ฤดูหนาวของปี 2007 ผ่านไป หมดฤดูกาลของการเล่นสโนว์บอร์ด ฉันเก็บชุดและอุปกรณ์ใส่กล่องไว้รอเล่นปีหน้าต่อ ได้เวลากลับมาตะลุยเรื่องเรียนอย่างเต็มที่ในเทอมนี้ ฉันเรียนมาได้ครึ่งทางแล้วหรือเนี่ย หนึ่งปีผ่านไป ฉันเรียนได้ทั้งหมด 6 วิชาแล้ว เทอมฤดูใบไม้ผลิ อากาศดีแจ่มใส ทำให้ฉันมีแรงบรรดาลใจ ขยันเรียนมากกว่าหน้าหนาวเยอะเลย
ฉันไม่ได้มีปัญหาในเรื่องภาษาเหมือนเทอมแรกๆแล้ว ตอนนี้เริ่มสนุกกับการเรียนวิชาใหม่ๆ ฉันเพิ่งรู้ว่าตัวเองชอบเรียนวิชาการเงินและการธนาคารมาก เพราะอาจารย์ท่านนึงสอนวิชาด้านนี้ได้สนุกมาก ท่านทำงานในสายการเงินการลงทุน เป็นที่ปรึกษากองทุนและธนาคารต่างๆมาหลายสิบปี อาจารย์ชอบเล่าประสบการณ์ในโลกการเงิน การธนาคาร เงินตราต่างประเทศ และการลงทุนประเภทต่างๆ ให้ฟังเสมอ
ฉันได้เรียนรู้ทุกอย่างในเรื่องการลงทุน Stocks, Futures, Options และ Forex อาจารย์จุดประกายให้ฉันสนใจเรื่องการลงทุนขึ้นมา ฉันน่าจะเริ่มลงทุนตั้งแต่สมัยที่เรียนกับอาจารย์ในตอนนั้น ป่านนี้ฉันคงมีที่ปรึกษาส่วนตัวเรื่องการลงทุนไปแล้ว
ฉันลงเรียนกับอาจารย์ถึงสองวิชา นั่นคือวิชาการตลาด และ การเงินการธนาคารระหว่างประเทศ (International Marketing กับ International Finance, Monetary & Banking)
ฉันมีโอกาสได้แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับ วิกฤตต้มยำกุ้ง (Tom Yum Goong Crisis) หรือที่เรียกกันว่า 1997 Asian financial crisis ให้อาจารย์และเพื่อนๆร่วมคลาสเรียนฟังด้วย เรื่องนี้มักเป็นหัวข้อสนทนากันแทบทุกวิชาถ้าพูดถึงอัตราแลกเปลี่ยนและเศรษฐกิจในเอเชีย นักเรียนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับความเป็นมาของวิกฤตดี ขอเล่าคร่าวๆให้เด็กรุ่นใหม่ที่โตไม่ทันในยุคนั้นได้ฟังกันด้วยนะ
ในช่วงยุคกลาง 1990s เศรษฐกิจประเทศไทยเริ่มขาดดุลการค้าโดยเฉพาะการส่งออก เพราะเงินบาทที่มีเรตคงที่ ทำให้การส่งออกมีราคาสูงและไม่สามารถแข่งขันในตลาดสากลได้ การส่งออกที่ชะลอตัวลงเรื่อยๆ ทำให้รายได้หลักของประเทศซึ่งมาจากการส่งออกลดลง จนส่งผลให้ประเทศขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง
ประเทศไทยยังมีหนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่รัฐบาลได้อนุมัติให้ธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายปล่อยเงินกู้จากสถาบันการเงินจากต่างประเทศได้ ทำให้คนหันมากู้เงินต่างชาติเพื่อมาทำธุรกิจหรือลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อเก็งกำไรเป็นอย่างมาก ก่อผลให้อัตราหนี้ต่างประเทศสูงขึ้นมาถึงหนึ่งแสนล้านเหรียญสหรัฐ
การกู้เงินไปการลงทุนก่อสร้างในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นมากมาย นักลงทุนหวังเก็งกำไรจากราคาอสังหาที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตึกถูกสร้างมากกว่าความต้องการซื้อ จนเกิดภาวะฟองสบู่ ราคาอสังหาที่สูงขึ้นมากจนไม่มีคนซื้อ ทำให้ผู้ลงทุนไม่สามารถจ่ายหนี้ที่กู้ยืมมาได้ ในที่สุดฟองสบู่ที่บอบบางก็แตกลง
ความไม่มีประสิทธิภาพของสถาบันการเงินไทยในการพิจารณาปล่อยกู้และนโยบายการเก็บชำระเงินที่หละหลวม ได้มีส่วนในการทำลายเศรษฐกิจไทยด้วย บางธนาคารปล่อยเงินกู้ให้พวกพ้องมาสร้างธุรกิจอสังหาเพื่อเก็งกำไร แต่ไม่สามารถเก็บค่าหนี้ได้ ส่งผลให้ธนาคารขาดสภาพคล่อง เกิดปัญหาขาดความเชื่อมั่นอย่างรุนแรงต่อสถาบันการเงินในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เข้ามาช่วยเหลือธนาคารและสถาบันการเงินหลายแห่ง แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายต้องสั่งปิดหลายธนาคารลงไป
เงินลงทุนที่ไหลเข้ามาอย่างมากมายในประเทศไทย เพราะโอกาสในการเก็งกำไรจากค่าเงินบาท กลุ่มกองทุน hedge fund หลายแห่งโดยเฉพาะพ่อมดโซรอส (George Soros) เห็นโอกาสที่จะโจมตีค่าเงินบาท โดยฉวยโอกาสจากระบบเศรษฐกิจที่บอบบางของประเทศไทย ในที่สุดรัฐบาลไทยก็ต้องให้ปล่อยค่าเงินบาทลอยตัวในกลางปี 1997
นักลงทุนไทยที่กู้เงินต่างชาติมาลงทุน เจอภาวะหนี้สินล้นพ้นเพราะต้องจ่ายหนี้เพิ่มอีกเท่าตัว ค่าเงินบาทไทยอ่อนตัวลงแบบชั่วข้ามคืน (จาก 25 บาทพุ่งขึ้นไปถึง 50 กว่าบาท ) ส่งผลให้นักลงทุน สถาบันการเงิน และธนาคารล้มละลายกันถ้วนหน้า คนเป็นหนี้สินมากมาย ตกงาน หุ้นไทยตกลงมาต่ำสุด โครงการก่อสร้างโดนปล่อยทิ้งร้างมากมาย เศรษฐกิจของประเทศไทยล้มครืน ข้าวของแพงขึ้นมาก โดยเฉพาะสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ
IMF (International Monetary Fund) เสนอเงินกู้ให้ประเทศไทย แต่ตั้งข้อเสนอให้รัฐบาลปฏิบัติตามกฏที่ IMF ตั้งขึ้นอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการชำระหนี้สินให้แก่ IMF ในที่สุดรัฐบาลก็ยืมเงินจาก IMF มาเพื่อเดินหน้ากอบกู้เศรษฐกิจของประเทศต่อไป
นักลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านเช่น อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย เกิดภาวะแตกตื่นหวาดระแวงว่าจะเกิดปัญหาเดียวกับไทย เลยรีบถอนเงินลงทุนออกจากระบบ ธนาคารทั้งหลายล้มละลายและค่าเงินในสกุลต่างๆในเอเชียก็อ่อนตัวตามกันไป เศรษฐกิจล้มตามกันเป็นโดมิโนทั่วเอเชีย และส่งผลไปยังเศรษฐกิจโลกด้วย
อาจารย์ขอให้ฉันเล่าประสบการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรง จากการสังเกตความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจในช่วงนั้น ตอนนั้นฉันเรียนชั้น ม 6 อยู่ที่หาดใหญ่ ดูเหมือนตัวเองไม่ได้กระทบอะไรมาก เพราะไม่ได้เป็นคนหารายได้ ฉันได้เงินเดือนจากพ่อแม่เท่าเดิมทุกเดือน แต่รู้สึกว่าราคาข้าวของเครื่องใช้แพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฉันต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดมากขึ้นเลยทีเดียว
ฉันมักจะกลับบ้านมาช่วยทำงานในช่วงปิดเทอม เพื่อเก็บเงินไว้ใช้จ่ายและซื้ออะไรที่ฟุ่มเฟือยตามประสาวัยรุ่น ฉันอยากได้นาฬิกาสวิสรุ่นนึงมาก ราคาประมาณหกพันบาทก่อนที่เศรษฐกิจจะล่ม ฉันเก็บเล็กผสมน้อยอยู่เป็นปี จนได้เงินพอที่จะซื้อนาฬิกาแล้ว
โรงเรียนเปิดเทอม ฉันกลับไปหาดใหญ่ รีบพุ่งไปที่ตลาดสันติสุข (ตลาดขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกและนาฬิกานำเข้า) ฉันไปที่ร้านขายนาฬิกาและถามหารุ่นและสีที่ฉันอยากได้ ฉันตื่นเต้นมาก ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าค่าเงินบาทที่อ่อนค่าขึ้น จะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้านำเข้าโดยตรง
" Tag Heuer กรอบพลาสติกสีดำแดง ราคาเท่าไหร่คะ ขอซื้อเรือนนึงคะ" ฉันถามเจ้าของร้าน
" ราคาหมื่นสาม !#$ เจ้นำเข้ามาแพงขึ้นเพราะค่าเงินบาทอ่อนลงมาก " เจ้าของร้านอธิบายให้ฟัง แถมบ่นให้ฟังว่าขายนาฬิกานำเข้าจากต่างประเทศไม่ได้เลย
ราคาสินค้านำเข้าส่วนใหญ่จะเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัวนึงเนื่องจากค่าเงินที่อ่อนตัวลง หลังจากเศรษฐกิจไทยล่ม ฉันคอตก ตัดใจเดินออกจากร้านมา และไม่เคยได้ครอบครองนาฬิการุ่นนั้นตามที่หวังไว้เลย เพื่อนๆในคลาสชอบใจตัวอย่างที่ฉันเล่าให้ฟัง เพราะเข้าใจง่ายและเห็นภาพอย่างชัดเจน
อาจารย์เล่าต่อว่า นักเรียนไทยในอเมริกาได้รับผลกระทบโดยตรงจากเศรษฐกิจไทยที่ล่ม หลายคนต้องกลับประเทศก่อนเรียนจบ เพราะไม่สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพที่นี่ได้ ทางอิมมิเกรชั่นได้ผ่อนปรนให้นักเรียนจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำงานนอกโรงเรียนได้ เพื่อหารายได้มาจุนเจือตัวเองระหว่างเรียนที่อเมริกา ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
เศรษฐศาสตร์ระดับมหภาคดูเหมือนเป็นสิ่งที่ไกลตัวเรา ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของระบบและได้รับผลกระทบโดยตรงจากมัน การพยายามเข้าใจภาวะระบบเศรษฐกิจทำให้เราสามารถปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงและสามารถลดความเสี่ยงลงได้
ปี 2007 เป็นปีที่เศรษฐกิจของอเมริกาเริ่มฉายแววการถดถอย ฉันเห็นป้ายบอกขายบ้านหรือตึกให้เช่าปักตามสนามหญ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อัตราการว่างงานในประเทศเริ่มสูงขึ้น ธุรกิจเริ่มซบเซา ผู้คนพยายามรัดเข็มขัดเรื่องการใช้จ่าย ลดใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย เงินดอลล่าสหรัฐเริ่มอ่อนตัวลง ตลาดหุ้นก็ตกลงมาเรื่อยๆ นักลงทุนทั้งหลายเริ่มขาดทุนและเสียกำไรในหุ้นที่ถือไว้
ร้านอาหารที่เคยทำงานยุ่งๆก็เงียบเหงาลงไปด้วย รายได้ที่ขึ้นอยู่กับทิปของฉันลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด ฉันไม่ได้ไปเที่ยวต่างรัฐเหมือนก่อน เพราะเงินเก็บแทบไม่มีเหลือ แค่ทำงานให้พอกับค่าใช้จ่ายรายเดือนยังยากเลย ฉันเริ่มประหยัดมากขึ้นและใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียนและทำงานหาเงินแทน ฉันตั้งใจไว้ว่าจะต้องเรียนให้จบหลักสูตรนี้ภายในสิ้นปี 2007 ฉันได้แต่หวังว่าเศรษฐกิจของอเมริกาจะดีขึ้นในปีหน้าและม่ีงานสายนำเข้าส่งออกเปิดรับสมัครให้นักเรียนต่างชาติอย่างฉันได้ไปลองสมัครบ้าง
นั่งตากแดดยามบ่ายหลังจากอ่านหนังสือที่ Powell Library, UCLA
เสนอสินเชื่อด่วน
ข้อกำหนดการใช้งาน
ชื่อ:
ประเทศ:
เมือง:
ที่อยู่:
จำนวนเงินที่ขอ:
เวลา:
อายุ:
เพศ:
อาชีพ:
ไม่มีโทรศัพท์:
ขอบคุณ
คุณ Mary
ข้อกำหนดการใช้งาน
ชื่อ:
ประเทศ:
เมือง:
ที่อยู่:
จำนวนเงินที่ขอ:
เวลา:
อายุ:
เพศ:
อาชีพ:
ไม่มีโทรศัพท์:
ขอบคุณ
คุณ Mary
เราเสนอสินเชื่อที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก 3% เราเสนอสินเชื่อบุคคลสินเชื่อรวมเงินกู้ทุนหมุนเวียนธุรกิจสินเชื่อสินเชื่อเพื่อการศึกษาสินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อด้วย
เหตุผลใด ๆ คุณมีเครดิตไม่ดีหรือไม่คุณสามารถ ยังคงใช้ถ้าใช่ให้กลับไปพร้อมกับชื่อเต็มประเทศวงเงินกู้ระยะเวลาและหมายเลขโทรศัพท์
ติดต่อเราผ่านทางอีเมล์: [email protected] !!!
ขอแสดงความนับถือ
Rogers Smith