ก่อนจะมาโซลประมาณเกือบอาทิตย์ ฉันนั่งหาข้อมูลคาเฟ่ในโซลอย่างบ้าคลั่ง ร้านกาแฟใหม่ ๆ ในเกาหลีผุดขึ้นมามากมายราวกับดอกเห็ด ร้านนั้นก็อยากไป ร้านนี้ก็ด้วย แต่ร้านที่ทำให้ใจเต้น ดวงตาระยิบระยับเป็นประกาย บอกกับตัวเองว่าจะต้องไปเยือนให้จงได้ หนึ่งในนั้นก็คือ Namusairo Coffee (나무사이로 커피)
ไม่รู้ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าการค้นพบร้านกาแฟใหม่ ๆ อาจคล้ายกับความรู้สึกของนักดาราศาสตร์ค้นพบดาวดวงใหม่ยังไงยังงั้น อ่านมาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านอาจจะคิดว่าดิฉันเล่นใหญ่เกินเบอร์ใช่ไหมฮะ ก็คงจะจริง แต่ถ้าเทียบในแง่ความรู้สึก สิ่งที่แสนธรรมดากลับกลายเป็นสิ่งพิเศษอยู่ในใจ เป็นความรู้สึกอันเล็กน้อยที่ค่อนข้างมหาศาลจริง ๆ (ฝากไว้ให้พี่ ๆ วง Getsunova เอาไปแต่งเพลงทีฮะ)
จุดปักหมุดของเราอยู่ไม่ไกลจากจัตุรัสควางฮวามุนนัก แถวนี้มีโบราณสถาน แหล่งสำคัญทางประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งพระราชวังคยองบก พระราชวังด็อกซู พระราชวังชางด็อก อนุสาวรีย์พระเจ้าเซจง อนุสาวรีย์แม่ทัพอีซุนชิน หมู่บ้านโบราณบุกชอนฮันอก ย่านอินซาดง คลองชองกเยชอน ซิตี้ฮอลล์ ซึ่งทุกที่ที่กล่าวมา ฉันแวะไปเช็คอินแทบนับครั้งไม่ถ้วน แต่ยังไม่เคยแวะเวียนมาที่ร้านกาแฟแห่งนี้เลย
เราเดินเลียบกำแพงพระราชวัง สวนทางกับผู้คนนับร้อย ข้ามถนนเส้นนั้นผ่านเส้นนี้ตามกูเกิล แม็ปท่านว่า จุดหมายคือร้านกาแฟ Namusairo Coffee อันโด่งดังในหมู่คอกาแฟเกาหลีและ Cafe hopper ต่างชาติ ซึ่งใช้เวลาไม่นานนักเราสี่คนอันประกอบไปด้วย พี่ออ พี่แจง น้องเกรซและฉัน คาเฟ่ ฮอปเปอร์ชาวแทกุกซารัม ก็มายืนอยู่หน้าร้านกาแฟด้วยอาการเหนื่อยหอบ แต่เหงื่อไม่ออกเนื่องจากสภาพอากาศอันเย็นเยียบ สังขารไม่เที่ยงฉันใด บ่ายแก่ ๆ ก็กลายมาเป็นเวลาจิบกาแฟฉันนั้น
เข้ามาในร้านก็ต้องร้องโอโม ๆ ๆ เหมือนสาวเกาหลีวนไปหลาย ๆ รอบ เมื่อสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือบ้านโบราณแบบเกาหลีของนามูไซโร จะว่าไปแล้วร้านกาแฟดี ๆ มีอยู่มากมายทั่วกรุงโซล บ้านโบราณก็มีให้เห็นอย่างชินตา แต่ยังไม่เคยเห็นสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่เป็นร้านกาแฟเช่นนี้ หรือร้านกาแฟที่เป็นบ้านโบราณก็ยังไม่เคยเห็น เมื่อตื่นเต้นจนพอใจแล้วก็ถึงเวลาสั่งกาแฟ ฉันสั่งเอสเพรสโซ เมล็ด Dark wood มีคำอธิบายภาษาเกาหลีบอกเอกลักษณ์และรสชาติของกาแฟอยู่ด้านล่าง เขียนไว้ว่า โคโคนัท บลูเบอร์รี ช็อคโกแล็ต ถั่ว ถ้าอ่านไม่ผิดมันแปลว่าถั่ว และอันข้างล่างข้าพเจ้าอ่านไม่ออก ภาษาเกาหลีที่เรียนมาคืนซอนแซงนีมไปจนหมด บุพการีรู้จะต้องภูมิใจอย่างแน่นอน แค่คิดก็น้ำตาจิไหลด้วยความปีติ
กาแฟเอสเพรสโซร้อนสนนราคา 5000 วอน ตีเป็นเลขกลมๆประมาณ 150 บาท เห็นราคาแล้วอย่าสะดุ้ง ราคากาแฟเกาหลีจะประมาณนี้อยู่แล้วนะคะ เพียงแค่ที่นามูไซโรพี่บวกไปเลยอีกพันวอน อเมริกาโนและกาแฟโคลด์บรูวก็ราคาเดียวกัน ลาเต้และคาปูชิโนราคา 6-7 พันวอนตามลำดับ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเมนูแฮนด์ดริปที่มีเมล็ดกาแฟที่หลากหลายอย่างตัว Woods ที่มีรสโดดเด่นของชินนามอนสมชื่อ woods มีตัว Wings Ethiopia Gedeb ที่ได้ความเปรี้ยวของมะม่วงนำ Ethiopia Tirtiro Goye ตัวนี้บาริสต้าแนะนำสำหรับคนชอบกาแฟเปรี้ยว ๆ เพราะฉ่ำด้วยแมงโก พลัม และบลูเบอร์รี และตัว Panama Gesha Sillvia ซึ่งตัวนี้พี่อ่านไม่ทัน ขออภัย
เอสเพรสโซตัวดาร์ก วูดที่ฉันเอามาชิมในวันนี้ แค่อ่านดูก็รู้ว่าอร่อย เพราะความเป็นคนที่ชอบกาแฟออกแนวช็อคโกแล็ตคาราเมลอะไรเทือก ๆ นี้อยู่เป็นทุนเดิม ยิ่งบวกโคโคนัทเข้าไป ถึงจะนึกรสชาติไม่ออกแต่ก็พอจะเดาได้
บริเวณส่วนที่เป็นบาร์กาแฟอยู่ด้านหน้า เดินเข้าไปด้านหลังจะพบว่ามีโต๊ะจำนวนไม่มากนัก และภายในบ้านก็ไม่มีที่ว่างสำหรับเรา จึงต้องออกมานั่งจิบกาแฟสูดอากาศด้านนอกตัวบ้าน แต่ถึงคนจะแน่นก็ยังรับรู้ได้ถึงความเงียบสงบ ทุกคนต่างมานั่งอ่านหนังสือ จิบกาแฟและทำงานกันเงียบ ๆ ในห้วงเวลาแบบนี้ ถ้าจะมีใครกระซิบอยู่ข้างหูก็ยังรู้สึกว่าดังเกินไป อากาศดีจนอยากจะนั่งอยู่ตรงนี้นาน ๆ เมื่อแหงนหน้ามองออกไปนอกตัวร้าน จะเห็นหลังคาของร้านที่เป็นบ้านโบราณรายล้อมไปด้วยตึกสูงสมัยใหม่ เป็นสถาปัตยกรรมที่คอนทราสต์กันดี
ฉันชอบอะไรแบบนี้จัง
ฉันเดินไปรับเอสเพรสโซร้อน ระหว่างนั้นออนนีบาริสต้าก็ถามว่าเราเป็นคนญี่ปุ่นใช่ไหม เมื่อหันไปมองหน้าเกิร์ลแก๊งที่มาร่วมทริปจิบกาแฟในวันนี้ เพิ่งนึกได้ว่าไม่มีใครหน้าบอกยี่ห้อว่าเป็นคนไทยเลย ฉันแอบถามออนนีว่า มีคนไทยมาที่ร้านนี้เยอะไหม ออนนีตอบว่า "อ็อบซอโย" แปลว่าไม่มีเลยนั่นเอง หรืออาจจะมีแต่ออนนีไม่รู้ก็ได้ ดูได้จากที่ทักว่าพวกเราเป็นเจแปนนีสแล้วนะครับ
เอสเพรสโซร้อนในแก้วสีน้ำตาลใบหนาส่งกลิ่นหอมอวล เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำอุ่นในแก้วใบใส กลิ่นหอมจนอยากให้ทั่นผู้อ่านได้กลิ่น ความหอมของช็อคโกแน็ตนวลนมค่อนข้างชัด ถึงแม้จะมีความเป็นบลูเบอร์รีฉ่ำ ๆ แต่ก็ไม่เปรี้ยวโดด มีความหวานขมที่บาลานซ์ ดื่มจนหมดแล้วก็อยากดื่มอีกเรื่อย ๆ คาแรคเตอร์ของกาแฟเด่นชัด แม้คนที่ไม่ใช่เอ็กซ์เพิร์ตทางด้านกาแฟมากนัก ก็รู้ว่าได้รส กลิ่น อโรมาตามที่บอกไว้ข้างต้นเป๊ะ ๆ
ฉันซื้อเมล็ดกาแฟ Rwanda Gato Keza ซึ่งเป็นตัว Limited Edition ของที่ร้าน เอากลับมาฝากเพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านกาแฟที่เมืองไทย รวันดามีฉายาว่า "ดินแดนแห่งขุนเขา" (Land of a thousand hills) จึงมีความสูงที่พอเหมาะกับการปลูกกาแฟ เอกลักษณ์ของกาแฟรวันดามักมีความสดชื่นด้วยรสของผลไม้อย่างองุ่นแดงและแอปเปิล เหมือนได้ดื่มกาแฟที่มีรสชาติความเป็นไวน์ ฉันคิดว่าเพื่อนน่าจะชอบกาแฟรสชาติประมาณนี้ ความหอมทะลุถุงของเมล็ดกาแฟทำให้อยากจะเอาจมูกไปแนบกับถุงบ่อย ๆ กว่าจะพาข้ามน้ำข้ามทะเลมา ก็น่าจะบอบช้ำไปพอประมาณ เปิดกระเป๋าเดินทางออกมากลิ่นกาแฟก็หอมอบอวล
ถ้าจะมีใครให้ช่วยแนะนำร้านกาแฟที่เสิร์ฟกาแฟคุณภาพเยี่ยม สำหรับฉัน Namusairo Coffee เป็นหนึ่งในนั้น ฉันการันตีว่าคุณจะไม่มีทางผิดหวังเลยจริง ๆ ค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in