...เพราะฉันเพิ่งบอกรักไปและเขาก็รับฟังทุกอย่างทุกถ้อยคำ เหมือนความฝัน
แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ ว่าพรุ่งนี้เรื่องของเราจะสุขหรือแสนเศร้า
จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอกที...
จะว่าไปนี่ก็นับเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้งที่เพลงนี้ถูกเปิดขึ้นจากโทรศัพท์ของผมหนุ่มนักศึกษาวัย 21 ปี "อีจูฮอน" และดูท่าว่าเพลงนี้จะยังคงเปิดซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าผมจะได้รับคำตอบจากหนุ่มน้อยคนนั้น..สำหรับผมแล้วเรื่องของความรักไม่มีหรอกครับ ข้อจำกัดที่เรียกว่าเพศหน่ะ ผมถือคติว่าผมรู้สึกใช่กับคนไหน...ก็คนนั้นแหละ แค่พอดีคนที่ผมรู้สึกใช่เขาเป็นผู้ชายเท่านั้นเอง
"เห้ยไม่เอาไม่เครียดน่าไอ้จูถ้าเขาไม่ชอบมึงเขาปฎิเสธมึงไปแล้ว เชื่อกู"
"ให้กูเชื่อคนนกๆแบบมึงอ่ะหรอแช"
แช ฮยองวอน เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมของผมเองครับหนุ่มร่างสูง ผมสีน้ำตาล หลับตลอดเวลาไม่รู้มันไปอดหลับอดนอนมาจากไหนนักหนาแต่ที่แปลกก็คือ ไม่ว่าจะมีสอบวิชาไหน คะแนนของมันก็เกินมีนตลอดในขณะที่ผมนั่งฟังตลอด แต่บางวิชาคะแนนมิดเทอมที่ผ่านมากลับต่ำกว่ามีนซะงั้น
อะไรวะ...แม่งไม่ยุติธรรม...
ส่วนที่ผมบอกว่ามันนก ก็เพราะมันเพิ่งไปบอกชอบน้องกี น้องปี1ตัวเล็กน่ารักนักร้องประจำวงดนตรีของคณะมา แต่ก็นั่นแหละครับ...ผลก็คือ นกไง...
น้องเขามีแฟนอยู่แล้ว เฮ้อ นี่แหละน้า ผลของการไม่หาข้อมูล ใช้ไม่ได้ๆ...
"โหคุณเพื่อนครับ ถึงกูจะนกแต่กูก็มากประสบการณ์นะเว้ย
จีบสาวมาก็เยอะล่ะ ทำไมจะไม่รู้ว่ะ เชื่อกู!อิมต้องมีใจให้มึงแน่ๆไอ้จู"
คนที่มันกำลังพูดถึงอยู่ตอนนี้คือ "อิมชางกยุน" หนึ่งในเชียร์ลีดเดอร์แถวหน้าของคณะหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารัก ตัวเล็ก มีผมสีน้ำตาล และแน่นอนว่ามีคนชอบเยอะมากๆซึ่งหนึ่งในนั้นก็ผมนี่แหละคนนึง
อิมคือเหตุผลหลักที่ทำให้ผมกลายมาเป็นนักฟุตบอลของคณะเพราะผมคิดว่าถ้าผมอยากจะใกล้ชิดอิมให้มากกว่านี้นักฟุตบอลนี่แหละคือตัวเลือกนึงที่น่าสนใจก็คนเรามักจะแพ้ทางคนที่เล่นกีฬาไม่ก็เล่นดนตรีใช่ไหมล่ะครับ? ซึ่งความจริงแล้วผมก็ได้ทั้งสองทางเลยนะแต่แหงล่ะ..เชียร์ลีดเดอร์ก็ต้องมาคู่กับกีฬาเปอร์เซ็นต์โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดมีมากกว่าเห็นๆผมก็เลยสมัครมาเป็นนักฟุตบอลคณะนี่แหละ
"สมพรปากมึงไอ้แช กูก็หวังให้เป็นอย่างนั้น แต่..."
"แต่อะไรว่ะ?"
"ก็อย่างที่เห็นอิมสนิทกับพี่นูขนาดนั้นบางทีเขาอาจจะคุยๆกันอยู่ก็ได้"
จริงๆคนนี้ผมไม่ค่อยอยากจะแนะนำให้รู้จักเท่าไหร่หรอกนะคือเขาชื่อ ชยอนู กัปตันทีมฟุตบอลของผมนี่แหละครับ หนุ่มสมาร์ทร่างสูงใหญ่หุ่นนักกีฬา สาวๆกรี๊ดกันสลบ เหอะ...น่าหมั่นไส้ชิบหาย
แต่ที่มากกว่านั้นคืออะไรรู้ไหมครับ? ก็ไอ้พี่นูเนี่ยมันชอบไปคุยเล่นกับอิมของผมอ่ะดิเห็นแล้วมันขึ้นทุกที ส่วนอิมก็ด้วยชอบมาคุยมาเล่นกับไอ้พี่นูเหมือนกันเฮ้อ...บางทีผมอาจจะนกว่ะ
"มึงคิดไปเองรึป่าว เขาอาจจะแค่สนิทกันแบบพี่น้องก็ได้"
"เหอะ...มึงไม่เคยเจอหรอว่ะหลายๆคู่แม่งก็เริ่มมาจากไอ้คำว่าพี่น้องนี่แหละ"
"คือไอ้จู กูมีเรื่องจะบอกมึง"
ทันใดนั้นเสียงนกหวีดซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงการเรียกผมให้ไปเริ่มซ้อมก็ดังขึ้น
"งั้นเอาไว้ก่อนนะมึง กูต้องไปซ้อมแล้วว่ะ"
"อ้าวเห้ย เดี๋ยวดิมึง!"
ไอ้แชนี่มันเป็นเพื่อนรักผมจริงๆนะครับแต่ถ้าผมหยุดฟังมันให้จบ มีหวังผมโดนไอ้พี่นูนั่นสั่งวิ่งรอบสนามเพิ่มแน่ๆ เห็นหน้าหล่อๆแบบนั้นนะแต่พอสวมบทกัปตันทีมเข้าทีโหดเอาเรื่องเลยทีเดียว
--------------------------------------------------------------------------------------------
"ปรี๊ดดดดดด!!"
เสียงนกหวีดดังขึ้นหลังจากเวลาผ่านไป15นาทีสัญญาณที่เตือนว่าหมดครึ่งแรกแล้วและนั่นหมายถึงว่ามันถึงเวลาพักของผมซะทีผมนั่งลงบนเก้าอี้ตัวนึงที่อยู่ข้างสนาม ตาเจ้ากรรมของผมดันเหลือบไปเห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าพอดิบพอดีมันคือภาพที่อิมเดินถือน้ำเข้ามาให้ไอ้พี่นู...
จะว่าไปแล้วนักฟุตบอลธรรมดาๆอย่างผมจะไปสู้อะไรกับกัปตันทีมสุดหล่อคนนั้นได้
เขามีรถ แต่ผมมีมอเตอร์ไซค์
รองเท้าของเขาคือไนกี้ แต่ของผมแค่รองเท้าที่ซื้อตามตลาดทั่วไป
เฮ้อ...ทำไมรังสีความนกของผมมันแรงนักนะ แถมวันนี้อิมไม่มองมาทางผมเลยซักนิด ผิดปกติมากๆเพราะโดยปกติแล้วผมจะได้รับรอยยิ้มแสนสดใสของเขามาอย่างน้อยก็วันละ2 ครั้ง
เอาน่าถึงคำตอบจะเป็นยังไงก็ไม่เป็นไรเว้ยไอ้จูแค่แอบชอบเขามาปีกว่าแค่นั้นเอง...ผมบอกกับตัวเองแต่ตอนนี้ถึงเวลาที่ผมต้องกลับเข้าสนามแล้วถ้าช้าเดี๋ยวไอ้กัปตันทีมหน้าบื้อนั่นจะง้าบหัวผมเอา
---------------------------------------------------------------------------------------------
ในที่สุดก็จบซักทีกับการซ้อมที่แสนยาวนานกว่า 2 ชั่วโมง ผมเดินกลับไปเอากระเป๋าที่วางไว้บนโต๊ะที่ตอนแรกนั่งคุยกับไอ้แช ขณะนั้นเองก็เหลือบไปเห็นกับกระดาษขนาดประมาณครึ่งเอสี่ที่ถูกฉีกออกมาจากสมุดเล่มไหนซักเล่มอย่างลวกๆ และเมื่อผมหยิบขึ้นมาดู ผมถึงกับต้องทำตาโตเพราะในกระดาษใบนั้นมีข้อความลายมือไก่เขี่ยเขียนไว้ว่า...
" กูจะบอกว่า มึงเชื่อกูเถอะว่าสองคนนั้นไม่ได้เป็นคนคุยกันหรอก เพราะไอ้พี่นูนั่นแม่งเป็นแฟนน้องกี
และพี่เขากับอิมก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน -แช- "
โอ้พระเจ้า....ผมกรี๊ดตรงนี้ได้ไหมเนี่ย!! สวรรค์โปรดจูฮอนจริงๆ ไอ้พี่นูมีแฟนแล้ว และสองคนนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน อย่างนี้ผมก็มีสิทธิอ่ะดิ! เมื่อเห็นดังนั้นผมจึงรีบวิ่งตรงไปที่กลุ่มของเชียร์ลีดเดอร์ทันที
"เจนนี่ มินว่าเรากลับบ้านกันเถอะ ไม่อยากเป็นก้างขวางคอคนแถวนี้" มินฮยอกหนึ่งในเพื่อนเชียร์ลีดเดอร์ของกยุนพูดขึ้นหลังจากผมไปถึง
"เอองั้นพวกเรากลับก่อนนะ ถ้าแกถึงบ้านแล้วทักบอกพวกเราด้วยนะอิม" เจนนี่เพื่อนเชียร์ลีดเดอร์อีกคนของอิมพูดขึ้นพร้อมกับยักคิ้วให้คนตัวเล็กข้างหน้าผม
"อื้อโอเค กลับกันดีๆ อย่าไปฉุดใครเขาล่ะ" อิมตอบกลับเพื่อนๆของเขาก่อนที่จะโบกไม้โบกมือลา
เอาล่ะ...ทีนี้ก็เหลือแค่ผมกับอิมสองคนแล้ว ตอนนี้เราทั้งคู่ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน กับพื้นสนามฟุตบอลสลับไปสลับมา โอ๊ยหัวใจของผมมันจะระเบิดอยู่แล้ว ผมจะเริ่มพูดยังไงดีนะ
"มารออะไรหรอจูฮอน" ในที่สุดคนตัวเล็กก็เป็นคนทำลายความเงียบนั้นลง
"มารอคำตอบจากอิมไง เรื่องที่เราถามไปเมื่อกลางวัน"
"เอ๊...แล้วเมื่อกลางวันเธอพูดกับเราว่ายังไงบ้างนะ พอดีเป็นคนขี้ลืมว้าแย่จังเนอะ" เขาตอบพร้อมกับส่งยิ้มน่ารักๆมายังผม
เนี่ยยยยยย! เป็นซะแบบนี้จะไม่ให้ผมหลงได้ยังไงกันนะ ทั้งน่ารักและขี้เล่น ใจของไอ้จูฮอนคนนี้จะละลาย
"ก็...เราชอบอิมนะ ชอบมาปีกว่าแล้วด้วย ที่เข้าทีมฟุตบอลก็เพราะอิม
คือ...ถ้าอิมยังไม่มีใคร ให้โอกาสเราดูแลอิมได้ไหม? "
ผมก้าวเท้าไปก้าวนึงเพื่อจะได้จับมือและมองหน้าของอิมถนัดๆ หลังจากสิ้นคำถามของผม รอยยิ้มของคนตรงหน้าก็หายไป เหลือไว้แต่ใบหน้านิ่งๆที่เดาอารมณ์และคำตอบไม่ถูก
"ไม่คิดบ้างหรอว่าเราจะมีแฟนแล้ว?" คนตัวเล็กถามขึ้น
"ไม่รู้ดิ แต่เราคิดว่ายังไม่มีเพราะถ้ามีจริงๆ คนชอบถ่ายรูปอย่างอิมต้องถ่ายลงโซเชียลแน่ๆเราคอยตามส่องอิมตลอดแหละ เราไม่เคยเห็นเลย และอีกอย่างถ้ามีเธอคงปฎิเสธเราไปตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้ว"
"แล้วคนคุยอ่ะ ไม่คิดว่าเราจะมีหรอ?"
"อันนี้เราไม่รู้จริงๆอ่ะ แต่คนชอบอิมเยอะมาก เราคิดว่าคงมีหลายคนเข้ามาขอดูแลอิมแบบที่เราทำแน่เลยใช่ไหม?"
"อื้อ เยอะเลยแหละ"
"ไม่เป็นไร เราขอโอกาสสู้กับคนพวกนั้นนะอิม"
"เรายังพูดไม่จบเลย เราจะบอกว่าเราปฎิเสธคนพวกนั้นไปหมดแล้วล่ะเพราะเรารอคนๆนึงอยู่"
"อะ..อ้าว อิมมีคนที่ชอบแล้วหรอ" ผมรู้ตัวเลยว่าหน้าของผมมันเจื่อนลงมากอย่างเห็นได้ชัด แน่อยู่แล้ว อิมมีคนในใจแล้ว และผม...จะไปสู้อะไรเขาได้...
"จูฮอน ไม่อยากรู้หรอว่าคนนั้นเป็นใคร" อิมเอียงคอถามผมด้วยท่าทางน่ารักๆ
เฮ้อ อย่างนี้สินะที่เขาบอกกันว่า คนน่ารักมักใจร้าย รู้ก็รู้ว่าผมชอบ ยังจะมาอวดคนในใจอีก
"อือ บอกมาสิว่าผู้โชคดีคนนั้นคือใครหรอ" ผมตอบไปพร้อมกับฝืนยิ้มสุดแรง
"ก้มลงมาหน่อยดิ จะให้พูดดังๆมันเขินนะ" คนตัวเล็กทำมือบอกให้ผมก้มลงมา เพื่อเขาจะได้กระซิบบอกได้ง่ายๆ
อ่าา...ผมอยากเป็นคนที่ทำให้อิมเขินได้บ้างจัง...แต่มึงมันคนนกไง อีจูฮอน....
เมื่อผมก้มตัวลงเพื่อฟังคำตอบของอิม ทันใดนั้นก็มีสัมผัสนุ่มๆประทับลงบนแก้มของผม ผมตกใจมากและทำอะไรไม่ถูก แต่กลับกันคนตรงหน้าที่เพิ่งหอมแก้มผมไปกลับยิ้มอย่างร่าเริงและสดใสมากกว่าทุกวันที่ผมเคยเห็น ทั้งยังพูดออกมาด้วยเสียงน่ารักๆว่า...
"ผู้โชคดีคนนั้น ก็คือคนที่เราเพิ่งหอมแก้มไปตะกี้ไง อีจูฮอน :) "
---------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะทุกคน ผู้หญิงล้านอารมณ์นะคะ
จะบอกว่าเรื่องนี้เป็นฟิคที่จบภายในตอนเดียวเรื่องแรกของเราเลยนะ
ได้พล็อตมาเมื่อเย็นนี้เอง ตอนเราอยู่บนรถแล้ววิทยุเปิดเพลงดาวของพอส
หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะคะ ยังไงก็มาพูดคุยและมาร่วมหวีดกันได้ที่แท็ก
#คลังฟิคผู้หญิงล้านมูด
ทุกการรีทวิต ทุกฟีดแบ็คของคุณเป็นกำลังใจสำคัญแก่เรานะคะ//กอด
---------------------------------------------------------------------------------------------
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in