ปุ่มสีแดง อาวุธชิ้นสุดท้ายที่จะเปลี่ยนรถของตัวเองให้กลายเป็นอาวุธ มันมีอยู่ติดรถของเจมส์บอนด์แทบทุกคัน ตั้งแต่ยุคปู่โรเจอร์ มัวร์ (RIP) ลุงเพียร์ซ บรอสแนน หรือเฮียแดเนียล เคร้ก (อย่าถามถึงปู่ฌอณ จำไม่ได้ละ)

มันถูกใช้เมื่อไหร่? ก็เมื่อถึงสถานการณ์ที่พระเอกถูกต้อนจนเกือบหมดท่า จนรถนั้นหมดประโยชน์แล้ว นอกเสียจากจะใช้เป็นอาวุธครั้งสุดท้าย เพื่อพลิกสถานการณ์จากรับเป็นรุก

คนดูอย่างเรา ถูกปลุกเร้าด้วยเสียงเพลงประกอบที่ชวนตื่นเต้น คอร์ดดิสโซแนนซ์ที่ฟังดูชวนอึดอัด มีวรรคตอนชวนระทึกตามจังหวะนาฬิกาตัวเลขสีแดงนับถอยหลังถึงเลขศูนย์ ภาพตัดไปมุมกว้างเห็นรถระเบิดเป็นจุลพร้อมกับเหล่าร้ายที่มะงุมมะงาหราอยู่รอบรถ 

"คิว" เตือนสหายบอนด์ทุกครั้ง ให้เอารถกลับมาคืนในสภาพดี แต่ยังดันติดปุ่มทำลายตัวเองมาให้เสมอ ราวกับรู้ว่าจะได้ใช้งาน

ปุ่มสีแดงนี้ ได้ผลแทบทุกครั้ง แต่ก็แค่ลูกกระจ๊อกเท่านั้น ระดับบอสไม่เคยสะเทือนด้วยการทำลายเยี่ยงนี้เลย

แต่รู้ไหม? พระเจ้าก็แอบสร้างปุ่มนี้มาไว้กับคนเราเหมือนกัน 

คนที่มีสภาพจิตดีๆ ไม่มีใครอยากกดปุ่มนี้หรอก เพราะมันเป็นอาวุธชิ้นสุดท้าย แต่ในสถานการณ์ที่จนมุมและมืดบอด ปุ่มสีแดงนี้ดันแลดูมีเสน่ห์ สเกลความอยากใช้มีตั้งแต่หาอะไรมาปิดมันไว้ ไปจนถึงขอลูบคลำหน่อย และไปสุดเอาที่ ไม่ไหวแล้วกรูขอกดสักทีเหอะวะ ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป

ไม่มีเพลงมาบิวด์อารมณ์อะไรทั้งนั้น ทั้งก่อนและหลังกด

ปุ่มสีแดงนี้ ไม่ว่ามันจะได้ผลในเชิงทำลายตัวเองหรือไม่ (ชนวนไม่แรงพอ มีพระเอกสวมชุดกาวน์สีขาวมาช่วยทัน ฯลฯ) แต่ที่แน่คือ ผลที่วิบัติขึ้นหลังจากคุณรวบรวมความกล้ากดมันลงไปแล้ว

ถ้ามันได้ผล สถานการณ์ของคุณไม่ได้ดีขึ้นเลย รถพังซ่อมไม่ได้ แถมประกันไม่จ่ายด้วย

ถ้ามันแป๊ก ตัวคุณอาจไม่เสียหายมากนัก ก็บุญไป แต่เกิดบาดแผลแน่ๆ ทั้งกับตัวคุณเองและกับคนรอบข้าง 

ถ้าไม่ตายตกตามไปด้วย เขาก็คงไม่อยากเข้าใกล้ "รถ" ของคุณอีกแล้ว มันเจ็บนะที่โดนระเบิดใส่ 
ถ้าวันข้างหน้ายังมีอยู่ความคิดบ้าง ก็ประคองรถไปก่อนเถอะ ปิดฝาครอบปุ่มนี้ไว้เหมือนเดิม อย่าไปลูบไล้มันมากนัก 

อย่าลืมว่า ปุ่มบัดซบนี่ คุณเลือกกดได้ครั้งเดียว 

และอย่าริอ่านบอกใครๆ ว่า คุณถูกสถานการณ์บีบบังคับ

เพราะสุดท้าย คนที่กดปุ่มสีแดงนี้ได้ คือคุณคนเดียว

---

photo cr: www.laptopmag.com