กะไม่ถูกเลยว่าวันแรกไปจะเจอสภาพแสงแบบไหน
กดแอปดูมันบอกแดดออก แต่จะไว้ใจได้ป่าววะ
ม้วนแรกเลยใส่ Fuji Color 400 japan คิดว่าใส่ 400 นี่น่าจะไม่พลาด เผื่อฝนตกขึ้นมาน่าจะยังรอด
ปรากฏว่าแลนดิ้งลง Gimhae International Airport (เมืองปูซาน) แล้วแดดแจ๋
มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วรู้สึกสะใจมาก (ใจเย็นเว้ย) คิดว่าวันนี้คงจะได้รูปดี ๆ แน่นอน
แต่เดินเข้ามาในสนามบินได้ไม่กี่ก้าวก็เจอตม.แล้ว อ้าว ไม่มีทางเดินยาว ๆ แสงสวย ๆ ให้ถ่ายเลยเหรอ
ตอนนั้นก็เลยต้องรื้อพาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสออกมาเตรียมตัวเข้าเมือง เตรียมเอกสารให้พร้อมตอบคำถาม ตม. ที่เขาว่าโหดและเข้มงวดมาก ๆ แถมแถวที่เราต่อก็ช้าเหลือเกิน สงสัยเจ้าหน้าที่คงดุมากแน่ ๆ คนข้างหน้าเจอหลายคำถามมาก แต่ปรากฏว่าพอถึงเราก็ผ่านฉลุย ไม่ถามอะไรเลยสักคำ พอผ่านเข้ามาแล้วก็เลยไปล้างหน้าล้างตา เติมหน้าสักหน่อยก่อนจะไปเอากระเป๋า ซึ่งตอนนั้นบนสายพานเหลืออยู่ 2 ใบ (ของเรากับเพื่อนนั่นเอง)
เอาล่ะ พร้อมแล้ว ทีนี้ก็เข้าเมือง
สะพายกล้อง 2 ตัวคล้องคอทั้งดิจิตอลและฟิล์ม แดดดีขนาดนี้จะพลาดได้ไงวะ แต่ก่อนอื่นต้องมองหาสถานีรถไฟก่อน มองซ้ายมองขวา อ้าว มันไม่เชื่อมต่อกับตัวอาคารแบบสนามบินนาริตะเหรอ เลยลองเดินออกไปข้างนอกจึงมองเห็นป้ายและเห็นคนเดินลากกระเป๋ามาจากทางนั้น
พอก้าวออกมาข้างนอกก็เจออากาศเย็น อืม... เย็นกว่าที่คิด เฮ้ย แสงกำลังดี ขอกดสักหน่อยนะ
ทฤษฎีรูปแรกดีเสมอ นี่ยังคงใช้ได้ผล คือออกมาดีกว่าที่คิด
หลังจากนั้นก็เดินลากกระเป๋าไปทางที่มีคนเดินมาเยอะ ๆ สรุปว่าตัวสถานีรถไฟจะอยู่ตรงข้ามอาคาร Domestic นี่เอง ระยะทางไม่ไกลจากอาคาร International เท่าไหร่ ประมาณ 100-200 เมตร
ปูซานเราเลือกพักกับ Airbnb โฮสแนะนำว่าให้เดินทางด้วยรถไฟ นี่ก็เชื่อเขา
อันดับแรกต้องลงที่สถานี Sasang ก่อน มองซ้ายมองขวาไม่เจอตู้ขาย Cash Bee
(IC Card คนละบริษัทกับ T-Money ; ลักษณะเดียวกับ Suica , Passmo ของญี่ปุ่น และ Easy Card ของไต้หวัน)
เลยซื้อตั๋วโดยสารรายเที่ยวก่อนก็แล้วกัน หน้าตาคล้าย ๆ เหรียญ MRT บ้านเรา
เช็ดกระจกบ้างนะคะ
แต่ข้างในก็สะอาดสะอ้านดี
พอลงสถานี Sasang ก็ต้องเปลี่ยนสายไปลงสถานี Seomyeon ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อที่ให้ฟีลบีทีเอสสถานีอโศก หลังจากนั้นก็ไปลงสถานี Choryang คุณโฮสบอกว่าให้เจอทางออก 10 เดี๋ยวเขาจะเอากระเป๋าไปเก็บให้ก่อน พอถึงสถานีก็มัวแต่มองหาทางออก 10 จนมองไม่เห็นเขาและไม่ได้ยินเสียงเรียก จนเพื่อนต้องหันไปตอบเขาแทนและตะโกนเรียกเรา (เด๋อตั้งแต่แรกพบเลย)
ปรากฏว่ามีคนไทยอีก 2 คนพักห้องของเขาเหมือนกัน คุณคนนี้เขามี 6 ห้องมั้ง ซึ่งห้องพักทำเลดีมากกกกกกก ห้องก็ดีมาก มีทุกอย่างครบ บรรยากาศโดยรอบก็เงียบสงบ ถูกใจเรามาก ๆ (แต่ถ้าใครชอบอยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งอาจจะไม่ถูกใจ) สถานีนี้อยู่ห่างจากสถานี Busan 1 สถานี ตรงข้ามตึกมีมาร์ทที่ให้ฟีลประมาณ โลตัส เอกซ์เพรส ถัดไปก็มีเซเว่น อีกมุมก็มี C อะไรสักอย่างที่เป็นร้านสะดวกซื้อเหมือนกัน และมีร้านกาแฟ 3 ร้าน เออ... แค่นี้ก็พอใจแล้ว
คุณโฮสบอกเราว่าห้องเรายังเช็คอินไม่ได้นะ แต่เดี๋ยวเขาจะเอากระเป๋าไปเก็บให้ก่อนและให้คีย์การ์ดเราไว้ ว่าแล้วแกก็ยกกระเป๋าเรากับเพื่อนไปให้เลย (จิตใจดีมาก) ส่วนคนไทยอีก 2 คนที่มาพร้อม ๆ กันต้องยกไปเอง รู้สึกผิดกับเขานิดหน่อย ระยะทางจากสถานีถึงอพาร์ตเมนต์นั้นใกล้สมราคาคุย ประมาณ 100 เมตรเอง
บรรยากาศรอบ ๆ ที่พักจะเป็นแบบนี้
เก็บกระเป๋าเสร็จแล้วเราก็ต้องไปต่อ เพราะภารกิจหลักของทริปนี้คือการได้ดู The Florida Poject ในงานเทศกาลหนังนานาชาติปูซาน (
BIFF 2017) ซึ่งสถานที่จัดจะอยู่แถบหาดแฮอุนแดและ Busan Cinema Center เราจองหนังรอบ 12.00 โมง ตอนที่เก็บกระเป๋าเสร็จก็ประมาณ 9.30 ได้มั้ง จึงต้องรีบเดินทางไป Busan Cinema Center กดดูในแอปแล้วใช้เวลาเดินทางอีกเกือบชั่วโมง เลยบอกเพื่อนว่าถ้าไปไม่ทันก็ทำใจเนอะ เราจองตั๋วมาจากในเว็บแล้วแต่ก็ต้องไปรับตั๋วจริงหน้างาน ตอนนั้นหิวมากเพราะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่แลนดิ้ง แต่... ภารกิจติ่งของเรานั้นก็สำคัญมากเช่นกันเลยตกลงกันว่าเอาตั๋วให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน 5555
พอถึงสถานี Centum City แล้วก็ตื่นตาตื่นใจกับวิว วันนี้ฟ้าใสมาก อ่ะ ถ่ายรูปก่อน
แม้จะรีบแต่พอเห็นแสงสวย ๆ แล้วอดไม่ได้เนอะ
มองเห็นคนกำลังติดโปสเตอร์ Thor : Ragnarok กับ Starwars อยู่ฝั่งตรงข้ามก็วิ่งข้ามถนนไปถ่าย
พอดูเวลาแล้วก็กลัวไม่ทันอยู่เหมือนกัน เลยกด Kakao Map เป็นตัวช่วย (ที่นี่ใช้ Google Map ไม่ได้จ้ะ)
ระหว่างทางก็ถ่ายนู่นถ่ายนี่ไปเพลิน ๆ อากาศกำลังสบายเลย
อ๊ะ มาถึงแล้ว สีแดงสดใสมาก
หลังจากนั้นก็ไปหาข้าวกินตรงห้างใกล้ ๆ งาน เสร็จแล้วก็ตาลีตาเหลือกกลับมาดูหนัง
เดินเข้าไป หนังเริ่มพอดี แถมในโรงยังมืดตึ๊บ ที่นั่งก็ชันมาก ชันกว่าอิมแพคอารีน่าอีก
ตัวหนังสนุกมาก ได้ฟังคุณ Chris Bergoch (คนเขียนบท) ตอบคำถามก็ยิ่งรู้สึกชอบตัวหนัง พอออกจากโรงมาก็เจอเขายืนแจกลายเซ็นเลยไปร่วมแจมด้วย ประทับใจมาก ๆ
เสร็จแล้วก็เดินออกมาดูบริเวณรอบ ๆ งาน วันนี้เป็นวันที่ 2 และยังเป็นวันธรรมดา คนเลยไม่เยอะมากเท่าไหร่
ขายแต่อเมริกาโน เข้าใจว่าคนที่นี่ชอบกินอเมริกาโน
ลานตรงนี้วันแรกเขาใช้เป็นสถานที่เปิดงาน มีดาราดัง ๆ มาเดินพรมแดง ตอนนั้นก็ยืนมองไปรอบ ๆ แล้วถ่ายรูปไว้ เห็นเขาตั้งเก้าอี้ก็คิดว่าคงใช้เป็นที่ฉายหนังต่อแหละ เห็นมีจอด้วย ปรากฏว่าคืนนั้นมีฉาย Mother! รอบปฐมทัศน์ในเกาหลีใต้ และ Darren Arnofsky (ผกก.) ก็มาร่วมงานด้วย โอ๊ยยย พลาดดดดด
ม้วนแรกหมดแล้ว นั่งเปลี่ยนฟิล์มข้างถนนนั่นแหละ :)
สรุป
ม้วนแรก ออกมาเป็นที่น่าพอใจกว่าที่คิด ใส่ 400 ยังไงก็รอด วันนั้นแดดดีจนคิดว่าน่าจะใส่ 100 แต่ก็นั่นแหละ เราไม่รู้ว่าเราจะเจอสภาพแสงแบบไหน ถ้าเราใส่ 100 ฝนอาจจะเทลงมาก็ได้ ใครจะไปรู้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in