เปรี้ยง!
เสียงของแข็งกระทบกันดังมาจากไกล ตามด้วยเสียงเบรกของยางรถยนต์เสียดกับพื้นถนนร้อนระอุ
ชายแก่ในอู่ซ่อมรถรู้สึกเจ็บแปลบ ราวกับใจขอเขาถูกของแข็งนั้นก็กระทบเสียเอง
กูนี่มันเลวหมดจดจริงๆ
ชายแก่คิดตำหนิตนเอง ที่บังคับให้หลานชายแสนรักต้องกระทำกรรมชั่วด้วยคำสั่งของเขา
เป็นอีกหนึ่งวันในฤดูร้อน ที่แสงอาทิตย์ทำเกินหน้าที่แอร์แรงสุดในรถบุโรทั่งของเขา ไม่อาจเอาชนะอุณหภูมิภายนอกได้เขาเหยียบความเร็ว 90 ไปตามไฮเวย์เส้นตรงสุดลูกหูลูกตา สองข้างทางขนาบไปด้วยต้นตาลสูงชะลูด ถัดออกไปคือพื้นดินว่างร้อนและแห้งแล้งเกินกว่าจะเพาะปลูกได้
ชายหนุ่มเกลียดการมาติดต่ธุระที่นี่ แต่ก็ชินชาเสียจนไม่อยากบ่น หลับหูหลับตาทำเสียให้เรียบร้อยซะดีกว่า
เขายอมให้ระบบอัตโนมัติเข้าควบคุมร่างกาย ปล่อยให้จิตใจล่องลอยไปตามเพลงป๊อปฟังง่าย คุ้นหู...
เปรี้ยง!
เด็กในเสื้อยืดขาวสภาพมอซอ ลากเตะช้าๆ ไปตามถนน มือป้องแดดเปรี้ยงที่สาดส่องลงมาทาบพื้นดินพลางก้มลงเก็บหินก้อนเท่ากำปั้น เก็บใส่ย่ามใบน้อย
ในใจเขาร้อน ไม่ใช่เพราะอากาศ แต่เป็นเรื่องราวที่ชายแก่พูดกับเขา
สิ่งที่ได้รับมอบหมายให้ทำในบ่ายวันนี้นั้น หนักหน่วงเสียจนเขาแทบจะปีนขึ้นยอดต้นตาลที่ปีนเล่นเป็นประจำแทบไม่ไหว
"เอ็งรู้ไหม ตั้งแต่มีทางหลวงตัดผ่าน ก็ไม่มีรายได้เข้าร้านอีกเลย ตอนนี้แทบไม่มีเงินสักแดงเดียว ช่วยตาหน่อยเถอะ บ่ายพรุ่งนี้ เอ็งออกไปที่ถนน ปีนขึ้นต้นตาลไป ใช้ทักษะแม่นปืนของเอ็ง ช่วยโยนหินใส่กระจกรถที่ผ่านมาหน่อยได้ไหม เราจะได้มีเงินจากค่าซ่อมกระจกไปใช้หนี้ ไปซื้ออะไรยาไส้บ้าง"
สับสนในใจเหลือเกิน เขารู้ว่าสิ่งที่กำลังทำเป็นความผิด แต่มันจะร้ายแรงไปกว่าการอดตายของคนสองคนหรือ อีกอย่าง เขาเองก็รับปากคำขอร้องของตามาแล้ว รู้สึกได้ว่ามืดหมดหนทางจริงๆ
เด็กชายตั้งใจว่าจะแอบจดเบอร์ที่อยู่ของ 'ผู้โชคร้าย' เอาไว้ และจะรีบชดใช้ เงินที่ได้มาจากการซ่อมกระจก คืนทันทีที่มีโอกาส ไม่ว่าจะช้าเร็วเท่าไร เขาจะไม่ลืม
แดดไม่มีท่าทีจะยอมอ่อนข้อ เด็กชายหยีตามองไปที่ระยะอนันต์ ทันใดนั้เองก็เริ่มเห็นวัตุสีบรอนซ์เคลื่อนเข้าใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
จากจุดเป็นสะเก็ด จากสะเก็ดเป็นก้อน จากก้อนเป็นคันรถ
ช้าขนาดนี้ไม่พลาดเป้าแน่ เขาคิด ใจของเด็กชายเต้นไม่เป็นจังหวะ เขากำหินแน่น เตรียมโยนตัวแทนความผิดบาปออกไปที่เป้าหมายอันใกล้เข้ามา เอาล่ะนะ 3...2...1
เปรี้ยง!
เสียงของแข็งกระทบกันดังขึ้นอย่างกระทันหัน เด็กชายสะดุ้งตกใจกับเสียงที่เกิด เกือบจะเสียหลักตกลงจากต้นตาล เขาปล่อยมือจากหินซิึ่งร่วงลงบนโคน แล้วคว้าลำต้นเอาไว้ได้ทันท่วงที
แย่แล้ว นี่มันแย่ที่สุด เขาคิดใจใน
รถเก๋งสีบรอนซ์คันนั้นเบรกเอี๊ยด แล้วค่อยๆ ถอยรถมาใกล้ต้นตาลที่เขาปีอยู่ทีละนิด
ก่อนจะจอดข้างทาง กระจกหน้าของรถนั้นร้าวละเอียดไม่มีชิ้นดี
ไม่มีทางเป็นไปได้ ก็เขายังไม่ได้โยนหินด้วยซ้ำ
ชายคนขับก้าวมาจากรถ โชคดีที่ชายคนนั้นไม่ได้บาดเจ็บ เขาแหงนหน้ามองมายังเด็กชาย
ไม่มีไม่แต่ที่จะซ่อน เจ้าของรถคงคิดว่าจับได้คาหนังคาเขาแน่ๆ ทั้งๆ ที่จริงแล้วเขายังไม่ได้ทำอะไรกับรถคันนั้นเลย
"มึงลงมาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้เด็กเวร! "
"ผมไม่ได้ทำจริงๆ ครับ ผมสาบาน"
เด็กน้อยพูดประโยคสารภาพออกไปโดยที่รู้อยู่แก่ใจว่า จะไม่มีใครเชื่อข้อแก้ตัวนี้ แม้แต่คุณตาก็ตาม น้ำตาเด็กชายไหลอาบแก้ม
"ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมขอโทษ"
เด็กน้อยสติแตก เริ่มฟูมฟายร้องไห้ ร่างกายสั่นเทิ่ม
ทันทีที่ชายแก่ได้ยินเสียงคุ้นหูตะโกนและร้องไห้ เข้าก็รีบวิ่งไปที่ต้นตาลต้นนั้นอย่างร้อนรน
"ไอ้หนู ใจเย็นๆ ค่อยๆปีนลงมาก่อนนะ ลงมาคุยกัน"
ชายหนุ่มเห็นสถานการณ์ไม่พากล จึงพยายามโยนความโกรธทิ้ง และหันมาห่วงสวัสดิภาพของเด็กเสียก่อน
"ผมไม่ รู้ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผม...ผม..."
เข้าเด็กตัวสั่นมากกว่าเดิม ตาเบิกโพลง และเริ่มหายใจไม่เป็นจังหวะ แขนขาของเขาเกร็งและอ่อนแรงลงเรื่อยๆ สวนกับระยะที่ชายแก่กะเผลกเข้าใกล้ต้นตาลต้นนั้น
"ไอ้หนู...ระวังร่วง ค่อยๆ ลงมา พี่ไม่ทำอะไรหนูหรอก ค่อยๆลงมาก่อน อย่าาาาาา!"
ร่างไร้สติของเด็กน้อยร่วงผล็อยลงจากลำต้นสูงลิ่ว
ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวและแสงแดดที่แผดเผา
โจทย์
Day 15 — Create a character who is falsely accused of a crime.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in