เราเป็นคนชอบดูหนังเเนวเเฟนตาซี Sci-fi หรือ แนวสยองขวัญ-ลึกลับ แต่ นาน ๆ ที จะเปลี่ยนแนวมาดูการ์ตูนญี่ปุ่นบ้างตามโอกาส ก่อนหน้านี้ เราดูแค่ผลงานของ อ.มาโคโตะ ชินไค เพียง 2 เรื่อง คือ Your name และ 5 Centimeters per second หากใครเคยดูจะรู้ว่าเป็นผลงานแนวความรักโรแมนติกทั้งคู่ ยิ่งเรื่องที่สอง ดูกี่ทีก็เสียน้ำตา คราวนี้เราเลยอยากลองเปลี่ยนแนวดูบ้าง หลายเดือนมาแล้วที่เราเห็นคนแชร์ว่า แพลตฟอร์ม ชื่อดังอย่าง Netflix จะนำการ์ตูนญี่ปุ่นของ Studio Ghibli มาให้ได้ดูกันอีกครั้ง เราลองเลือกดูซัก 1 เรื่อง นั่นก็คือ…

“Spirited Away - มิติวิญญาณมหัศจรรย์”  สาเหตุที่เลือกเรื่องนี้ เพราะ มีคนพูดถึงกันเยอะมากว่าสนุก ให้ข้อคิดดี อีกทั้งยังได้รางวัลออสการ์สาขา “Best Animated Feature” ในปี 2003 อีกด้วย

เรื่องราวของเด็กผู้หญิงอายุ 10 ปี ชื่อ ชิฮิโระ กับพ่อแม่ของเธอซึ่งหลงเข้าไปในโลกของภูตผีโดยบังเอิญ แต่ทว่า พ่อและแม่ของเธอเผลอทำผิดกฎจึงต้องคำสาปกลายร่างเป็นหมู และตัวของเด็กผู้หญิงจำเป็นต้องทำงานในโรงอาบน้ำของแม่มด เพื่อชดใช้ และรอวันได้กลับสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง 

ทำไมพ่อกับเเม่ของชิฮิโระถึงกลายเป็นหมู? ความตะกละ และ ละโมบ คือ คำตอบที่ชัดเจนที่สุดหลายคนชอบคิดว่าเดี๋ยวค่อยมาชดใช้ หรือ จ่ายคืนทีหลังก็ได้ แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างในการหยิบหรือ กินของของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าชิฮิโระจะหวาดกลัวโลกแห่งภูตผีนี้มากแค่ไหน แต่ เธอก็ต้องต่อสู้ และ ใช้ความอดทนมากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เพื่อให้มีชีวิตรอด เห็นได้ชัดเจนจากฉากที่เธอไปของานจากแม่มดยูบาบะทำถ้าเป็นเราไปสมัครงานซักที่คงยอมแพ้ไปแล้ว เมื่อเจอคำด่าประมาณว่า โง่ ขี้เกียจ อ่อนแอ และ ไร้ประโยชน์ แต่นี่เด็กหญิงวัยเพียง 10 ขวบกลับไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ( ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก ) และ ขอร้องต่อจนแม่มดใจอ่อน 

หลังจากที่ทำงานไปได้ซักระยะ เธอก็แสดงความสามารถให้เห็นโดยการใช้ไหวพริบในการรับมือกับวิญญาณเน่าเหม็นสร้างความดีความชอบให้แก่โรงอาบน้ำเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีผีไร้หน้ามาเสนอทองให้แต่เธอกลับไม่เอา เพราะ ไม่ต้องการ ในขณะที่ วิญญาณตนอื่นต่างตาลุกวาวเมื่อได้รับข้อเสนอนั้น จนถูกผีไร้หน้าจับกิน เรื่องนี้สอนหลักการพื้นฐานในชีวิตคนเราเลยหล่ะ ถ้าอยากรวย ก็ควรจะทำงานอย่างสุจริตขยัน และ เก็บออม ไม่ใช่อยากรวยทางลัด จนเกิดเป็นปัญหา หรือ เกิดเป็นภัยอันตรายกับตัวเองในท้ายที่สุด 

ก่อนหน้าที่ชิฮิโระจะหลงเข้ามาในโลกภูตผี เธอเป็นเพียงเด็กธรรมดา ( ดูเหมือนจะเอาแต่ใจ ) แต่พอระยะเวลาผ่านไปเธอเติบโตขึ้นทั้งทางร่างกาย และ จิตใจ ได้ดึงศักยภาพที่ตัวเองมีออกมาใช้อย่างสุดความสามารถ เพราะ มีความกดดันเป็นแรงกระตุ้นทำให้เธอรู้ถึงคุณค่าของตัวเองรู้ว่าตัวเธอสามารถทำอะไรได้บ้างเมื่อเกิดเหตุการณ์หนึ่งขึ้นที่สำคัญเธอยังเป็นเด็กที่คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองอีกต่างหาก

อีกหนึ่ง animation ที่เราอยากแนะนำ คือ เรื่อง The promise neverland ( พันธสัญญาเนเวอร์-แลนด์ ) เรื่องราวของเด็กในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งที่อยู่อาศัยในความดูแลของคุณแม่ พวกเขาได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี และ มีความสุข แต่ เรื่องราวกลับพลิกผัน เมื่อ วันหนึ่งความจริงที่ว่า สถานที่แห่งนี้ แท้จริงก็เป็นเหมือนฟาร์มส่งออกอาหาร ถูกเปิดเผย โดยเด็กที่ออกไปจะกลายไปเป็นอาหารของพวกยักษ์ !!! ในโลกข้างนอก 

ตัวเอกเด็ก 3 คน ในเรื่องมีความเป็นตัวตนที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เด็กคนหนึ่งเก่งกีฬา รักพวกพ้อง แต่มองโลกในแง่ดีเกินไป เด็กคนหนึ่งฉลาดตัดสินใจเร็ว แต่กลับยอมแพ้ง่าย ในขณะที่เด็กอีกคน ชอบวางแผน แต่กลับมีร่างกายที่ไม่แข็งแรง 

“ไม่ต้องห่วง พวกเราจะหนีไปกันได้ครบทุกคนแน่นอน” ประโยค และ ความเชื่อนี้ แสดงให้เห็นว่า พวกเขามีกรอบความคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) ถึงแม้ว่า หนทางที่จะหนีนั้นริบหรี่เหลือเกิน แต่พวกเขากลับไม่ยอมแพ้ฝึกฝนตัวเอง และ พวกพ้อง ให้เอาชนะกับอุปสรรคจนวินาทีสุดท้าย

อิซเบลล่า หรือ หม่าม้าในสายตาเด็ก ๆ เเท้จริง คือ คนที่คอยส่งเด็กออกไปเป็นอาหาร มีอยู่ฉากหนึ่งที่นางพูดว่า ให้ใช้ชีวิตให้มีความสุข และ รอยอมรับชะตากรรมเสียดีกว่า ชีวิตที่มีอิสระไม่มีอยู่จริงหรอก จากคำพูดประโยคนี้มันทำให้เรากลับมาย้อนคิดว่า หลายครั้งที่ดูเหมือนชีวิตจะกำหนดเส้นทางมาให้เราเดินแค่ 1 กับ 2 แต่ที่จริงแล้ว เราสามารถสร้างเส้นทางที่ 3 ได้ด้วยตัวเองอีกนะ ถ้าเรามีความฝัน และ ความตั้งใจมุ่งมั่นที่มากเพียงพอ   

สุดท้ายเเล้ว เราก็อยากให้ทุกคนที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ได้ดูทั้ง 2 เรื่องสนุกไปกับมัน และ ในวันเวลาที่เราท้อถอย ก็อยากให้คิดว่า เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วจะยอมแพ้ต่อโชคชะตา หรือว่า จะเดินหน้าต่อเหมือนพวกเด็ก ๆ ไม่เเน่นะในเส้นทางที่ดูเหมือนมืดมน อาจจะสายรุ้งที่สดใสรออยู่ข้างหน้าก็ได้ :)