เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อาฟเตอร์โควิดcharo_b
ปกซ้ายปกขวา และอีกมากมายบนเสื้อตัวนี้
  • อยากจดบันทึกไว้สักหน่อย
    วันนี้นั่งเก็บเสื้อผ้า หลังจากดองความตั้งใจไว้ในหัวมานานปี
    อยากเอาเสื้อผ้าไปให้มูลนิธิกระจกเงา
    (ในวงเล็บ แต่ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะได้ทำจริงมั้ย)
    นั่งรื้อตู้ไม้ ที่เป็นตู้ไว้ใส่เสื้อผ้าที่ปัจจุบันไม่ได้ใส่
    ประกอบด้วยเสื้อผ้าที่มันหนาไป เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ในชีวิตประจำวัน และเสื้อผ้าที่ถูกพับเก็บในซองในถุง ด้วยเป็นเสื้อผ้าในวันวัยที่เต็มไปด้วยความทรงจำ

    พบเจอสิ่งนี้
    เป็นเสื้อนักเรียนสมัยประถม (เขินอายนิดหน่อย เพราะเสื้อผ้าบอกอายุมากแม่) 


    ที่จริงเคยเห็นมาไม่ต่ำกว่าห้าหกครั้ง ตอนรื้อหาเสื้อผ้าที่จำเป็นต้องนำมาใส่
    แต่วันนี้เห็นแล้วคิดถึงช่วงเวลานั้น
    คิดว่าคุณครูคนที่เซ็นให้ที่ปกเสื้อซ้ายขวา ในตอนนั้นต้องสำคัญกับเราขนาดไหน ถึงได้เซฟปกสองฝั่งไว้ให้คุณครูสองท่านนี้เขียน
    ครูจุ๋ม เป็นคุณครูวัยรุ่น น่าจะมาสอนที่รร.เราเป็นที่แรก เราสนิทกับคุณครูมาก คุณครูเป็นครูวิทย์ที่คูลๆ เท่ๆ (ไม่อยากจะเชื่อเลย เรามีช่วงเวลาที่สนิทกับคุณครูวิทย์ด้วย ?) คุณครูใจดี แต่ก็มีมุมดุ แต่ก็เป็นมุมดุ แบบที่คุณครูวัยรุ่นดุเด็กๆ แหละ ไม่ได้น่ากลัวชวนร้องไห้ แต่ตามประสาเด็กขี้แย ก็คงมีเผลอน้อยใจบ้างล่ะมั้ง 55
    ถ้าจำไม่ผิด หลังจากที่เราเรียนจบรร.ประถมแห่งนั้น ปีต่อมาคุณครูก็ลาออกไม่ได้สอนที่นั่นแล้ว
    ในโลกปัจจุบันที่เราน่าจะตามหากันในเฟซบุ๊กได้แล้ว เราก็ดันลืมนามสกุลคุณครูซะอย่างนั้น ทั้งๆ ที่เราก็จำมาได้อยู่หลายปี เรียกว่าน่าจะจำเลยมาถึงช่วงวัยทำงานด้วยซ้ำไป

    ส่วนคุณครูอีกท่าน เราดันจำภาพเขาไม่ได้แล้วว่า คือคุณครูท่านไหนนะ ใช่คุณครูใจดีอีกคนนึงรึเปล่า ที่เป็นคุณครูวัยรุ่นเหมือนกัน 

    นอกจากคิดถึงคุณครูสองท่านนี้ พาลนึกไปถึงคุณครูสอนภาษาอังกฤษคนโปรด ที่ทำให้เรา “อย่างน้อย” ก็มีหนึ่งวิชาในการเรียนหนังสือ ที่พอจะพูดได้ว่า ชอบแหละ 55 ชื่อคุณครูติ๋ว คุณครูรูปร่างมินิ ที่เราเลิฟสำเนียงคุณครู และวิธีการสอนมากๆ คุณครูให้พวกเราทำ English one word a day ออกไปพูดหน้าห้องกันวันละคน วันละคำ, จริงๆ เราก็น่าจะเติบโตมาเป็นคนที่กล้าพูด กล้าแสดงออก ทั้งๆ ที่รร.ก็ส่งเสริมให้พูดหน้าชั้นตั้งแต่เด็ก แต่กลายเป็นว่า เรากลายเป็นผู้ใหญ่ (ควรเรียกตัวเองว่าผู้ใหญ่ดีมั้ยนะ) ที่แค่พูดกับลูกค้าก็ตะกุกตะกัก พูดกับคนที่อายุน้อยกว่าในทีมก็กลัวหัวหด พูดกับหัวหน้าก็ลิ้นพันกันข้อความในสมองก็ตีกันไปหมด

    คิดถึงคุณครูทุกๆ ท่านที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หนูได้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ถึงแม้ว่าจะสะเปสะปะไปบ้าง หลงทาง หลุดออกจากทางไปบ้าง ผิดไปจากที่คุณครูทุกท่านคาดหวังไป..โข..บ้าง ?
    หนูจะลองพยายามเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง ผ่านทุกเรื่องไปได้อย่างมีสติ ให้สมกับความรักที่หนูได้รับมาโดยตลอดในช่วงชีวิตของการเรียนหนังสือ หวังว่าคุณครูและอาจารย์ทุกท่านจะมีสุขภาพที่แข็งแรง มีิหัวใจที่ยังสดใสเบิกบานเหมือนตอนที่ยังสอนพวกหนู, รักและคิดถึงค่ะ    

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in