เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Korea with 35mmSor Winchester
ม้วนที่ 1 : Fuji Color 400 japan
  • กะไม่ถูกเลยว่าวันแรกไปจะเจอสภาพแสงแบบไหน

    กดแอปดูมันบอกแดดออก  แต่จะไว้ใจได้ป่าววะ 

    ม้วนแรกเลยใส่ Fuji Color 400 japan  คิดว่าใส่ 400 นี่น่าจะไม่พลาด  เผื่อฝนตกขึ้นมาน่าจะยังรอด 
    ปรากฏว่าแลนดิ้งลง Gimhae International Airport (เมืองปูซาน) แล้วแดดแจ๋ 
    มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วรู้สึกสะใจมาก (ใจเย็นเว้ย) คิดว่าวันนี้คงจะได้รูปดี ๆ แน่นอน


    แต่เดินเข้ามาในสนามบินได้ไม่กี่ก้าวก็เจอตม.แล้ว  อ้าว ไม่มีทางเดินยาว ๆ แสงสวย ๆ ให้ถ่ายเลยเหรอ
    ตอนนั้นก็เลยต้องรื้อพาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสออกมาเตรียมตัวเข้าเมือง  เตรียมเอกสารให้พร้อมตอบคำถาม ตม. ที่เขาว่าโหดและเข้มงวดมาก ๆ  แถมแถวที่เราต่อก็ช้าเหลือเกิน  สงสัยเจ้าหน้าที่คงดุมากแน่ ๆ  คนข้างหน้าเจอหลายคำถามมาก  แต่ปรากฏว่าพอถึงเราก็ผ่านฉลุย  ไม่ถามอะไรเลยสักคำ  พอผ่านเข้ามาแล้วก็เลยไปล้างหน้าล้างตา  เติมหน้าสักหน่อยก่อนจะไปเอากระเป๋า ซึ่งตอนนั้นบนสายพานเหลืออยู่ 2 ใบ (ของเรากับเพื่อนนั่นเอง)


    เอาล่ะ  พร้อมแล้ว  ทีนี้ก็เข้าเมือง

    สะพายกล้อง 2 ตัวคล้องคอทั้งดิจิตอลและฟิล์ม  แดดดีขนาดนี้จะพลาดได้ไงวะ  แต่ก่อนอื่นต้องมองหาสถานีรถไฟก่อน  มองซ้ายมองขวา  อ้าว มันไม่เชื่อมต่อกับตัวอาคารแบบสนามบินนาริตะเหรอ  เลยลองเดินออกไปข้างนอกจึงมองเห็นป้ายและเห็นคนเดินลากกระเป๋ามาจากทางนั้น

    พอก้าวออกมาข้างนอกก็เจออากาศเย็น อืม...  เย็นกว่าที่คิด  เฮ้ย แสงกำลังดี  ขอกดสักหน่อยนะ


    ทฤษฎีรูปแรกดีเสมอ  นี่ยังคงใช้ได้ผล  คือออกมาดีกว่าที่คิด

    หลังจากนั้นก็เดินลากกระเป๋าไปทางที่มีคนเดินมาเยอะ ๆ  สรุปว่าตัวสถานีรถไฟจะอยู่ตรงข้ามอาคาร Domestic นี่เอง  ระยะทางไม่ไกลจากอาคาร International เท่าไหร่ ประมาณ 100-200 เมตร


    ปูซานเราเลือกพักกับ Airbnb  โฮสแนะนำว่าให้เดินทางด้วยรถไฟ  นี่ก็เชื่อเขา
    อันดับแรกต้องลงที่สถานี Sasang ก่อน  มองซ้ายมองขวาไม่เจอตู้ขาย Cash Bee 
    (IC Card คนละบริษัทกับ T-Money ; ลักษณะเดียวกับ Suica , Passmo ของญี่ปุ่น และ Easy Card ของไต้หวัน)
    เลยซื้อตั๋วโดยสารรายเที่ยวก่อนก็แล้วกัน  หน้าตาคล้าย ๆ เหรียญ MRT บ้านเรา



    เช็ดกระจกบ้างนะคะ


    แต่ข้างในก็สะอาดสะอ้านดี

    พอลงสถานี Sasang ก็ต้องเปลี่ยนสายไปลงสถานี Seomyeon ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อที่ให้ฟีลบีทีเอสสถานีอโศก หลังจากนั้นก็ไปลงสถานี Choryang  คุณโฮสบอกว่าให้เจอทางออก 10 เดี๋ยวเขาจะเอากระเป๋าไปเก็บให้ก่อน  พอถึงสถานีก็มัวแต่มองหาทางออก 10 จนมองไม่เห็นเขาและไม่ได้ยินเสียงเรียก  จนเพื่อนต้องหันไปตอบเขาแทนและตะโกนเรียกเรา  (เด๋อตั้งแต่แรกพบเลย)

    ปรากฏว่ามีคนไทยอีก 2 คนพักห้องของเขาเหมือนกัน  คุณคนนี้เขามี 6 ห้องมั้ง ซึ่งห้องพักทำเลดีมากกกกกกก ห้องก็ดีมาก มีทุกอย่างครบ บรรยากาศโดยรอบก็เงียบสงบ ถูกใจเรามาก ๆ (แต่ถ้าใครชอบอยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งอาจจะไม่ถูกใจ)  สถานีนี้อยู่ห่างจากสถานี Busan 1 สถานี  ตรงข้ามตึกมีมาร์ทที่ให้ฟีลประมาณ โลตัส เอกซ์เพรส  ถัดไปก็มีเซเว่น  อีกมุมก็มี C อะไรสักอย่างที่เป็นร้านสะดวกซื้อเหมือนกัน  และมีร้านกาแฟ 3 ร้าน  เออ... แค่นี้ก็พอใจแล้ว

    คุณโฮสบอกเราว่าห้องเรายังเช็คอินไม่ได้นะ  แต่เดี๋ยวเขาจะเอากระเป๋าไปเก็บให้ก่อนและให้คีย์การ์ดเราไว้  ว่าแล้วแกก็ยกกระเป๋าเรากับเพื่อนไปให้เลย  (จิตใจดีมาก)  ส่วนคนไทยอีก 2 คนที่มาพร้อม ๆ กันต้องยกไปเอง รู้สึกผิดกับเขานิดหน่อย  ระยะทางจากสถานีถึงอพาร์ตเมนต์นั้นใกล้สมราคาคุย  ประมาณ 100 เมตรเอง


    บรรยากาศรอบ ๆ ที่พักจะเป็นแบบนี้


    เก็บกระเป๋าเสร็จแล้วเราก็ต้องไปต่อ  เพราะภารกิจหลักของทริปนี้คือการได้ดู The Florida Poject ในงานเทศกาลหนังนานาชาติปูซาน (BIFF 2017) ซึ่งสถานที่จัดจะอยู่แถบหาดแฮอุนแดและ Busan Cinema Center  เราจองหนังรอบ 12.00 โมง  ตอนที่เก็บกระเป๋าเสร็จก็ประมาณ 9.30 ได้มั้ง  จึงต้องรีบเดินทางไป  Busan Cinema Center  กดดูในแอปแล้วใช้เวลาเดินทางอีกเกือบชั่วโมง  เลยบอกเพื่อนว่าถ้าไปไม่ทันก็ทำใจเนอะ  เราจองตั๋วมาจากในเว็บแล้วแต่ก็ต้องไปรับตั๋วจริงหน้างาน  ตอนนั้นหิวมากเพราะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่แลนดิ้ง  แต่...  ภารกิจติ่งของเรานั้นก็สำคัญมากเช่นกันเลยตกลงกันว่าเอาตั๋วให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน  5555


    พอถึงสถานี Centum City แล้วก็ตื่นตาตื่นใจกับวิว  วันนี้ฟ้าใสมาก  อ่ะ  ถ่ายรูปก่อน 
    แม้จะรีบแต่พอเห็นแสงสวย ๆ แล้วอดไม่ได้เนอะ



    มองเห็นคนกำลังติดโปสเตอร์ Thor : Ragnarok กับ Starwars อยู่ฝั่งตรงข้ามก็วิ่งข้ามถนนไปถ่าย 


    พอดูเวลาแล้วก็กลัวไม่ทันอยู่เหมือนกัน  เลยกด Kakao Map เป็นตัวช่วย (ที่นี่ใช้ Google Map ไม่ได้จ้ะ)
    ระหว่างทางก็ถ่ายนู่นถ่ายนี่ไปเพลิน ๆ  อากาศกำลังสบายเลย



    อ๊ะ  มาถึงแล้ว สีแดงสดใสมาก


    หลังจากนั้นก็ไปหาข้าวกินตรงห้างใกล้ ๆ งาน  เสร็จแล้วก็ตาลีตาเหลือกกลับมาดูหนัง
    เดินเข้าไป  หนังเริ่มพอดี  แถมในโรงยังมืดตึ๊บ  ที่นั่งก็ชันมาก  ชันกว่าอิมแพคอารีน่าอีก
    ตัวหนังสนุกมาก  ได้ฟังคุณ Chris Bergoch (คนเขียนบท) ตอบคำถามก็ยิ่งรู้สึกชอบตัวหนัง  พอออกจากโรงมาก็เจอเขายืนแจกลายเซ็นเลยไปร่วมแจมด้วย  ประทับใจมาก ๆ 


    เสร็จแล้วก็เดินออกมาดูบริเวณรอบ ๆ งาน  วันนี้เป็นวันที่ 2 และยังเป็นวันธรรมดา  คนเลยไม่เยอะมากเท่าไหร่


    ขายแต่อเมริกาโน  เข้าใจว่าคนที่นี่ชอบกินอเมริกาโน






    ลานตรงนี้วันแรกเขาใช้เป็นสถานที่เปิดงาน  มีดาราดัง ๆ มาเดินพรมแดง  ตอนนั้นก็ยืนมองไปรอบ ๆ แล้วถ่ายรูปไว้  เห็นเขาตั้งเก้าอี้ก็คิดว่าคงใช้เป็นที่ฉายหนังต่อแหละ  เห็นมีจอด้วย  ปรากฏว่าคืนนั้นมีฉาย Mother! รอบปฐมทัศน์ในเกาหลีใต้  และ Darren Arnofsky (ผกก.) ก็มาร่วมงานด้วย  โอ๊ยยย พลาดดดดด


    ม้วนแรกหมดแล้ว  นั่งเปลี่ยนฟิล์มข้างถนนนั่นแหละ :)


    สรุป  
    ม้วนแรก ออกมาเป็นที่น่าพอใจกว่าที่คิด  ใส่ 400 ยังไงก็รอด  วันนั้นแดดดีจนคิดว่าน่าจะใส่ 100 แต่ก็นั่นแหละ  เราไม่รู้ว่าเราจะเจอสภาพแสงแบบไหน  ถ้าเราใส่ 100 ฝนอาจจะเทลงมาก็ได้  ใครจะไปรู้






Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
WIDEWORLDtinyme (@cottonPanitta)
ก็ว่าทำไมใช้ Google Map ไม่ได้ตอนไป จำได้ว่าพอค้นทีไร มันจะให้เราขึ้นรถตลอดทั้งที่เราเดินเอาก็ได้ เพิ่งรู้ว่าควรใช้ Kakao map ขอบคุณค่า
Sor Winchester (@akkiesora)
@cottonPanitta เหมือนเคยอ่านเจอว่า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยจากประเทศข้างบนค่ะ 55555 แต่ Kakao Map มีแต่ภาษาเกาหลี ต้องงมกันนิดนึง
WIDEWORLDtinyme (@cottonPanitta)
@akkiesora อ่อ โอเคค่ะ ไว้ครั้งหน้าจะลอง ;)