เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
JamSung Short Storyicypumpkin
Promise [JamSung]
  • Title: Promise
    Theme: Fictober
    Author: icypumpkin





    "จีซองอา ตื่นมากินข้าวได้แล้ว" จังหวะการเรียกชื่อที่เคยคุ้นทำเอาคนที่นอนอยู่หันหนี พยายามซุกตัวลงกับหมอนใบโตและผ้านวมผืนหนา

    "ห้านาทีนะฮะพี่แจมิน" ก่อนมืออุ่นจะแตะลงบนบั้นท้ายและตบเบาๆ

    "เดี๋ยวก็ไปสายแล้วก็หาว่าพี่ไม่ปลุกเราอีก" นาแจมินก้มตัวลงกดจูบลงบนกลุ่มผมนุ่มที่โผล่พ้นผ้านวม ไล่ไปยังหน้าผากมน ขมับ จมูกโด่งแสนรั้น เลื่อนไปหาแก้มนุ่มที่เขาแสนรักพร้อมกับดูดดึงเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยวและจบท้ายที่ริมฝีปากอิ่ม ค่อยๆขบเม้ม ดูดดึง หยอกเย้าก่อนจะรุกไล่ต้อน


    "มอร์นิ่งคีสครับ ลุกได้แล้วเร็ว ไม่งั้นพ่ี่ไม่หยุดเท่านี้นะ" เพียงเท่านั้นคนขี้เซากระเด้งตัวขึ้นนั่งตัวตรงเก้าสิบองศาทั้งที่ผมยังฟูไม่เป็นทรง เรียกรอยยิ้มจากคนมองได้ไม่ยาก

    "ขี้โกง ชอบขู่ผม"

    "พี่ไม่ได้ขู่เลยนะ" คนตรงข้ามกล่าวพร้อมรอยยิ้มกว้าง ทำเอาจีซองเบะปาก เพราะรู้ดีแก่ใจนาแจมินพูดจริงทำจริงเสมอนั่นแหละในเรื่องการเอาเปรียบเขาน่ะ

    "ผมยังง่วงอยู่เลยอะ" ยังไม่วายงอแงเผื่อคนฟังจะเห็นใจ

    "พี่ทำกับข้าวเสร็จแล้ว อาบน้ำแต่งตัวแล้วถึงเพิ่งปลุกเรานะ ไปครับ ไม่งอแงแล้ว เดี๋ยวไปเรียนสาย วันนี้มีควิซด้วยไม่ใช่หรอ" พูดจบก็อดขำกับปฏิกิริยาตอบรับของคู่สนทนาไม่ได้ ดวงตารีเรียวนั่นกระพริบหนึ่งทีก่อนจะเบิกโพลง รีบตวัดผ้าห่ม หยิบผ้าเช็ดตัวและวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที

    รู้งี้เขาน่าจะพูดเรื่องนี้ตั้งแต่แรก



    "กินข้าวบนรถได้ไหมฮะ เดี๋ยวไปสายอะ" สิ่งที่คิดเคยผิดที่ไหนกัน

    "ครับ ทราบแล้วครับคุณหนู พี่จัดข้าวใส่กล่องไว้ให้แล้ว หยิบกระเป๋าแล้วขึ้นรถได้เลยครับ" เพราะรู้ดีในวันแบบนี้ ปาร์คจีซองมักจะอยากไปให้ถึงมหาวิทยาลัยเร็วๆ เพื่ออ่านทบทวนหนังสือไม่ว่าจะกับตัวเองหรือเพื่อนร่วมเซคก่อนเข้าห้องสอบเสมอ

    "อ้าว แล้วของพี่"

    "พี่กินแล้วระหว่างรอเราอาบน้ำแต่งตัวนั่นแหละ" จีซองพยักหน้าให้คำพูดนั้น มือคว้ากระเป๋าเป้พาดบ่าโดยไม่ลืมเช็คว่าตนเองหยิบกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มาหรือยัง

    "เป็นห่วงพี่เหมือนกันหรอเรา"

    "เป็นห่วงสิครับ พี่แจมินที่แสนดีมีคนเดียวนี่หน่า จะไม่ห่วงได้ยังไง" คนฟังหลุดยิ้มให้กับประโยคขี้อ้อนนั่น สองขาก้าวเข้าประชิดตัวก่อนยกสองมือจับแก้มของอีกฝ่ายไว้และกดจูบลงบนริมฝีปากช่างเจรจาจนเสียงดัง

    "ปากหวาน ทั้งความหมายโดยตรงและโดยอ้อม" ปาร์คจีซองย่นจมูกแม้ใบหน้าจะพาดไปด้วยริ้วสีชมพูจางๆ ไม่เคยชินสักทีเวลาโดนพี่แจมินหยอดแบบนี้ 

    "ไปได้แล้วครับ เดี๋ยวจีซองไปไม่ทันนะ" แจมินเร่งพลางคว้ากล่องข้าวเช้าของจีซองและกุญแจรถ



    "อยู่เป็นพี่แจมินที่แสนดีของจีซองไปเรื่อยๆ เลยนะครับ" 


    ในจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังจะเปิดประตู เสียงใสที่เอ่ยขึ้นทำเอาชะงักและหันมามอง

    "ได้ครับ" นาแจมินยิ้มกว้างพอๆ กับปาร์คจีซอง


    "สัญญานะ"

    "สัญญาครับ"





    ปาร์คจีซองเคยสงสัยคำสัญญามีระยะเวลายาวนานขนาดไหน

    หนึ่งวัน... สามเดือน.... ห้าปี.... หรือมากกว่านั้น





    "ลองห่างกันดูสักพักดีไหม" 


    เขาสูดหายใจเข้าลึก หลับตาเงยหน้าขึ้นสูงก่อนจะปล่อยลมหายใจออกและลืมตาขึ้นอีกครั้ง พอจะเห็นเค้ารางว่าวันนี้จะมาถึงแต่ไม่คาดคิดว่าจะเร็วขนาดนี้ อยากยืดเวลาออกไปได้อีกสักนิด ให้เราได้ใช้เวลาร่วมกันอีกสักหน่อย แต่มันคงยากเกินไปสำหรับใครอีกคนที่อยู่ด้วยกัน

    "แค่ห่างกันจริงหรอครับ" จีซองไม่รู้ว่าระยะห่างของเราเริ่มตั้งแต่ตอนไหน อาจเป็นช่วงที่เขาสนุกกับงานที่ได้ทำจนไม่ค่อยได้กลับบ้าน หรือตอนที่อีกฝ่ายเลื่อนตำแหน่งจนมีความรับผิดชอบมากขึ้น บางทีอาจจะเป็นตอนที่เราใส่ใจและคิดถึงกันน้อยลง จนตอนนี้ทั้งๆ ที่นั่งใกล้กันจนเอื้อมมือถึงกลับรู้สึกว่าห่างไกลจนเกือบสุดสายตา

    "อืม ลองห่างกันดู ให้ที่ว่างแก่กันและกัน ให้เวลาเราคิดถึงกัน เผื่ออะไรๆ มันจะดีกว่าตอนนี้" เพราะอยู่ใกล้กันมากเกินไปโดยที่ช่องว่างความห่างไกลยังไม่ถูกย่นระยะ เหมือนมีหลุมอยู่ตรงกลางระหว่างเราที่ถมเท่าไหร่ก็ยังไม่เต็มแถมทำท่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้เรามีปากเสียงและทะเลาะกันบ่อยๆ 


    "ถ้าเกิดเราดันมีึความสุขกับการไม่มีกันและกันในชีวิตอีกแล้ว"



    "ก็คงต้องเลิกกันแหละมั้ง" 



    ชาวาบไปทั้งหน้า จนต้องหันกลับไปมองหน้าคนพูด ดวงตาคมที่เต็มไปด้วยความห่วงใยบัดนี้กลับดูว่างเปล่า เสียงในคำพูดดูราบเรียบเหมือนประโยคที่เพิ่งพูดออกมานั้นมันไม่ได้มีค่าความสำคัญอะไรเสียจนปาร์คจีซองมีคำตอบให้กับตัวเองได้ทันทีโดยไม่ต้องรอเวลาอะไรอีกแล้ว


    "ยังรักผมอยู่ไหมพี่แจมิน" รู้สึกว่าเสียงตัวเองสั่นแม้จะพยายามควบคุมไว้แค่ไหนก็ตาม เขาไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น ยิ่งเป็นเรื่องของคนข้างกาย... ไม่เลยสักนิด จนต้องเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ


    เพราะไม่รู้ว่าความรักที่พี่แจมินมอบให้ยังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า
    แต่สำหรับปาร์คจีซอง ความรักที่มีให้นาแจมินน่ะ ไม่เคยลดลงเลยสักวัน
    ต่อให้เราทะเลาะกันทุกวัน เขาจะต้องร้องไห้หรือหัวเสียกับหลายๆ เรื่องแต่ก็ยังอยากมีนาแจมินที่แสนดีอยู่ในชีวิตเหมือนที่เคยพูดเอาไว้ และจีซองแน่ใจว่าความรู้สึกนี้ไม่ใช่เพราะความผูกพัน 

    เขายังคงรักแจมินเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง


    ความเงียบโรยตัวยาวนานในความรู้สึกแม้ความเป็นจริงจะแค่เวลาไม่กี่วินาที บีบหัวใจคนฟังที่รอคอยคำตอบ



    "ไม่รู้เหมือนกัน"



    ปาร์คจีซองยกมือเช็ดน้ำตาที่ไหลออกจากหางตา พยายามปรับเสียงให้เป็นปกติ รู้ดีแก่ใจน้ำตาไม่ได้ทำให้ความรักของเรากลับไปเหมือนเดิม

    "งั้นไม่ต้องห่างกันหรอกครับ" 

    "จีซอง" เหลือบเห็นจากหางตาว่ามืออบอุ่นคู่นั้นยื่นเข้ามาแต่แล้วมันกลัับชะงักค้างอยู่กลางอากาศ ความลังเลฉายชัดไม่ต่างจากน้ำเสียงตอนตอบคำถามก่อนหน้านั้นของเขา



    "เลิกกันเถอะครับพี่แจมิน"



    ขอบคุณที่อดทนมาตลอดเพื่อรอให้เขาเป็นคนพูดคำนี้ออกมาเอง
    ขอบคุณที่ยังมีเมตตาให้เขารู้สึกว่าเป็นฝ่ายทิ้งไปไม่ใช่โดนทอดทิ้ง
    ขอบคุณที่รั้งมือไม่แตะตัวแม้จะเห็นว่าเขาสั่นมากแค่ไหน เพราะการสัมผัสรังแต่จะทำให้เจ็บยิ่งขึ้นกว่าเดิม


    "ไม่มีพี่อยู่แล้ว... ดูแลตัวเองดีๆ นะ" จบคำพูดนั้น แรงยวบบนโซฟาข้างกายหายไป สองหูได้ยินเสียงประตูปิด น้ำตาที่พยายามซ่อนไว้ทะลักทลายราวกับเขื่อนแตก เสียงสะอื้นดังก้องไปทั่วห้อง ปาร์คจีซองยกขาขึ้นชันเข่าและกอดตัวเองไว้แน่นปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร



    และวันนี้เขาค้นพบแล้วว่าคำตอบนั้นไม่ตายตัวขึ้นอยู่กับคนให้คำมั่นสัญญาต่างหากว่าจะจดจำและให้ค่ากับมันมากไหนต่างหาก


    ซึ่งคำสัญญาของนาแจมินที่ให้กับปาร์คจีซองไว้ มีค่าเท่ากับระยะเวลา เจ็ดปีสี่เดือนกับอีกสองวัน




    END
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in