'คบกันมานานเนี่ย น้องเขาจูบเราบ่อยไหม?'
'โห บ่อยเลยล่ะ'
'มีครั้งไหนแบบว่า ลืมไม่ลงเลยป่ะ เล่าให้ฟังหน่อย'
'ลืมไม่ลงเลยเหรอ จริง ๆ ก็ไม่เคยลืมทุกครั้งนะ' ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง
'อืม.. น่าจะตอนนั้นล่ะมั้ง..'
อิศราจ้องมองใบหน้ากลมของชายหนุ่มอายุห่างกันเกือบรอบที่กำลังทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ในคลิปวิดีโอด้วยหัวใจที่เต้นตึกตัก ฝ่ามือขาวๆ กุมมือของชายคนเดียวกันนั้นเอาไว้แน่น มันทั้งเย็น ทั้งชื้นไปด้วยเหงื่อและคิดว่า 'เจ้าบ่าว' ของเขาก็น่าจะสัมผัสได้
เขาเหลือบมองชายคนนั้นยืนอยู่ด้านข้าง รอยยิ้มเล็กๆ ประดับแต้มบนมุมปากขณะเจ้าตัวกำลังเงยหน้ามองภาพเคลื่อนไหวของตัวเองที่โลดแล่นอยู่บนจอโปรเจ็คเตอร์
ขี้โกง! ขี้โกงชะมัด
ทำไมมีเซอร์ไพรซ์แบบนี้ด้วยล่ะ! คนอายุน้อยกว่าทำหน้ามุ่ย เฝ้ารอฟังคำตอบของจิรากรที่ดูคล้ายจะคิดนานเหลือเกิน แต่ความจริงแล้วเวลามันอาจเพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที เห็นทีจะมีแต่เขาที่เอาแต่กระวนกระวาย
จูบที่ลืมไม่ลงเหรอ? พี่เอ๊ะจะชอบแบบไหนกันนะ
'แต่มันจะเรียกว่าจูบได้ไหม เอาเป็นว่าไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแหละ' เสียงทุ้มสากเว้นช่วงหายใจ
'ตอนนั้นน้องเขาไม่ได้จูบผม เขามอบมันให้คนอื่น ไม่แม้แต่จะเหลียวมามองผมด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ทำไมนะ มันติดตามากเลย เขาสะกดให้ผมละสายตาไม่ได้ เขาทำให้ผมกลายเป็นเด็กผู้หญิงอายุสิบสี่ที่มโนตัวเองเป็นนางเอกนิยายเรื่องที่เธอชอบ มันมีความสุขแปลกๆ นะ บอกไม่ถูกเหมือนกัน แค่คิดว่าตัวเองอยู่ตรงนั้นมันก็มีความสุขแล้ว บ้าเนอะ ฮ่ะๆ'
พอเสียงในคลิปพูดจบ เจ้าของเสียงตัวจริงก็หันหน้ากลับมามองคนรักของเขาและคลี่ยิ้มบาง ๆ กลางสายตางุนงงของคนที่ยังไม่รู้ตัว ยังคิดไม่ออกว่าความหมายของประโยคเหล่านั้นคืออะไร อิศราได้ยินเพียงเสียงเซ็งแซ่ของผู้คนที่มาร่วมงาน เสียงปรบมือเกรียวกราดเมื่อตอนที่คลิปนั้นจบลงไป
หมายถึงตอนไหนล่ะ?
แต่ช่างเถอะ เอาไว้ทีหลังก็ได้
"จูบเลย! จูบเลย!"
เสียงเชียร์รอบข้างตะโกนร้องขึ้นมา ทั้งสองคนปิดเปลือกตาลงอย่างเชื่องช้า บอกไม่ได้ว่าใครขยับเข้าหาใคร หรือพวกเขาทั้งคู่ต่างขยับเข้าหากัน แต่บทสรุปของฉากนั้นคือฉากจูบอีกครั้งที่ตรึงแน่นในความทรงจำอย่างไม่อาจลืมเลือน
...ทอมคงไม่รู้ตัว...
ผมได้ยินเสียงเชียร์กรีดร้องเรียก 'หน้ากากทุเรียน' จากหน้าเวที แต่สายตาของผมไม่อาจเบือนหนีไปจากก้อนกลมๆ ตะมุตะมิที่ใส่สูทสีเขียวตัวหลวมโคร่งกับหน้ากากหน้าตาน่ารัก(?) อย่างน่าประหลาด เขาคนนั้นโบกมือให้ผู้ชมจากบนเวทีท่ามกลางแสงไฟสว่างจ้าที่สาดส่องลงมา พอหลับตานึกถึงเสียงสวรรค์ที่ชายหนุ่มเอ่ยร้องขับขานเพลงแล้วเพลงเล่ายิ่งตอกย้ำว่าสวรรค์มีจริง และคน ๆ นี้คงร่วงหล่นลงมาจากบนนั้น
หน้ากากทุเรียนยกมือขึ้นแตะริมฝีปากผ่านหน้ากากชิ้นหนาและโบกมันไปรอบ ๆ ยิ่งเรียกเสียงกรี๊ดให้ดังขึ้นกว่าเดิม วินาทีนั้น สมองที่ขาวโพลนของผมไม่คิดอะไร ผมเพียงแค่อยากเข้าไปยืนอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางฝูงชนและรับเกล็ดละอองหิมะนุ่มละมุนที่นางฟ้าโปรยปรายลงมา.. แค่เพียงสักนิดก็ยังดี
คิดว่าผมหวังน้อยเหรอ? ผมอยากเก็บเอาทุกอย่าง แม้แต่ลมหายใจของเขา แม้แต่ห้วงอากาศที่กั้นขวางระหว่างเรา ผมก็อยากเก็บมันใส่ขวดเอาไว้สูดดมไปตลอดกาล
ผมหวังมากเกินไปด้วยซ้ำ
น่าเสียดายที่ผมทำได้แค่เพียงหวัง ไม่อาจครอบครองสิ่งใดได้เลย
ไม่อยากเชื่อว่าจะมีวันนี้.. วันที่ทุกลมหายใจของเขา ทุกตารางนิ้วบนร่างกายเขา.. เป็นของผมแต่เพียงผู้เดียว
"พี่เอ๊ะ!" อิศราเอ่ยเรียกพลางตบฝ่ามือลงบนโต๊ะอาหารดังปึ้งทำเอาคนถูกเรียกถึงกับสะดุ้ง
น่ากลัวว่ามือคู่นั้นจะเจ็บ
"เมื่อคืนทอมเก็บห้องใช่ป่ะ แล้วทีนี้ทอมไปเจอคลิปที่เปิดในงานแต่งเราอ่ะ" ดวงตาคู่สดใสลอบชำเลืองมองคนที่นั่งพยักหน้าหงึกในมือยังคาถ้วยกาแฟด้วยความหวังว่าวันนี้จะยอมใจอ่อน "ทอมยังคิดไม่ออกเลยอ่ะว่าพี่เอ๊ะพูดถึงตอนไหน บอกทอมหน่อยน้า"
แน่ะ.. มีการทำเสียงอ้อน
จิรากรยกยิ้มและยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ
คงกลัวว่าตัวเองจะเผลอทำอะไรตลก ๆ หรือน่าเกลียดออกไปล่ะสิ แต่ไม่ต้องกลัวหรอก มันไม่น่าเกลียดสักนิด
นั่นน่ะ... น่ารักที่สุดเลย
"ไม่บอก"
#kisstoberชกฟ
By Cyanxweek
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in