ร่างสูงชะลูด ติดออกจะเก้งก้าง กางเกงยีนส์สีอ่อนและมือใหญ่ที่คีบบุหรี่ในมือ ฉันยืนมองชายหนุ่มตรงหน้าที่สวมใส่เสื้อยืดสีขาวลายสกรีนตัวหนังสือ surreal but nice มาครู่นึงแล้ว ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นโควทจากภาพยนตร์เรื่องอะไรสักอย่าง เพียงแต่ตอนนี้หัวฉันตื้อเกินกว่าที่จะนึกออกว่ามันมาจากไหน
เขาดูดบุหรี่เข้าเต็มปอดอีกครั้งก่อนจะพ่นควันเทาที่คละคลุ้งไปกับอากาศในเวลาตีสองกว่า ถนนยังมีผู้คนที่เดินสวนกันเล็กน้อย แต่แปดสิบเปอร์เซนของคนเหล่านั้นล้วนไม่มีสติกันเสียเท่าไหร่ แหงล่ะ มันคือคืนวันศุกร์ ช็อตตากีล่าขมปล่าที่พวกคนกระหายวันหยุดต่างพากันยกดื่มได้ทำลายเซลล์สมองทุกคนกันไปถ้วนหน้า
ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น
"เสื้อสวยดี"
ชายหนุ่มเงยหน้าเมื่อฉันชมไป เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มองฉันที่นั่งเหยียดขาบนฟุธบาทของถนนด้วยแววตาความขบขัน สภาพฉันคงดูไม่จืด ผมประบ่าที่ยุ่งเหยิง ชุดกระโปรงที่ยับยู่ยี่ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าชายกระโปรงอาจจะเลอะซอสสปาเก็ตตี้จากเมื่อหัวค่ำ แต่ฉันเมา ความกล้าในตัวของฉันมักจะมีมากกว่าปกติเสมอเวลาฉันเมา
"นอตติ้งฮิลน่ะ"
"อะไรนะ"
"เสื้อที่ผมใส่ เป็นโควทจากฮิวจ์ แกรนต์"
อ่าใช่ และจูเลีย โรเบิร์ตส์
"ถ้าอย่างงั้นรับแอพพริคอทเชื่อมน้ำผึ้งหน่อยมั้ยล่ะ" ชายหนุ่มหัวเราะ ลักยิ้มบุ๋มเข้าไปในแก้มทั้งสองข้าง ปฎิเสธไม่ได้เลยว่านั่นทำให้ฉันใจเต้น
"คุณคิดว่าตัวเองเป็นฮิว แกรนต์รึไง"
"ผมไม่คิดว่าตัวเองบริทิชพอ"
"ทำไมกันล่ะ คุณไม่ชอบจิบน้ำชายามบ่าย พร้อมกับทานสโคนรึไง"
ฉันแกล้งดัดเสียง ดึงความสามารถในการปลอมสำเนียงบริทิชที่ห่วยแตกออกมาใช้
"นายเป็นพ่อมดน่ะแฮร์รี่--- อะไรนะ ผมเป็นพ่อมดเหรอ เฮ้ๆ หยุดเดี๋ยวนี้เลย"
เขาร้องปรามเมื่อฉันหัวเราะดังลั่น สำเนียงอเมริกันที่ถูกดัดแหลมจี้จุดฉันเข้าอย่างจัง สองมือกุมท้องจนตัวงอเพราะการเลียนแบบเป็นแฮกริดและเด็กชายผู้รอดชีวิตเมื่อกี้มันผิดเพี้ยนจนอดไม่ได้ ชายหนุ่มยกมือขึ้นมากุมอกตัวเองราวกับว่าโดนทำร้ายจิตใจอย่างหนัก แต่รอยยิ้มบนใบหน้าเขาทำให้ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้ติดใจอะไร
"หิวรึเปล่า ผมรู้จักร้านพิซซ่าที่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่"
"เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจอย่างยิ่ง" ฉันยกมือขึ้นมาลูบคาง เลียนแบบพวกนักสืบในยุคห้าศูนย์
"ฉันจะไปกับคุณก็ต่อเมื่อคุณไม่ใช่สามสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดต่อไปนี้" ฉันชูสามนิ้วขึ้นบนฟ้าอย่างรวดเร็วจนเซไปด้านหลังเล็กน้อยเพราะศูนย์เสียการทรงตัว ชายหนุ่มตรงหน้ารับมุกด้วยการพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง
"หนึ่ง คุณไม่ใช่พวกเกลียดเพลงแจ๊ส"
"แน่นอนว่าไม่ พอล แองก้าคือหนึ่งในนักร้องที่ผมจะเปิดในงานแต่งงานของผม"
"แค่พอลเหรอ"
"เดอะ ฮาร์ปโทนส์ด้วย"
"แล้วแฟรงค์ของฉันล่ะ เขาก็ต้องการสปอตไลท์ของเขาเหมือนกัน"
"โอเค อาจจะมีแฟรงค์ แต่ก็ต้องดูก่อนว่าเจ้าสาวผมเขาจะว่ายังไง"
"จะบอกอะไรให้นะ ถ้าเจ้าสาวของคุณไม่ชื่นชอบซินาตรา ฉันคิดว่าคุณควรพิจารณาการหาเจ้าสาวคนใหม่อย่างยิ่งเลยล่ะ นี่คือคำเตือนที่เต็มไปด้วยความหวังดี" นายฮิว แกรนต์ 2.0 หลุดยิ้มเล็กน้อย นั่นทำให้คิ้วฉันขมวดเป็นปมมากกว่าเดิม เขาต้องเข้าใจว่านี่มันเรื่องซีเรียสมากๆ ไม่สิ เรื่องคอขาดบาดตายเลยต่างหาก ไม่มีทางที่คนๆ นึงควรจะอยู่ครองรักกับใครสักคนที่ไม่คิดว่าแฟรงค์คือมนุษย์ที่สุดเจ๋ง
"ต่อไปข้อที่สอง" ฉันลดนิ้วลงมาพร้อมกับหรี่ตามองเขา
"นายเป็นมักเกิ้ลรึเปล่า"
"คุณนี่มัน" ชายหนุ่มหัวเราะพลางส่ายหัวด้วยความระอา แต่ฉันไม่ลดละ
"ฉันไม่ใช่พวกเหยียด สมัยนี้อะไรๆ มันก็เสรีทั้งนั้น แต่มันคือข้อเท็จจริงที่ฉันควรรู้"
"คุณดื่มไปกี่ช็อต"
"ฉันถามคุณก่อน"
"แต่ผมถามคุณกลับ" เขากอดอกพร้อมกับเลิกคิ้วเล็กน้อย
"เก้า"
"ให้ตาย" ชายหนุ่มทำหน้าเหลือเชื่อ แต่เขาก็เล่นไปตามน้ำ "โอเค ผมไม่ใช่มักเกิ้ล และไม่---" เขาแย้งขึ้นมาทันทีเมื่อฉันอ้าปาก "ผมจะไม่แสดงเวทมนตร์อะไรเป็นการพิสูจน์ทั้งนั้น เพราะมันผิดกฎกระทรวงเวทมนตร์ คุณอยากมาเยี่ยมผมที่อัซคาบันรึไง"
"แฟร์พอยท์" ฉันพึมพัม เหมือนจะแอบได้ยินเขาพูดว่า 'เมาเป็นบ้า' ด้วย แต่ไม่แน่ฉันอาจจะหูฝาดไปเอง
"ข้อสุดท้ายคืออะไร ผมหิวจะตายอยู่แล้ว"
"ใช่ๆ ข้อสุดท้าย" ฉันพยักหน้าให้กับตัวเองก่อนจะกลับมาทำหน้าขรึมอีกครั้ง
"คุณเป็นฆาตกรต่อเนื่องรึเปล่า"
"yes sweetie, you caught me."
"ว่าแล้วเชียว" ฉันหลุดหัวเราะเสียงดังจนคนที่เดินผ่านหันมามอง ชายหนุ่มสาวเท้าเข้ามาใกล้ รู้ตัวอีกทีเขาก็นั่งยองๆ ตรงหน้าฉันพร้อมชูมือทั้งสองขึ้นประหนึ่งว่าตัวเองได้ยอมแพ้
"ผมเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ชอบทำให้เหยื่อตายใจด้วยการเอาอาหารอิตาเลี่ยนมาหลอกล่อและเมื่อคุณอิ่มจนหลับไป นั่นแหละคือตอนที่ผมจะลงมือ คุณหิวมั้ย"
"คำตอบของฉันมันขึ้นอยู่กับว่าร้านนั่นมีแครมบรูว์เลรึเปล่า"
"มีสิ ทีรามิสุก็อร่อยดีเหมือนกัน"
"งั้นช่วยอะวาดา เคดาฟราฉันหลังของหวานละกันนะ"
"สงสัยคงต้องคราวอื่นแล้วล่ะเพราะผมไม่ได้พกไม้กายสิทธิ์มาด้วย แค่อาหารอิตาเลี่ยนสำหรับคืนนี้ก่อนแล้วกัน" ชายหนุ่มบีบปลายจมูกฉันเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นแล้วยื่นมือมาให้ ฉันมองมือใหญ่ที่แบรอชั่วครู่ก่อนจะเอื้อมไปจับ พิซซ่าร้อนๆ กับขนมหวานฟังดูไม่เลวเลยทีเดียว
"นี่"
"หืม"
"ยินดีที่ได้รู้จักคุณนะ" ฉันหันไปบอกระหว่างเราสองคนเดินไปตามถนน
"เช่นกัน"
"เหมือนฝัน แต่ว่าน่ายินดีจริงๆ"
(end)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in