เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ใครว่าเกาหลีมีแค่โซลonenineninefive
48 ชั่วโมงอินโซล
  • S - E - O - U - L ทุกครั้งที่พูดถึงเราก็จะต้องร้องเป็นเพลงทุกครั้ง 

    โซล หรือ ซออุล เมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้ ศูนย์รวมความเจริญ เศรษฐกิจ ประวัติศาสตร์ ศิลปะดนตรี วัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยว 

    การเดินทางของเราเริ่มต้นจากสถานีรถไฟความเร็วสูง (KTX) ดงแดกู (Dongdaegu) เวลา 7 โมงกว่า ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงก็เดินทางถึงสถานีโซล (Seoul Station) ค่าเดินทาง 43,500 วอน 

    รถไฟ KTX

    เหมือนในเรื่อง Train to Busan เลย 

    รถไฟมาถึงที่โซลเวลา 9 โมงกว่า สถานที่แรกที่เราจะไปคือ Lotte World จากสถานี Seoul สายสีฟ้า นั่งไปยังสถานี Jamsil สายสีเขียว เราหลงทางกันนิดหน่อยช่วงที่เดินจากสถานี KTX ไปรถไฟใต้ดินใช้เวลาประมาณนึงเลยกว่าจะเดินถูก เมื่อเรามาถึงสถานี Jamsil เดินตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆก็จะเจอสวนสนุกซึ่งเป้าหมายของการมาในครั้งนี้เพื่อมาถ่ายรูปโดยเฉพาะ พวกเราเลยตั้งใจจะซื้อแค่ตั๋วเดินเที่ยวในสวนสนุกเท่านั้นและก็เป็นราคาตั๋วที่ถูกที่สุด แต่แล้วก็ผิดแผนเพราะราคาที่ตั๋วที่รวมเครื่องเล่นกับตั๋วเดินเที่ยวอย่างเดียวราคาไม่ต่างกันมากนัก ซึ่งเรากับเพื่อนคิดแล้วว่าไม่คุ้มเนื่องจากหากเล่นเครื่องเล่นด้วยเราคงต้องเสียเวลาไปทั้งวัน ทำให้เราตัดสินใจเปลี่ยนแผนกะทันหันโดยการไปเดินเล่นที่ห้าง Lotte World Mall ที่ติดอยู่กับสวนสนุกแทน และเรากินข้าวกลางวันกันที่นั่น

    ราคาค่าเข้าสวนสนุก Lotte World เมื่อเดือนกรกฎาคม 2561

    มื้อกลางวันมื้อแรกในโซล 

    ทานอาหารกลางวันกันเสร็จเรียบร้อยเราจะเดินทางไปยังที่พักกัน ที่พักของเราอยู่ในย่านฮงแดดังนั้นเราจึงนั่งรถไฟใต้ดินจากสถานี Jamsil สายสีเขียวไปยังสถานี Hongik University สายสีเขียว ทางออก 3 จากสถานีไปยังที่พักของเราที่ชื่อว่า Hi Jun Guest House ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ที่พักดูดีเลย เราจองที่พักผ่าน Booking.com ห้องสำหรับ 4 คน คืนละประมาณ 2 พันกว่าบาท มีอาหารเช้าให้ด้วย

    ด้านหน้าที่พัก

    ภายในห้องพัก 

    สวนที่ผ่านระหว่างเดินไปที่พัก

    บรรยากาศร่มรื่น

    เมื่อเราเช็คอินและเก็บของกันเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาออกเดินทางอีกครั้ง ที่แรกที่เราจะไปกันคือ Line Friends Store สาขา Itaewon เราเลือกจะไปสาขานี้เพราะเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุด มีด้วยกันถึง 3 ชั้น ประกอบไปด้วยร้านขายของที่ระลึก คาเฟ่ และยังมีตัวการ์ตูนจาก BT 21 อีกด้วย การเดินทางนั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Itaewon ทางออก 3 เดินตรงไปข้างหน้าไม่ไกลก็จะเจอตึก Line Store อยู่ทางขวามือ
    น้องๆน่ารักมากเลย

    เสร็จจากอิแทวอนไปต่อกันที่ย่านที่ทุกคนจะต้องไปกันนั่นก็คือ เมียงดง (Myeongdong) ประเดิมที่แรกด้วย Daiso ความพิเศษของสาขานี้คือมีด้วยกันทั้งหมด 8 ชั้น เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินเช่นเคยลงสถานี Myeongdong สายสีฟ้า ทางออก 1 เดินย้อนกลับแป๊บเดียวก็ถึงเลย คำเตือนในการเข้าร้านไดโซะคือระวังจะออกจากร้านไม่ได้ 


    ใช้เวลาประมาณหนึ่งอยู่ในร้านไดโซะจากนั้นเราก็เดินเข้าไปยังย่านเมียงดงเสียที ตอนแรกคิดว่าเมียงดงคงไม่ค่อยมีอะไรหรอกเดินแป๊บเดียวแล้วค่อยไปเดินต่อที่อื่นแล้วกัน แต่ครั้งหนึ่งที่เครื่องติดแล้วเราก็ไม่สามารถห้ามตัวเองได้อีกต่อไป เข้าร้านนู้นออกร้านนี้ อาหารเย็นไม่จำเป็นอีกต่อไปสำหรับช่วงเวลานี้ พวกเราเดินซื้อของกันไปเรื่อยๆจนหมดวันก็กลับเข้าที่พักเพื่อนอนเอาแรงสำหรับวันพรุ่งนี้อีกวัน

    โอเด้งรองท้อง

    เมียงดงยามค่ำคืน



  • ก่อนที่จะออกไปผจญภัยในวันที่สอง ณ กรุงโซล เติมพลังด้วยอาหารเช้าบริการตัวเองจากเกสต์เฮ้าส์

    มื้อเช้าของวัน

    สถานที่แรกที่จะไปของวันนี้คือ พระราชวังคยองบกกุง (경복궁) สร้างขึ้นในปี 1395 เป็นพระราชวังหลวงในราชวงศ์โชซอน ตั้งอยู่ทางทิศเหนือจึงเรียกว่า พระราชวังทิศเหนือ ครั้งหนึ่งเคยถูกเผาทำลายเนื่องจากการรุกรานของญี่ปุ่นในสงครามอิมจิน (Imjin War) (Gyeongbokgung, 2561) การเดินทาง ใช้บริการรถไฟใต้ดินลงสถานี Gyeongbokgung Palace ทางออก 5 เดินไปไม่ไกลก็จะถึงประตูทางเข้าพระราชวัง ค่าเข้าราคาผู้ใหญ่คนละ 3,000 วอน หากสวมชุดฮันบกจะไม่เสียค่าเข้า เวลาเปิด-ปิดของพระราชวังในแต่ละฤดูจะไม่เหมือนกัน ช่วงที่เราไปจะเดือนมิถุนายน-สิงหาคมเปิด 09:00-18:30 น. 

    ฟ้าโปร่งถ่ายออกมาแล้วสวย
    แดดดีจริงๆ

    สถานีต่อไป ฮงแด (Hongdae) เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินลงสถานี Hongik University ทางออก 9 เราเริ่มจากไปกินมื้อกลางวันกันที่ เซมาอึลชิกตัง (새마을식당) ร้านปิ้งย่างหาไม่ยากอยู่ริมถนนเลย เราสั่งแบบเป็นเซ็ต

    หมูจะบางๆหน่อย

    ท้องอิ่มแล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อ สถานที่ต่อมาคือ Cafe de One Piece คาเฟ่และร้านขายของที่ระลึกของวันพีซ เดินตรงไปทางถนนใหญ่ โดยคาเฟ่จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหน้ามหาวิทยาลัย ระหว่างทางไปจะเจอร้านเสื้อผ้าพวก Sun Flower, Tomato Library อยู่ฝั่งเดียวกันเดินตรงไปเรื่อยๆแล้วเลี้ยวเข้าซอยไปนิดนึง
    เรือ thousand sunny

    จาก Cafe de One Piece ข้ามไปฝั่งตรงข้ามหันไปทางขวาเดินไปนิดเดียวก็จะถึง Studio Ghibli Collection (도토리숲) ร้านขายของที่ระลึกและมุมถ่ายรูปน่ารักๆกับเหล่าตัวการ์ตูนจากสตูดิโอจิบลิอย่างโตโตโร่ รถบัสแมวจากเรื่องโตโตโร่ คาโอนาชิ 

    ด้านบนของร้านจะเป็นร้านทำผม

    จากนั้นเราก็เดินไปช็อปปิ้งในฮงแด ทั้งร้านเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง และอื่นๆอีกมากมายจนหมดเวลา
    ย่านฮงแด

    ได้เวลากลับแล้ว หลังจากไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่เกสต์เฮ้าส์เรียบร้อย เราก็นั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Seoul เพื่อขึ้นรถไฟความเร็วสูง KTX กลับไปที่แดกู

    Seoul to Daegu

    ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงก็เดินทางถึงแดกู เราแวะกินข้าวมื้อดึกที่สถานีก่อน จากนั้นก็กลับหอพักไปพักผ่อนหลังจากที่ตะลอนกันมาทั้งวัน 

    เนื้อพูลโกกิ

    เป็นอันจบทริปโซลแบบสั้นๆสุดสัปดาห์เสาร์อาทิตย์ หากมีโอกาสหน้าคงจะได้ใช้เวลาในโซลมากขึ้น 

    หวังว่าจะได้พบกันอีกนะ...โซล
    또 만나요.

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in