เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
This Happened - เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงTeepagorn W.
On the Way to School
  • เมื่อคืนดู On The Way to School (2015)

    สารคดีที่พยายามแสดงให้เห็นว่า 'การไปโรงเรียน' ที่ผู้คนในประเทศที่พัฒนาแล้วถือเป็นของตายนั้น จริงๆ แล้วเป็นเรื่องไม่ง่ายสำหรับเด็กในอีกหลายๆ ประเทศ ซึ่ง 'การไปโรงเรียน' ในที่นี้ มีความหมายทั้ง 'การมีโอกาสทางการศึกษา' และ 'การเดินทางไปโรงเรียน'

    เขาบอกว่า ในบางที่นั้น Knowledge is a conquest ความรู้นั้นต้องพิชิตและเผชิญอันตรายจึงจะได้มา

    หนังสำรวจชีวิตของเด็กสี่ประเทศผ่านเคสที่มีเสน่ห์มากๆ ในเคนย่า แจ๊คสันกับน้องสาวต้องเดินเป็นระยะ 15 กิโลเมตรทุกเช้า ผ่านฝูงสัตว์ เช่นช้างป่าที่อาจทำอันตรายกับเขา (เขาต้องปีนขึ้นไปบนเนินสำรวจเส้นทางสัตว์เพื่อหลบหลีก) ในโมรอคโค เด็กสาวต้องปีนเขาเป็นระยะ 18 กิโลเมตร ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ทุกสัปดาห์ เพื่อไปเข้าโรงเรียนประจำ (พร้อมทั้งหิ้วไก่ไปแลกเป็นอาหารที่ตลาดด้วย)

    ในอาร์เจนตินา คาร์ลิโตและน้องสาวต้องขี่ม้าราวๆ 15 กิโลเมตรทุกวันเพื่อไปโรงเรียนเช่นกัน และในอินเดีย แซมผู้มีขาพิการ ได้รับการช่วยเหลือ ดัน และดึงรถเข็น จากพี่น้อง บนระยะทาง 4 กิโลเมตร เพื่อให้ได้รับการศึกษาทุกวัน

    หนังใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อเล่าเรื่องราวเหล่านี้ และอีก 15 นาทีที่เหลือเป็นฉากที่แสดงให้เห็นสภาพของโรงเรียน และสัมภาษณ์สั้นๆ ถึงความใฝ่ฝันของเด็กทั้งสี่ประเทศ

    On The Way to School ไม่พยายามเจาะประเด็นอะไรลงไป มันแสดงตัวอย่างชัดเจนว่ามันจะไม่ทำหน้าที่อย่างนั้น (ก็น่าเสียดาย) มันเพียงฉายให้เราเห็นภาพอย่างชัดเจนเท่านั้น ว่าเด็กในประเทศทั้งสี่ (โดยเฉพาะในครอบครัวที่ยากจนหรือห่างไกลเป็นพิเศษ) มีวิธีไปโรงเรียนอย่างไร การไปโรงเรียนของพวกเขาลำบากยากเข็ญแค่ไหน

    นี่เป็นหนังที่สวยมาก โดยเฉพาะฉากในสองประเทศ คือโมรอคโค และอาร์เจนตินานั้น สวยสุดๆ เป็นการขี่ม้าไปโรงเรียนท่ามกลางภูเขาหิมะอันสูงชันและภูมิประเทศที่สวยงามเป็นพิเศษ

    ถึงอย่างนั้น เราก็ยังรู้สึกว่า On The Way to School นั้นมีความ 'ไม่จริง' อยู่พอสมควร เหตุผลสนับสนุนที่นึกขึ้นมาได้เร็วๆ มีสองอย่าง หนึ่งคือมุมกล้องที่สวยเกินไป เป็นหนังเกินไป ทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้ว ทีมถ่ายนั้นวางแผน วางสคริป หรือเซตอัพเหตุการณ์บางอย่างมาแล้ว (ไม่งั้นจะเอากล้องไปรับไม่ทัน) และสองคือเพลงประกอบที่พยายามยกระดับให้การไปโรงเรียนของเด็กเหล่านี้เป็นการผจญภัย เกือบๆ จะเป็นวรรณกรรมสำหรับเด็ก สองอย่างนี้ทำให้หนังรู้สึกว่าถูกประกอบขึ้นมาอย่างวิจิตรเกินจริง ผู้ชมจะสามารถเห็นรอยแยกรอยประกอบเหล่านี้บนหน้าจอได้

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in