เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
OnceK ToKa
Once
  • อะไรคือสิ่งที่ทำให้ผมกลับมาเขียน blog อีกครั้ง?

    เป็นคำถามที่ไม่มีใครถาม แต่เป็นผมที่ถามตัวผมเอง มันเหมือนเป็นความรู้สึกบางอย่าง ลึกๆในใจ แต่ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกนั้นยังไง รู้แค่ว่า มันต้องเขียนละ

    ถ้าเป็นสมัยก่อนที่เขียน blog อยู่ที่ exteen ก็จะมีการเขียน content ต่างๆสลับกันกับเขียนเกี่ยวกับชีวิตตัวเอง พอยุค exteen ล่มสลาย และมาเขียนที่นี่ เลยกลายเป็นว่าเขียนเล่าถึงแต่ชีวิตของตัวเองเพียงอย่างเดียว อาจเป็นเพราะไม่สนใจในการทำ content ต่อละมั้ง บวกกับช่วงนั้นผมอ่านหนังสือที่เล่าเกี่ยวกับชีวิตของนักเขียน มันก็เลยซึมซับและเขียนออกมาเป็นเล่าชีวิตตัวเอง

    อันที่จริง การเขียนเล่าถึงตัวเองลงในนี้ มันดูไม่ค่อยเป็นส่วนตัวซักเท่าไร ก็นะ ใครจะเป็นบ้าเล่าชีวิตของตัวเองให้ใครอ่านกันล่ะ ถ้าไม่มีใครมาสัมภาษณ์จริงๆจังๆ 

    แต่สุดท้าย เราก็ยอมที่จะเสียความเป็นส่วนตัว เพื่อแลกกับความสบายใจ เพราะอย่างน้อย คนเราก็ต้องการพื้นที่ในการระบายความรู้สึกนึกคิดออกมา หากเราเก็บความรู้สึกนั้นไว้ โดยไม่ปล่อยออกมา มันก็คือระเบิดดีๆนี่เอง ถ้ามันระเบิดขึ้นมา ความเป็นเราก็จะพังพินาศทันที 

    เพื่อไม่ให้เราสูญเสียถึงสภาพจิตใจ และยังพอประคับประคองตัวเราภายใต้โลกใบนี้ที่ไม่เคยคิดจะปราณีเราเลยแม้แต่น้อย 

    การเขียนก็แลดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
  • ผมเป็นคนชอบคิด คิดนู่นคิดนี่ไปเรื่อย 

    คิดถึงงานที่ยังทำไม่เสร็จและยังไม่รู้จะไปต่อยังไง 
    คิดถึงวันพรุ่งนี้ว่าจะต้องออกไปซื้อของอะไรบ้าง 
    คิดว่าจะต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ 
    และที่สำคัญ คิดถึงเรื่องเก่าๆ

    ถึงแม้ว่า บางเรื่องมันอาจจบไปเป็นชาติเศษจนคนในเรื่องเขาลืม เขา move on ไปไหนต่อไหนแล้ว แต่ถ้ามีบางสิ่งบางอย่างที่กระตุ้นทำให้นึกถึงเรื่องนั้นได้ มันก็นึกขึ้นได้อยู่ดี ไม่ว่าจะเพลง สถานที่ หรือภาพถ่าย

    ผมเป็นคนที่ชอบถ่ายรูป และรูปที่ถ่ายก็เยอะมากๆและแทบจะไม่ได้ลบรูปทิ้งเลยด้วยซ้ำ (จะลบก็แค่ภาพที่ถ่ายมันมืดไป สว่างไป ถ่ายไม่ชัด ก็ลบเดี๋ยวนั้นเลย) สิ่งที่ผมรู้สึกเกลียดนิดหน่อยก็คือ ตอนที่ค้นรูปถ่ายไปเรื่อยๆ ในหัวสมองเราก็จะนึกถึงแต่เหตุการณ์ในรูปถ่ายนั้น นึกถึงคนๆนั้น และภาพทุกอย่างก็จะมาเป็นฉากๆ 

    กลายเป็นว่า ค้นรูปทุกครั้งก็ต้องมาถอนหายใจทุกครั้ง และที่เลยเถิดคือ ดันไปคิดถึงเหตุการณ์ข้างเคียงที่ไม่ได้อยู่ในรูปถ่ายด้วย 

    ถ้าดีหน่อย นอนคิดๆไปก็ผลอยหลับไปเอง แต่ถ้าแย่มากๆก็คือ นอนไม่หลับไปเลย

    ผมเคยคิดเล่นๆว่า ตัวเองจะนึกถึงเรื่องที่เก่าที่สุดย้อนกลับไปกี่ปี พอคิดไปคิดมาก็พอรู้ตัวเองว่า เรื่องที่เก่าที่สุดก็คือตอนก่อนอนุบาล 1 ปีแหละมั้ง ถ้าเก่ากว่านั้นคงต้องเอารูปถ่ายมาให้ดูแล้วล่ะ เพราะตอนนั้นคงเด็กเกินไปที่จะไปจำอะไรได้

    อันที่จริง การคิดถึงเรื่องเก่าๆมันก็ดีตรงที่ ถ้านึกขึ้นมาได้และจำได้ว่ายังไม่ได้เขียนลง blog ก็อาจเอามาเขียน (ฮ่าๆ) แต่มันจะไม่ดีหน่อยๆตรงที่เรามักโหยหาความสุข ณ ตอนนั้น จนอดคิดไม่ได้ว่า

    มันจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกไหมนะ
  • ความเซ็งบางอย่างสำหรับการเขียน blog ลงที่นี่ก็คือ ต้องหารูปมาใส่ปกใส่ cover ซึ่งผมไม่รู้ว่าไม่ใส่ได้ไหมนะ (แต่ก็น่าจะได้แหละ) มันทำให้ผมต้องมาค้นรูปที่จะใส่ และมันก็เข้าลูปเดิม นึกขึ้นได้อีกแล้ว นึกเก่งจริงจริ๊ง!

    พอค้นไปค้นมา ก็ไปเจอรูปหนึ่ง เป็นรูปที่พื้นหลังสีเงินหน่อยๆและมีตัวอักษรสีแดงเขียนว่า ONCE ที่แปลว่า "ครั้งหนึ่ง" (ไอ้ที่เขียน ไม่ใช่ผมเขียนนะ ใครเขียนไม่รู้ ต้องบอกไว้ก่อนเดี๋ยวจะหาว่าผมเป็นคนทำลายทรัพย์สินสาธารณะ) มันเป็นรูปที่ผมถ่ายตรงบันไดของสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เห็นว่ามันน่าสนใจเลยถ่ายเก็บไว้ ตอนนั้นผมถ่ายตอนสิ้นปี 2016 ผ่านมาเกือบ 4 ปี ผมก็ไม่รู้นะว่าคำว่า ONCE มันจะถูกลบออกไปหรือยัง 

    และคำว่า ONCE มันดูมีพลังขึ้นมาทันที เมื่อทำให้เราสามารถนึกถึงเหตุการณ์ที่ "ครั้งหนึ่ง" เราเคยถ่ายเก็บเอาไว้


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in