เขาไม่น่ารีบมา.. ยังเหลืออีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะได้ขึ้นไปร้องเพลง
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก ร่างกายเริ่มไหลไปตามเก้าอี้นั่งอย่างกับคนไร้กระดูก
พี่เอ๊ะทำอะไรอยู่นะ.. ไลน์ไปก็ไม่ตอบ
ริมฝีปากสีสวยยื่นยู่ นิ้วเรียวกดออกจากแอพสีเขียวที่เขาแทบจะเข้าไปดูทุก ๆ สองนาทีว่าคนเพียงคนเดียวที่อยากให้อยู่เป็นเพื่อนนั่งคุยจะอ่านข้อความของเขาหรือยัง
การค้นโทรศัพท์มือถือตัวเองเล่นคงจะเป็นอะไรที่แก้เบื่อได้ดีที่สุดในยามนี้ เป้าหมายต่อไปคือแกลลอรี่
นิ้วขาวสไลด์หน้าจอลึกลงไปก่อนที่รอยยิ้มจาง ๆ จะระบายขึ้นมาบนใบหน้าเมื่อเขาขุดลึกลงไปถึงสมัยแข่งขันในรายการหน้ากาก มันเป็นความทรงจำดี ๆ ที่ถ่ายเก็บจนเกือบล้นเครื่อง
อ๊ะ.. รูปนี้มัน..
อิศราชะงักมือ คิ้วสีเข้มขมวดพลางพยายามนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นที่ผ่านมาสักพักนึงแล้ว
จริงสินะ วันนั้นมัวแต่ดีใจจนลืมส่งรูปให้พี่เอ๊ะเลย..
ว่าแล้วก็กดแชร์ก่อนจะเลือกแอพพลิเคชั่นเดิมที่เพิ่งกดออกมา ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง
พี่จะลืมมันไปแล้วหรือยังนะ..
วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของซีซันสอง ที่รายการให้เกียรติเชิญเหล่าหน้ากากจากซีซันแรกไปร่วมฉลองให้กับแชมป์คนใหม่ด้วย มันทำให้อิศราได้กลับมาสวมชุดของหน้ากากทุเรียนที่เขาไม่ได้ใส่อีกครั้ง
แถมยังไม่ได้ขึ้นเวทีนี้มานานแล้วด้วย
ขณะเตรียมตัวอยู่ในห้องพักมีแต่ความตื่นเต้น เขาเดินวนไปวนมา ทบทวนเนื้อเพลง 'คิดถึง' ที่จะได้ร้องร่วมกับใครคนนั้นอีกครั้งเพื่อไม่ให้พลาดเผลอลืมเนื้อกลางเวที
เพราะตอนที่ซ้อม.. ใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ครั้งที่สามแล้วแต่ก็ยังไม่ชินสักที
ไม่ชินกับความเย็นชาที่แผ่แผดออกมาจากคนสวมชุดขนนกสีดำ แทนที่มันจะเป็นความอบอุ่นที่เคยโอบกอดเขาหลายต่อหลายครั้งเมื่อนานมาแล้ว..
แต่มันก็นานแล้วจริง ๆ นั่นแหละ.. นานจนคิดว่าหากปล่อยให้นานกว่านี้ เขาคงจะลืมมัน คงจะไม่คิดถึงและโหยหามันอีก
จะเป็นไปได้หรือเปล่านะ..
เขาน่ะ.. จะลืมคน ๆ นั้นได้จริง ๆ เหรอ..
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังแว่วมาเบา ๆ อิศราสะดุ้งเฮือกจากภวังค์แล้วรีบสาวเท้าไปยังประตูเพื่อไม่ให้ใครที่อยู่อีกฟากนั้นต้องรอนาน
อาจจะเป็นทีมงานมาคุยเรื่องคิว
"ครับ - " มือบางหมุนลูกบิดออก แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ทีมงาน แต่เป็นหนึ่งในหน้ากาก.. ที่เขาต้องร้องเพลงคู่ด้วยในคืนนี้
อิศราได้แต่ขมวดคิ้ว พูดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก เขาควรจะชวนอีกคนเข้ามาในห้องหรือเปล่าก็ไม่รู้
"อัดรายการเสร็จ รีบกลับหรือเปล่า?" จิรากรเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ที่คนอายุน้อยกว่าชักจะชินกับมันเสียแล้ว
คนสวมชุดสีเขียวส่ายหน้า และเพียงแค่นั้น เจ้าของหน้ากากอีกาดำก็พยักหน้ารับและเดินจากไปโดยไม่ล่ำลา
ยังโกรธอยู่จริง ๆ ด้วย..
มือบางที่โอบอุ้มหน้ากากสีเขียวเอาไว้เผลอกระชับมันอย่างไม่กลัวว่าหนามปลอม ๆ บนหน้ากากนั่นจะทิ่มแทงให้เสียดผิว
ทั้งสองคนยืนประจันหน้ากันในสตูดิโอขณะที่ผู้ชมถูกไล่ออกไปหมดแล้ว ทำไมต้องเป็นกลางเวทีน่ะเหรอ เพราะตอนอัดรายการเสร็จ ทุกคนก็จะไปรวมตัวพูดคุยกันข้างหลัง ตรงนี้จึงเหมาะที่จะมาพบปะกันตามลำพัง.. และมันก็เป็นส่วนที่เงียบที่สุด
แต่ถึงกระนั้น มีโอกาสทั้งที อิศรากลับไม่กล้าเงยหน้าสบตามองอีกฝ่าย ดวงตากลมหลุบต่ำอาศัยแต่การฟังเสียง เขาได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศดังเบา ๆ เคล้าคลอไปกับเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่ไม่ใช่ของตัวเอง
"ทอม คือพี่ - " จิรากรเม้มริมฝีปากและถอนหายใจอีกครั้ง ไม่ว่าจะพูดอะไรแต่ดูแล้วคงอึดอัดใจไม่น้อย
"ครับ?"
"พี่.." เสียงสากเอ่ยขึ้นมาอีกก่อนจะเงียบไปนาน คนสวมชุดขนนกสีดำสูดลมหายใจเช้าปอดและผ่อนมันออก "พี่.. ยืมหน้ากากหน่อย"
"ฮะ?" อิศราเผลอร้องเสียงหลง แต่ก็ถึงบางอ้อทีหลังว่านั่นมันก็แค่การบ่ายเบี่ยงของคนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่พูด ถึงพยายามหาข้ออ้างอื่นออกมา
คนอายุน้อยกว่าพยักหน้ารับแล้วส่งหน้ากากหนามในมือให้อีกฝ่ายไป "พี่เอ๊ะจะเอาไปทำอะไรอ่ะ"
"ก็เห็นว่าทุเรียนมันดังดี เลยจะถ่ายรูปอวดแฟนคลับ"
"ง - งั้นทอมถ่ายให้นะ เดี๋ยวส่งให้ในไลน์" ว่าแล้วมือเรียวก็ควักโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างไม่รีรอ
เขาเองก็เหมือนกัน.. ทั้งที่มีเรื่องอยากจะพูด ซักซ้อมท่องประโยคในใจซ้ำไปซ้ำมา แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการตามน้ำไป..
อิศรายกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปอีกาดำที่สวมหัวทุเรียนแล้วหลุดหัวเราะพรืดรูปนั้นมันดูตลกพิลึก จนลดโทรศัพท์ลงแล้ว เขาก็เลื่อนหาไลน์ของอีกฝ่าย แต่มันต้องใช้เวลานานสักหน่อย เพราะสถานะของเขามันไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์ที่จะได้คุยกันบ่อยนัก
"เอ.. ไลน์พี่เอ๊ะ.. อ๊ะ เจอแล้ - "
ยังไม่ทันจะได้กดส่งไป ข้อมือของเขาก็ถูกอีกฝ่ายคว้าหมับ ยามเงยหน้าขึ้นมาสบตาก็เห็นเพียงดวงตาคู่สีเข้มที่จับจ้องเขาเขม็งจนหัวใจสั่นสะท้าน
"พี่.." จิรากรหลับตาลงและพึมพำออกมา "พี่ขอ.. จูบทอมได้ไหม?"
จำไม่ได้ว่าตัวเองตอบอะไรกลับไป หรืออาจจะไม่ได้พูดอะไรเลย
มันเหมือนภาพตัด ความรู้สึกเดียวที่เขารับรู้ได้คือริมฝีปากอุ่นที่ทาบประทับลงมาอย่างโหยหา อิศราหลับตาลงและปล่อยให้สัมผัสที่เขาแสนคิดถึงล่วงล้ำเข้ามาภายใน
ลิ้นสากที่เคยคิดว่ามันไม่หลงเหลือความอบอุ่นแล้วกลับอบอุ่นและนุ่มละมุนได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทุกจังหวะที่เรียวลิ้นของจิรากรขยับและสัมผัสยังพื้นที่ในโพรงปาก มันคือความรู้สึกที่เขาคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้พบกับมันอีกแล้ว..
เลือดในกายร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างกับมันกำลังจะเดือด ร่างของเขากำลังร้อน และความร้อนก็ตีรื้นขึ้นมาอยู่ถึงบนใบหน้าขาวจนกลายเป็นสีแดงเรื่อจาง
..ขึ้นไปถึงรอบดวงตา จนหยาดน้ำใสแทบจะเอ่อล้น
แต่เขาต้องสะกดกลั้นมันเอาไว้
เขาจะไม่ร้องไห้หรอก เขาต้องมีความสุขกับมันสิ เพราะว่านี่.. อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่พี่เอ๊ะจะยอมจูบด้วยจริง ๆ แล้วก็ได้..
อิศราข่มตัวเองไม่ให้สะอื้นยามที่ริมฝีปากแสนอุ่นนั่นผละออก ข่มร่างกายบางไม่ให้สั่นเทิ้ม ข่มน้ำเสียงให้ราบรื่นปกติ แต่มันทำได้ยาก..
"พี่เอ๊ะ.." เสียงใสแว่วออกมาอย่างสั่นเครือทั้งที่เขาก็พยายามเต็มที่แล้ว
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายกลับลงคอ
อย่าพูดออกไปเลย ยังไงก็ไม่มีทางหรอก..
"พี่เอ๊ะ.." อิศรากลืนเสียงสะอื้น หักหลังเสียงในสมองที่เอาแต่ตะโกนว่า 'อย่า!' เพราะหากถูกปฏิเสธกลับมา เขาคงจะทนรับมันไม่ไหว "เราเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม.."
พูดออกไปจนได้..
ดวงตาคู่สีสวยไม่กล้าแม้แต่จะช้อนมองใบหน้าของคนที่เอาแต่เงียบนิ่งไป กระทั่ง..
"พี่ก็รออยู่.."
คนอายุมากกว่าระบายยิ้มจาง "รออยู่ว่าเมื่อไหร่ทอมจะพูดออกมา.. บอกว่า 'เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม'"
มือหนาของชายมีอายุยื่นหน้ากากสีเขียวในมือคืนให้
"พี่ไม่อยากเริ่มต้นใหม่.. แต่พี่อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม"
เพียงแค่นั้นน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลพราก อิศราเงยหน้ามองคนตรงหน้าแล้วพร่ำพูดออกมาพร้อมเสียงสะอื้นอย่างไม่อาย "จริง ๆ นะ! พี่เอ๊ะยอมคืนดีกับทอมแล้วใช่ไหม"
ร่างสันทัดพยักหน้ารับ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ไฟในสตูดิโอก็ดับวูบเสียก่อนจนเขามองหน้ากันไม่เห็น
และมันก็ติดขึ้นมาอีกครั้ง
"อ้าว พี่เอ๊ะ น้องทอม? นึกว่ากลับกันไปแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วรีบกลับนะคะ เดี๋ยวจะปิดสตู" ทีมงานสาวพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินจากไป
ทิ้งให้อิศรากุลีกุจอปาดน้ำตาก่อนจะขานรับไล่หลังและคว้าเอาหน้ากากสีเขียวมาถือไว้ เรียวขาคล้ายจะก้าวหนีไปด้วยความขวยเขิน
"รีบกลับบ้านไหม?" เสียงทุ้มแว่วมาจากข้างหลัง ชายหนุ่มเพียงหันหน้าไป "ถ้าไม่รีบ.. แวะบ้านพี่ก่อนกลับก็ได้นะ"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in