คิดลบแต่ไม่คิดร้าย - คัด(ไม่ลอก)เฉพาะบางเรื่อง

ตั้งแต่พอเริ่มจำความได้ว่า.. ตอนเรียนประถมศึกษา ครูวิชาคณิตศาสตร์จะสอนการคิดเลขแบบง่ายๆ ของเด็กประถม

เมื่อตัวเลขจำนวนหนึ่ง บวกกับตัวเลขจำนวนหนึ่ง จะได้ผลลัพธ์ที่มากกว่าเสมอ

แต่ถ้าตัวเลขจำนวนหนึ่ง ลบกับตัวเลขจำนวนหนึ่งที่น้อยกว่า จะได้ผลลัพธ์ที่น้อยกว่าเดิมเสมอ

ทว่านั่นคือสูตรสำเร็จทางหลักคิดคณิตศาสตร์..

.................

ปัจจุบันเห็นว่า มีหลักสูตรเกี่ยวกับแนวคิดเชิงบวกของผู้คร่ำหวอดทางการโน้มน้าวจิตวิทยาที่เปิดห้องเรียนสอนมากมาย

เคยได้ดูคลิปวิดีโอการสอนของท่านเหล่านั้นอยู่บ้าง แม้ไม่เคยได้เข้าเรียน เข้าฟัง

พอจับความได้ว่า ส่วนใหญ่มุ่งสอนให้ผู้เรียนคิด และมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..

คิดเห็นเป็นส่วนตัวว่า.. ก็ในเมื่อหลักคิดทางคณิต ยังมีการบวก และลบได้

ใยความคิดของคนเรา จะถูกตีกรอบให้คิดเพียงบวกอยู่ด้านเดียว..

..................

กฎหมายบ้านเมืองที่รักษาความสงบเรียบร้อยอันดีทั่วโลกหลายๆ มาตรา ที่ถูกกำหนดมาใช้

ส่วนหนึ่งก็มาจากแนวคิดเชิงลบ

ต้องคิด และจินตนาการต่างๆ นาๆ เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อคิดบทลงทัณฑ์..

การบริหารบ้านเมืองให้ครบถ้วน อย่างถ้วนถี่

จำต้องมีฝ่ายค้าน คอยคิด ติดตามความคิดของรัฐบาล

ว่าจะมีสิ่งใด ที่อาจไม่ซื่อตรง และซื่อสัตย์ต่อชาติ บ้านเมือง

ล้วนต้องมีแนวคิดเชิงลบ ต่ออีกฝ่าย..

การคิดเชิงลบ ไม่ได้หมายความ หรือจำเป็นต้องปฏิบัติออกมาเป็นเชิงร้าย

แต่ช่วยให้มีแง่มุมของความคิด อีกทางหนึ่ง ที่อาจเป็นไปได้

รวมไปถึงแนวทางของการป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวางขึ้น

เป็นการช่วยหาผลลัพธ์ทางความคิด ที่อาจให้ได้มากกว่าผลลัพธ์เดียว..

..................

ที่บอกกล่าวความมานี้ ไม่ได้หมายความจะหักล้างแนวคิดของการคิดบวกแต่ประการใด

เพียงต้องการเสริม และเติมความเห็นเท่านั้น..

การคิดเชิงบวก ดูจะเป็นการแตกหน่อ ต่อยอดออกมาจากแนวทางของพระพุทธศาสนาเสียด้วยซ้ำ

ที่มีหลักการคิด และสอนให้อยู่กับความเป็นจริง ความเป็นปัจจุบันเสมอ

คือ "สัจธรรม" นั้นแล..

จาก: https://arndd.blogspot.com/2018/08/blog-post.html

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น