เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My Diary : ในทุกวันBABE.
วันนี้เล่า : 1
  • ไฮ!!!!!


            ที่จริงอยากเข้ามาเขียนทุกวันแต่ตั้งแต่ลงอันก่อนไปเราเข้าหน้าโปรไฟล์ไม่ได้เลย (.__.)
    เราหงุดหงิดอยู่สามสี่วันเลยลองทักเข้าไปในเพจของเว็บดูให้เข้าตรวจสอบให้รวม ๆ ก็สามสี่วันเหมือนกัน..ในที่สุดก็เข้าได้ เย่!


    เอาหล่ะ วันนี้จะเล่า อันที่จริงก็มาบ่น ๆ คือช่วงนี้เรามีแต่เรื่องที่ทำให้หนักใจเรื่องไม่สบายใจเยอะมากกกกกกกกกก ! ความสุขหายไปเยอะมันดิ่งมากอะแล้วคือเป็นกันมั้ยแบบว่าเหนื่อยเศร้าคิดมากหรือไม่สบายใจจนไม่อยากพูดอะไรกับใครเลย เราเป็น ! เราไม่อยากพูดกับแม่เหมือนพูดไปก็คิดว่าไม่ได้ทำอะไรให้มันดีขึ้นมาได้อีกอย่างไม่อยากให้เค้าเป็นกังวล อันที่จริงเรื่องที่เราเป็นกังวลก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเค้าเกี่ยวครอบครัวแหละ คือเราอะเป็นลูกคนเดียวใช่ปะแล้วเราก็เชื่อว่าคนที่เป็นลูกคนเดียวเหมือนเราหลาย ๆ คนก็อาจรู้สึกเหมือนเรา

    เรากดดัน ... 

    เป็นเมือนกันปะ พูดง่าย ๆ เราก็เหมือนเป็นเหมือนความหวังเดียวของเค้าอะ คงามคิดความอ่านก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง เราโดนตั้งความหวังโดนตีกรอบมาตั้งแต่เด็กแต่เราสู้ 55555555555555555 สู้จนทะเลาะกันหนักมากทุกที กว่าเราจะได้ทำอะไรเป็นของตัวเองได้เรียนได้เลือกแม่งโคตร ๆ ยาก ที่นี้พอโตมาได้เรียนได้ทำงานจอนแรกคิดว่าเส้นทางตอนโตจะไปได้สวยนะแต่ก็เปล่า...

    แรก ๆ ตอนทำงานมันก็ดีแหละถึงมันจะไม่ได้ตรงตามเป้าที่ต้องการแต่เราก็พยายามเป็นอย่างมากเพราะอย่างน้อยเราก็ได้เลือกเส้นทางนี้ด้วยตัวเองทำไปทำมาสุดท้ายมันก็ไม่มีอะไรแน่นอนอยู่แล้วเนอะ กลายเป็นว่าเราไม่สามารถทำงานต่อที่เดิมได้ด้วยเหตุผลที่ว่าเราไม่โอเคกับบอสเลยลาออก โคตรจ๊าบ (._.") ตอนจะลาออกก็ทำใจอยู่นานนะถึงแม้เราจะไม่ชอบบอสแต่งานมันก็โอเคแต่ก็ไม่อยากฝืนแล้วเพราะมันอึดอัด ตอนแรกก็ไม่อยากบอกแม่เพราะกลัวคุณเค้าจะคิดมากแต่ก็ตัดสินใจเพราะยังก็รู้อยู่ดีถูกปะ 555555555555555 ก็เลยบอกไปคำแรกที่แม่พูดคือ 

    "ลาออกแล้วจะทำอะไรจะเอาอะไรกิน" 

    ตอนเราได้ยินแบบนั้นก็เฟลหน่อย ๆ คือตั้งแต่เราทำงานได้เราก็กลายเป็นเสาหลักไงแบบพยายามส่งเสีออกนู่นนี่ตลอดแต่ตอนนั้นเราไม่ไหวละอะก็เลยขอโทษแม่ไปแล้วบอกว่าไม่ไหวจริง ๆ ซึ่งเราอาจจะคิดแต่ตัวเองมากไปมั้งณ ตอนนั้น แต่คือก่อนที่เราจะออกเราก็ถึงขีดสุดแล้วจริง ๆ เลยไปบอกบอสเสร็จสรรพเราก็ออกโดยสมบูรณ์ หลังจากลาออกเราก็พอมีเงินอยู่บ้างก็ใช้ชีวิตไปหางานไปเรื่อย ๆ มีแบบฟรีเเลนซ์บ้างรับจ๊อบสอนงี้ เพราะเราทำงานเป็นติวเตอร์มาก่อน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลย จนถึงตอนนี้เราเลยรู้สึกว่าถ้าเกิดตอนนั้นเรามีความอดทนต่อ หรือรู้สึกให้น้อยลงหน่อย ยามให้เค้าโขกสับอีกสักนิดตอนนี้เราก็อาจจะได้ทำงานต่อก็ได้ พอคิดไปมันก็กลายเป็นความผิดหวังของตัวเองที่ก่อตัวขึ้นมาทีละนิด มองกลับไปที่แม่ก็คิดว่าเห้ย แม่งนี่กูทำอะไรไม่ได้เลยหรอวะ 5555555555555555 การเป็นคนไม่มีงานขาดรายได้เลี้ยงดูเค้าก็ไม่ได้แบบก็เป็นคนไร้ประโยชน์ไปเลยอะ จากแต่ก่อนที่กดดันเพราะเค้าชี้ ๆ ตอนนี้กลายเป็นว่ารู้สึกท้อแท้หมดกำลังแรงใจต่าง ๆ เพราะทำตัวเองไปเลยจากความเป็นลูกคนเดียวมันแบกรับทุกอย่างเลยเว้ย จะหันหาไปคุยกับพี่น้องคนไหนก็ไม่ได้เพราะไม่มีลูกพี่ลูกน้องก็มีครอบครัวไปหมดละอีกอย่างด้วยความเป็นลูกคนเดียวเราโตมาคนเดียยวตั้งแต่เด็กเราอยู่ได้ตัวคนเดียวเลยไม่พึ่งพาใครเราไม่เคยเอ่ยปากให้ใครช่วยอะไรเลยสักครั้งเพราะเราคิดว่าเราจะผ่านมันไปได้เราทำเองได้พอมีนิสัยแบบนี้เราเลยชอบหมกหมุ่นอยู่กับตัวเองมันเลยเครียดกว่าเดิม 555555555555555555555555555555555 รำคาญตัวเองเหมือนกัน แต่ทำไงได้เราก็ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้ 

    เห้อ !!!! ตอนนี้เราก็พยายามดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองกลับมามีประโยชน์กับแม่อีกครั้งอยู่นะจะฮึดสู้แหละแต่ตอนนี้ยังมืด ๆ อยู่ (...) เป็นกำลังให้เราด้วยนะอวยพรให้เราได้งานด้วยแล้วก็สำหรับใครที่ท้อแท้นะคะให้คิดสะว่ามีเราท้อเป็นเพื่อน หรือให้คิดสะว่าเรื่องราวของเรามันร้ายแรงกว่าเรื่องของคุณถ้ามันจะทำให้คุณฮึดสู้มาได้อีกครั้งแบบเห้ยแม่ง อย่างน้อยก็มีคนซวยกว่าเรานะ  






    ขอบคุณที่อ่านจนถึงตอนนี้แบ่งปันได้อยากได้กำลังใจเราก็ให้ได้.

    29 - jan - 2021 




    (ป.ล. จ้างงานได้นะเรารับตรวจทานฟิค,นิยาย ตรวจคำตรวจไวยากรณ์ตั่ง ๆ ปรับเปลี่ยนคำให้เหมาะสมเวอร์ชั่นภาษาไทยนะ! ถึงจะดูเขียนก๊องแก๊งงี้แต่โหมดทำงานเรา 100 นะบอกเล้ยย !!!)     
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in