เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเล่าจากออดิทYour writer
ก่อนจะลาออก
  • การเติบโตเป็นเรื่องยาก
    การจะเป็นผู้ใหญ่ต้องใช้เวลา



    ปี 2021 นี้ เป็นปีแรกที่ฉันใช้ชีวิตช่วงปีใหม่ในฐานะผู้ใหญ่วัยทำงานอย่างเต็มตัว ฉันที่ก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงานก็เหมือนอลิซที่กำลังผจญภัยในแดนมหัศจรรย์ ทุกสิ่งช่างดูน่าสงสัย จนอดที่จะตั้งคำถามไม่ได้ไปเสียหมด และคำถามหนึ่งที่ฉันถามตัวเองมาตลอด คือ 'จะเอา CPA ไปทำอะไร?' จนถึงเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า ฉันเองก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ แต่หลังจากได้ดูคลิปนี้ คำตอบของคำถามนี้ก็ดูจะชัดเจนขึ้นมา



    'หากเป้าหมายในชีวิตของคุณ คือ การสามารถเลี้ยงดูตัวเอง เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างมีความสุข 
    CPA ก็คอบโจทย์ของคุณ' 

    ครั้งแรกที่ได้ยินประโยคนี้ ราวกับว่าฉันได้ย้อนกลับไปเห็นตัวเองเมื่อ 4 ปีก่อน ตอนที่ตัดสินใจจะเรียนบัญชีและตั้งเป้าที่จะเป็นออดิท (สมัยนั้น วางเพลนไว้ยาวจนถึงพาร์ทเนอร์เลยทีเดียว) แต่แล้วการเติบโตก็ทำให้ความคิดของฉันเปลี่ยนไป ตัวฉันที่เมื่อก่อนเคยพูดไว้ว่า 'ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน' เปลี่ยนเป็น 'อยากทำงานที่หนัก แต่เรามีความสุขกับงานที่ทำ' 'อาจจะไม่ใช่งานที่เริ่มต้นแล้วเงินดี แต่เป็นงานที่เราอยากจะเติบโตไปเป็นสิ่งนั้น เป็นงานที่เราอยากจะเรียนรู้'



    'เราแค่เหนื่อย หรือ มันไม่ใช่แล้วจริงๆ'

    ตอนที่ฉันตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า จะเปลี่ยน career path ฉันคิดว่า ตัวเองคิดอย่างรอบคอบและมีเพลนแล้วในระดับหนึ่งจึงตัดสินใจคุยกับที่บ้าน แต่วันนี้ หลังจากได้คุยกับญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ถามฉันว่า 'ปลายทางหนูอยากจะเป็นอะไร?' 'ไม่ได้อยากเป็น CFO แล้วหรอ?' และตัวฉันในสถานการณ์นั้นเหมือนน้ำท่วมปาก ฉันตอบไม่ได้เลย ไม่เหมือนคนที่คิดมาดีแล้วว่าจะลาออก คำถามเหล่านี้ บางเรื่องก็เป็นสิ่งที่แม้แต่ตัวฉันเองก็ได้ลืมไปแล้ว ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ ทำไมเราจึงควรปรึกษาคนรอบข้าง

    'ฉันอยากเป็นคนว่างงานที่มีเงินเดือนค่ะ' และตอนนี้ก็ยังอยากเป็นอยู่ นอกจากนี้ ฉันเองก็เคยฝันอยากเป็นผู้บริหารมืออาชีพค่ะ (อยากเป็นมนุษย์ทองคำนั่นเอง) ดังนั้น คิดย้อนกลับไปแล้ว ฉันเมื่อ 4 ปีก่อนที่คิดว่า การเรียนบัญชีและการได้ CPA จะพาฉันไปถึงจุดนั้นได้ในระยะเวลาอันสั้นก็แอบสมเหตุสมผลอยู่ประมาณหนึ่ง

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฉันได้ convey ออกไป ผู้รับสารรับรู้ได้ว่า 'ฉันไม่มีความสุขกับงานที่ทำ' และได้ถามฉันต่อว่า 'คิดว่าจะทนอยู่ถึง 3 ปีไหวไหม?' ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ฉันได้ลืมถามตัวเองไปแล้วว่า 'ยังไหวไหม?'
    ชีวิตการทำงานอันแสนบีบคั้นของออดิททำให้ฉันได้ลืมไปแล้วว่า เมื่อตอนก่อนจะคิดเรื่องลาออก หรือ แม้แต่คิดว่า ทำไมถึงจะลาออก ครั้งสุดท้ายที่ถามตัวเองเรื่องนี้คงจะเป็นเมื่อสองเดือนก่อน ซึ่งเวลาเปลี่ยน คนเราก็เปลี่ยน ทั้งที่เป็นคำถามที่ควรถามตัวเองอยู่ตลอดแต่กลับหลงลืมไป

    ก่อนจะตัดสินใจพูดคำว่า 'จะลาออก' ครั้งแรกกับตัวเองนั้น ฉันได้ตั้งคำถามขึ้นมาจำนวนหนึ่ง
    'จะเอา CPA ไปทำอะไร?'
    'การได้ CPA คุ้มค่ากับเวลา 3 ปีที่จะเอาไปลงทุนไหม?'
    'อาชีพที่อยากจะไปทำ เริ่มทำตอนนี้เลยจะดีกว่าไหม?'
    'CPA สร้างแต้มต่อให้กับเราจริงๆหรือเปล่า' ซึ่งคำถามนี้ ทำให้ตัวฉันที่เคยคิดว่า ถ้าจะลาออก ก็จะลาออกเพื่อไปเรียนต่อเท่านั้น เริ่มเข้าเว็บหางาน และจุดนี้เองที่นำมาสู่สถานการณ์ที่อันไม่มั่นคงทางใจของฉันในตอนนี้

    นอกจากนี้ ฉันได้เข้าไปอ่าน resume ของรุ่นพี่คนหนึ่งที่ทำงานในตำแหน่งและในองค์กรที่ฉันคิดว่า น่าสนใจและจะลองสมัครดู ทำให้ฉันค้นพบว่า ตัวเองช่าง unqualified เหลือเกินและยิ่งตอกย้ำว่า ฉันคิดน้อยไปในเรื่องชีวิตการทำงาน

    ฉัน ณ ตอนที่กำลังเขียนคอนเทนต์นี้อยู่ กำลังเริ่มคุยกับตัวเองใหม่อีกครั้งด้วยคำถามที่เปลี่ยนไป

    'เป้าหมายในการใช้ชีวิตของฉัน คือ อะไร?'

    'PV NBV ของสิ่งที่ฉันจะเปลี่ยนไปทำนั้น มันสู้ CPA ได้ไหม?'

    'เราไม่มีทางรู้เลยว่า จะเติบโตไปเป็นอะไร จนกว่าจะได้ลองทำมันจริงๆ'

    'ปฏิเสธไม่ได้นะว่า สายงานที่เราอยากจะเข้าไป connection เป็นเรื่องสำคัญมากและสิ่งนี้จะสร้างจุดอ่อนให้กับตัวเรา'

    'เราพร้อมที่จะเริ่มนับ 0 จริงๆหรอ?'

    'เราแน่ใจจริงๆแล้วหรอว่า Core ของงานนี้ ไม่ใช่ตัวเรา'




    แม้ฉันในตอนนี้จะยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนในทุกคำถาม แต่ก็ทำให้ความแน่วแน่ในการจะลาออกลดลงไปมาก แต่ก็ราวกับว่า ประตูอีกบานกำลังจะเปิดรับฉันเข้าไป และสิ่งหนึ่งที่ฉันได้จากวันนี้ คือ ฉันมีความมั่นใจที่จะ embrace ความเจ็บปวดจากงานออดิท เปิดใจที่จะฟังเสียงจากคนรอบตัวมากขึ้น และปลุกความเป็น goal-oriented ในตัวให้สว่างจ้าขึ้นอีกครั้ง

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Ingfah Ingfah (@fb4627727333945)
เข้าใจความรู้สึกและเป็นกำลังใจให้ในทุกๆการตัดสินใจนะคะ
Your writer (@nrejgni)
@fb4627727333945 ขอบคุณค่า ヅ ตอนนี้เราก็กำลังพยายามใช้ชีวิตแบบไม่กดดันตัวเองจนเกินไปอยู่ค่ะ 5555