เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Let's Review!NickyWit
ฉลาดเกมส์โกง = หรือเราจะตั้งใจโกงมันตั้งเเต่เเรกเเล้ว
  • ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ข้อสอบของ Let's Review! ค่ะ
    ข้อสอบฉบับนี้มี 4 ส่วน...ซึ่งครึ่งหนึ่งของข้อสอบฉบับนี้เป็นเเบบไม่เปิดเผยเนื้อหาใดๆของภาพยนตร์เรื่องนี้


    ถ้าพร้อมเเล้ว...เริ่มทำข้อสอบได้ค่ะ :)
  • ส่วนที่ 1 ประเด็นที่ว่าด้วยเรื่องการโกง + บันทึกสั้นหลังดู

    "บันทึกสั้นหลังดู #ฉลาดเกมส์โกง
    เป็นหนังที่ตบฉาดใหญ่มากให้การศึกษาไทยตอนนี้เลยละ"

    นั่นมันเเค่บันทึกสั้นหลังดู (หลังเดินออกจากโรงด้วยซ้ำ) แต่ของจริงอยู่หลังจากบรรทัดนี้ไปต่างหาก... ซึ่งไม่มีสปอยล์ใดๆ จากหนังนะจ๊ะ. 

    ประเด็นเรื่องการโกงกันไปโกงมา ทุจริตนั่นทจุริตนี่ หรืออื่นๆใดที่มาด้วยการกระทำโดยมิชอบทั้งหลายนั้น ย่อมเป็นเรื่องที่สังคมเรามองว่ามันธรรมดาไปเสียเเล้ว แต่รู้ทั้งรู้ว่ามันผิด...เรากลับทวีความรุนเเรงของการกระทำนั้นให้มันมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่สนว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น ผลกระทบที่ตามมากลับทำลายชื่อเสียง อนาคตของใครคนหนึ่งที่ทำมันลงไป (ซึ่ง..อาจกระทบถึงคนอื่นๆตามมาก็เป็นได้) และประเด็นที่เห็นชัดที่สุดคือเรื่องของอำนาจในเงิน เงินเป็นตัวกำหนดทุกสิ่งทุอย่างในชีวิตเราในปัจจุบันนี้จริงๆค่ะ เงินสามารถทำให้ใครคนหนึ่งเปลี่ยนเป็นอีกคนได้ในชั่วพริบตาเดียว ในชั่วข้ามคืนนั้นเลยเสียด้วยซ้ำ 

    ทีนี้..ขออนุญาตถามทุกท่านกลับไปค่ะว่า 
    "จงอธิบายการโกงที่ร้ายเเรงที่สุดที่ท่านเคยประสบหรือเคยทำมาพอสังเขป (20 คะเเนน)"

  • ส่วนที่ 2 : ว่ากันด้วยเรื่องความเต็มใจที่จะทำ กับความเข้าใจว่าการกระทำนั้นเรียกว่าโกงกัน
    (แอบมีสปอยล์ แต่พูดถึงตัวละครในหนังเเละขออนุญาตหยิบยกทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์มาอธิบายเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น)

    ว่ากันด้วยความเต็มใจ ทำให้เรานึกถึงคำหนึ่งในหนังสือเศรษฐศาสตร์นั่นคือคำว่า "ความเต็มใจที่จะจ่าย  (willingness to pay)"  ซึ่งความเต็มใจที่จะจ่ายคือการที่ผู้บริโภคมีความยินดีที่จะยอมเสียสละเงินหรือทรัพย์สินที่ตนมีอยู่เพื่อแลกเปลี่ยนกับสินค้าหรือบริการต่างๆเหล่านั้นมาเพื่อใช้ในการบาบัดความต้องการของตน

    ถามว่าเกี่ยวอะไรกับเนื้อหา ... ถ้าลองสังเกตดีๆ ในช่วงเเรกๆของหนังที่ลินเข้าโรงเรียนใหม่ เเต่โรงเรียนนั้นไม่ได้มีการรับสมัครนักเรียนใหม่ (ไม่ใช่ลินสอบไม่ติด เเต่เรียนดีมาก) คุณพ่อของลินจึงจำเป็นต้อง "ฝากเข้า" กับท่านผอ. เเต่ข้อแลกเปลี่ยนของผอ.คือการให้ทุนเรียนฟรี อาหารกลางวันฟรี  ซึ่งนั่นทำให้พ่อของลินจำเป็นต้องจ่ายเพื่อให้ลูกสาวของเขาได้เรียนที่นั่น
  • ทีนี้..ขอถามกลับไปค่ะว่า "ถ้าท่านเป็นคุณพ่อของลิน จะยอมจ่ายเงินเพื่อเป็นข้อเเลกเปลี่ยนกับท่านผอ.โรงเรียนหรือเปล่า? (15 คะเเนน)"

    ส่วนที่ 3 สปอยล์หนักมากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!
    .(ข้อสอบชุดนี้มีเเค่สองส่วนเเรกเท่านั้นเเหละที่ไม่มีสปอย 555 )


    ขอต้อนรับเข้าสู่โหมดสปอยล์หนักมากค่ะ :)


    - สิ่งเเรกที่เห็นชัดมากสำหรับหนังเรื่องนี้คือ หนังเรื่องเต็มไปด้วยการเสียดสีทั้งเรื่อง ตั้งเเต่การเสียเงินเเป๊ะเจียให้กับผอ. โดยที่เราเรียกมันเเบบเท่ๆว่า "เงินค่าบำรุงสถานที่/เงินบำรุงการศึกษา"  หรือเเม้กระทั่งตอนที่ลินเองเห็นข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ที่เหมืิอนกับชีทที่อาจารย์สอนพิเศษชัดๆ (ถ้าในชีวิตจริงคงเสียเปรียยบเเน่ ถ้าไม่ได้เรียนพิเศษกับอาจารย์ท่านนั้น ...)

    - การที่เกรซมาขอให้ลินช่วยสอนพิเศษให้ (เเต่ที่จริงเเล้วมาขอลอกข้อสอบจากลินต่างหาก (#จะขอลอกก็พูดตรงๆก็ได้นะ) เท่ากับเป็นจุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้เเล้วละ พ่วงกับที่ลินโกรธพ่อเรื่องที่ยอมจ่ายค่าเเป๊ะเจียให้ถึงสองเเสนบาท เพื่อให้ตัวเองเข้าเรียนเลยเกิดพฤติกรรมที่ "ผิด" แต่ "ถูกใจ" คนหมู่มากตามมา โดยเริ่มจากเกรซจนพฤติกรรมนี้แสดงออกหนักขึ้นเรื่อยๆ และลามไปถึงเเฟนหนุ่มของเกรซ (พัฒน์) เพื่อเป็นธุระจัดหาลูกค้าในการร่วมขบวนการโกงของพวกเขา


    - และสิ่งนี้เองจึงเป็นเหตุให้เห็นว่า "ต้นทุนชีวิต" นั้นเป็นประเด็นสำคัญมากจริงๆ .. เหมือนเปรียบเทียบว่าใครมีต้นทุนต่ำกว่าย่อมต้องพยายามมากกว่า ส่วนใครที่มีต้นทุนสูงกว่านั้นเเทบไม่ต้องพยายามอะไรเลย สังเกตได้จากเเบงค์ที่เริ่มจากคนที่ต้นทุนต่ำกว่า เเต่กลายเป็นคนที่หน้าเงินได้เพียงพริบตาเดียว

     
  • ส่วนสุดท้าย : สิ่งที่ได้รับจากหนังเรื่องนี้ (สปอยล์อีกเช่นกัน)

    โลกนี้มีทั้งความที่เราถูกใจกับสิ่งที่เราทำถูกต้องอยู่ เเต่คำว่า "ถูกใจ" มันมากกว่าความถูกต้อง เราเชื่อว่าเรายังสามารถทำสิ่งที่มันถูกต้องได้อยู่ ด้งนั้นสิ่งที่เราควรทำคือ เมื่อคนรอบตัวเราทำอะไร เเล้วมันถูก ก็ชมเชยเขา ให้กำลังใจเขา เเละเราเองก็ต้องยึดกับสิ่งที่ถูกต้องบ้างนะคะ :)

    เราเชื่อว่า ถ้ามีใครสักคนเดินไปบอกเเบงค์ว่าสิ่งที่ทำอยู่มันถูกต้องเเล้ว นิคเชื่อค่ะว่าเหตุการณ์คงไม่บานปลายไปถึงเรื่องการโกงข้อสอบ STIC ไกลถึงออสเตรเลียกับลินหรอกค่ะ บางทีเหตุการณ์เหล่านั้น อาจไม่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ เขาอาจจะหาทุนไปเรียนต่อที่อื่น หรือเขาก็ยังคงเด็กเรียนดี นักเรียนดีเด่นได้ต่อไปเรื่อยๆ

    ประโยคที่ลินบอกว่า " นี่มันไม่ใช่การโกง เพราะถ้าโกงต้องมีคนเสียผลประโยชน์" เป็นคำพูดทำนองว่า "อืมม ไม่เป็นไรหรอก ใครๆก็ทำกัน" หรือ "เราไม่ได้ทำอะไรผิดร้ายแรงสักหน่อย"  

    สุดท้ายเเล้วนั้นหนังเรื่องนี้บอกเราว่า ชีวิตเรามีทางเลือกไม่มาก ถ้าเราเลือกเเล้วทำสิ่งที่ถูกต้อง นั่นไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปค่ะ


      Extra Part : คุณเคยลอกข้อสอบใครหรือเปล่า "เคย" :)


    Rating :8.5/10 (หักคะเเนนตอนท้ายนิดหน่อย)
    บท : 9
    ภาพ/เสียง : 8.5




     
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in