

    “ดูเหมือนคำพูดของเราคงทำให้พวกนายทุกคนเข้าใจเรา” ลานุปิดท้าย

    “เข้าใจเพค่ะ” พลทหารทุกคนประโยคบอกเล่าของลานุเพราะทุกคนก็ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ทุกคนรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องระหว่างท่านลานุกับสอ 2 คนเท่านั้น

    “เข้าใจใช่มั้ย สอ” ลานุมาถามย้ำกับสอเพราะสอเป็นเพียงพลทหารคนเดียวที่ไม่ตอบ

    “พอได้แล้วนุ” ดุสิตาเริ่มออกมาห้าม

    “ทุกคนเข้าใจแล้ว ตาอยู่ตรงนี้ตาเห็นอยู่ว่าทุกคนตอบนะ”

    “เข้าใจแหละตานั้นเราฝากเรื่องดาบด้วยนะ ถ้าทำเสร็จแล้วเอาดาบมาให้เราที่วังนะ” ลานุย้ำอีกครั้ง

    “ไปเถอะท่านลานุ” นมกล่าว

    “ไปตา กลับวังกัน” ลานุบอกดุสิตาพร้อมกับจูงมือดุสิตาต่อหน้าสอออกไปจากกรมทหาร

    “ตั้งหน้า วันทยหัตถ์” คำสั่งที่ผิดนั้นดังขึ้นแต่ครั้งนี้ไม่ใช่คำสั่งของสอ แต่เป็นคำสั่งมาจากหินเพราะสออยู่ในสภาพที่ไม่สามารถทำอะไรแล้ว สอรู้สึกเหมือนเป็นผู้แพ้ทั้งฐานะที่สู้กันไม่ได้แม้แต่น้อย ลานุเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปส่วนสอเป็นเพียงแค่พลทหารที่ต้อยต่ำ

     

    พฤติกรรมทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งด้านหน้าของกรมทหารและในโรงอาหารเจ้ากรมทหารสังเกตพฤติกรรมของทั้งเจ้าชายลุและสอ

    “ช่างน่าขำยิ่งหนักท่าน” เจ้ากรมทหารอธิบายให้ภาคีขุนนางผู้ที่ปฏิบัติราชการแทนลานุ

    “เหลือเวลาอีกไม่กี่ปีแล้วก่อนที่เจ้าชายลานุจะกลับมาขึ้นครองราชย์” ภาคีเริ่มคิดถึงอนาคตอันใกล้

    “ท่านมีแผน” เจ้ากรมทหารสงสัย

    “แน่นอนท่าน ท่านได้ประโยชน์แน่นอนตอบแทนในสิ่งที่ท่านให้มา ครั้งนี้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน อ้าวกินๆๆ”ภาคีชวนเจ้ากรมทหารกินอาหารมื้อค่ำในที่พักของภาคี

  • “มึงรู้แล้วว่าชายที่มึงเจอหน้ากรมนั้นคือท่านชายลานุแล้วมึงจะเอาไงต่อ” หินถามสออย่างตรงๆหลังจากฝึกซ้อมในช่วงเย็นเสร็จ

    “กุก็จนปัญญาเหมือนกัน กุแค่คนธรรมดาท่านเป็นถึงเจ้าชาย กุจะทำอะไรได้ว่ะ” สอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแอ

    “กุก็ว่ามึงควรทำแบบนั้นแหละจากกิริยาของท่าน ท่านน่าจะจำมึงได้ แม้ว่าจะเป็นเวลาสั้นๆที่มึงพูดถึงชื่อตาเหตุการณ์ที่โรงหารอีก ท่านคงจะหวงตาอย่างอะไรกะอะไร มึงตัดใจเถอะ” สอฟังแล้วก็หหงุดหงิด

    “กุ จะ ไม่ ตัด ใจ จาก ตา”

    “มึงบ้าหรอว่ะท่านลานุคือกษัตริย์ของเราในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านะเว้ย เดี๋ยวมึงก็โดน..”หินเตือนสอด้วยความเป็นห่วง

    “กุจะโดนไร มึงบอกกุสิ”

    “มึงตัดใจเถอะ ผู้หญิงๆสวยๆมีอีกตั้งหลายคนไอ้ไม้น้องสาวกุก็สวยนะเว้ย ทำอาหารก็อร่อย งานบ้านก็ไม่มีที่ตินี่กุเห็นมึงเป็นเพื่อนเลยนะเนี่ย” หินพยายามดึงสอมาทางน้องสาว กล้วยไม้

    “กุมีตาแค่คนเดียว กุจะมีตาแค่คนเดียว”สอยังคงยืนยันคำเดิม

    “สอ สอ สออยู่ไหน”เสียงเรียกของใครดังขึ้นอยู่บริเวณหน้ากรมทหาร ที่เกิดเหตุ

    “ตา” สอและหินตอบรับเสียงร้องพร้อมกัน

    “สอ.. สวัสดีหิน”

    “กุควรอยู่ตรงนี้มั้ย?” หินถามทั้ง2เพราะดูทรงแล้วทั้ง2มีเรื่องที่ต้องเคลียกัน น่าจะยาวเรื่องนี้

    “เดี๋ยวกุไปหามึงที่บ้านไอ้หิน” หลังจากที่หินได้คำตอบแล้วหินที่ออกจากวงสนทนาโดยภาวนาให้สอใจเย็นกับดุสิตา ซึ่งมันน่าจะเป็นอย่างงั้น

    “สอ วันนี้สอซ้อมเป็นไงบ้าง ซ้อมเหนื่อยมั้ย?”ดุสิตาถามพร้อมกับเซ็ดหน้าของสอด้วยผ้าเช็ดหน้า

    “เหนื่อย ทั้งกายทั้งใจ”ไอ้สอนี่ก็ประชดเล็กน้อย

    “อยากจะคุยตรงนี้หรือจะไปคุยที่ร้านของตา”

    “ที่ร้านของตาก็ได้ สอหิวข้าว”

    “ปะ เดี๋ยวไปกินข้าวกินน้ำที่ร้าน”ทั้ง2เดินออกจากบริเวณหน้ากรมทหาร

     

    ร้านของดุสิตาก็คือบริเวณหน้าบ้านของดุสิตาและพ่อโดยใช้พื้นที่เล็กน้อยเป็นร้านอาหารและมีน้ำเมาบ้างเล็กน้อยมีประมาณได้3-4โต๊ะ ร้านเล็กๆง่ายๆเพราะเงินส่วนมากก็มาจากทางวัง

    “พ่อ หวัดดีคับ” สอกล่าวสวัสดีพ่อของดุสิตา

    “อ้าวไอ้สอ มึงมาได้ไงเนี่ยลูกกุไปพามาไง” พ่อของดุสิตาก่อนที่เธอจะเดินตามมาทีหลัง

    “ลูกกุเนี่ยเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย555 อ้าวอยากกินอะไร เดี๋ยวทำให้กิน”

    “เอาเหมือนเดิมเลยพ่อและก็เอาน้ำมาให้สอด้วยนะ” ดุสิตาบอกพ่อแทนสอผู้ที่หน้าตาบ่งบอกว่าอยากจะระบายทุกอย่างออกมาจากอกอันที่แสร้งว่าหนักแน่นนี้

    “กินก่อนนะสอ พักให้หายเหนื่อยก่อน”ดุสิตาบอกสอก่อนที่จะลุกไปจากโต๊ะนั้นแต่มือของสอดึงเธอไว้ไม่ให้ไปไหน

    “อย่าพึ่งไปไหน”สอบอกดุสิตาด้วยน้ำเสียงที่หมดแรง มือของสอและดุสิตาจับกันอย่างแน่นแต่ไม่ได้แน่นจนทำให้ดุสิตาโอดร้องว่าเจ็บ แต่มันเป็นความรู้สึกแน่นที่บ่งบอกว่าคิดถึงมาก มาก มากจริงๆ

    “สอไม่รู้ว่าสอควรทำอย่างไง”สอเริ่มที่จะอธิบายความรู้สึกตัวเอง

    “ตอนแรกสอไม่รู้สอไม่รู้ว่าตาเป็นเพื่อนที่สนิทของท่านลานุ”

    “สอเลยไม่รู้ว่าสอควรทำตัวอย่างไงสอควรออกมาเจอตาบ่อยเหมือนเดิมมั้ย สอควรออกมาหาตาทุกเที่ยงเหมือนเดิมมั้ย เพราะสอไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ที่เจ้าชายลานุจะออกมาโดยเฉพาะที่กรม ท่านรู่แล้วว่าสออยู่ที่นั้นท่านรู้แล้วว่าสอเป็นทหารฝึกอยู่ที่นั้นวันนั้นโชคดีแค่ไหนแล้วที่เอาตัวรอดมาจากเหตุการณ์นั้นได้ สอไม่รู้จริงๆ”สอเริ่มที่จะร้องไห้ออกมาเล็กน้อยตามคำพูด

    “แต่ความรู้สึกของตายังเหมือนเดิมนะ”ดุสิตาเป็นฝ่ายเริ่มพูดบ้าง

    “ตารู้สึกเหมือนกันกับสอเลยตาไม่รู้เลยว่าท่านนุจะออกมาเมื่อไหร่ตาจะไปหาสออีกครั้งได้เมื่อไหร่โดยไม่มีท่านนุมาจับผิด”

    “ตาบอกสอได้เลยนะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตา ใจของตาจะนึกถึงสอ เสมอและตลอดเวลา”

    “สอจะต้องเป็นทหารที่จงรักภัคดีกับท่านลานุนะเป็นทหารที่คอบปกป้องแผ่นดินนี้”

    “ช่วงนี่มันอาจจะลำบากระหว่างเรา2คนหลังจากนี้แต่ไม่ใช่ว่าเราจะเจอกันไม่ได้ สอยังเจอตาได้อยู่ ตาก็ยังเจอสอได้อยู่แม้ว่าตาจะย้ายเข้าไปอยู่ในวัง” ดุสิตาเอยความลับออกมาจนได้

    “อะไรนะตา ตาจะย้ายไปอยู่ในวังชองท่านลานุหรอ”สอตกใจอย่างมากเมื่อได้ยินประโยคนั้นออกมาจากปากของดุสิตา

    “ยังไงตาก็ต้องบอกสอนั้นคือเหตุผลว่าทำไมตาไปหาสอวันนี้ที่กรม”

    “เพราะว่าตารักสอมากไงตาถึงจะมาบอกว่าตาอยู่ทีไหน สอจะได้มาหาตาได้” แก้มของสอเริ่มแดงแดงพอๆกับแก้มที่มันน่าหยิกของดุสิตา

    “สอฟังตานะ อีก2ปีข้างหน้าจะมีการสอบทหารเพื่อที่จะเข้าไปเป็นทหารขุนนางชั้นในวัง สอต้องฝึกซ้อมให้เยอะและสอบให้ได้นะสอทำให้ตาได้มั้ย?” ดุสิตาขอร้อง

    “ตาคงอยู่ลำบากอีก2ปีข้างหน้าแต่ตาทนได้ ตาทนลำบาก2ปี แต่ได้แค่2ปีเท่านั้นนะ หลังจากนั้นตาคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้เห็นสอสอสัญญากับตานะว่าจะสอบให้ได้ สัญญานะ”จานอาหารและเครื่องดื่มที่พ่อของดุสิตาทำให้มาวางอยู่ที่โต๊ะพ่อของดุสิตาเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างดีและนี้คือการตัดสินใจที่ดีที่สุด

    หลังจากฟังความจริงทั้งหมดจากปากดุสิตาแน่นอนสอไมได้เตรียมพร้อมมาก่อน ถึงเตรียมพร้อมก็ไม่ใช่เรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้หมายความว่าสอจะไม่ได้เจอดุสิตาเลย2ปีแย่ไปกว่านั้นดุสิตายังต้องไปอยู่กับเจ้าชายลานุ คู่แข่งหัวใจหมายเลข1ของสอและการที่จะไปสอบนั้นเป็นเพียงทางเดียวที่ทำจะให้สอเจอกับดุสิตาอีกครั้งแต่นั้นก็เป็นเวลาอีกตั้ง2ปีแม้ดุสิตาสัญญาก็ตามเถอะว่าความรู้สึกต่อสอจะยังคงเหมือนเดิม

    สอจึงสลัดมือที่จับดุสิตากันมาตลอดการสนทนานั้น

    มือทั้ง2นั้นมาประกอบกันอยู่ที่แก้มที่น่าหยิกของดุสิตาเช็ดคราบน้ำตาของดุสิตา

    “สอสัญญา”

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in